สงครามอัฟกานิสถาน : สันติภาพที่สั่นคลอน หลังเหตุโจมตีงานศพ-แผนกทำคลอดในโรงพยาบาล

Loading

เหตุการณ์ที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีแผนกทำคลอดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย ทั้งแม่ ทารกแรกเกิด และพยาบาล ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถานแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุซึ่งเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลดาชต์-อี-บาร์ชี ในกรุงคาบูล กลุ่มตาลีบันเองก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอส ออกมาบอกว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่งานศพนายตำรวจ ชั้นผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งทางตะวันตกของประเทศ เหตุรุนแรงสองเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันคือเมื่อวันที่ 12 พ.ค. สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการเจรจาสันติภาพช่างเปราะบางแค่ไหน และความหวังว่าสงครามที่ดำเนินมาหลายทศวรรษจะสิ้นสุดก็ยิ่งริบหรี่เข้าไปใหญ่ ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ได้สั่งให้กองทัพหันไปเริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มตาลีบัน และกลุ่มติดอาวุธ อื่น ๆ อีกครั้ง เขากล่าวหาว่ากลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ไม่ได้สนใจคำขอร้องให้ลดละการก่อเหตุลงเลย นสพ.นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวันที่ 12 พ.ค. วันเดียว ราว 100 คน เกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาล ราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 ระลอก ส่วนแพทย์คนหนึ่งที่หนีออกมาจากโรงพยาบาลดาชต์-อี-บาร์ชี ในกรุงคาบูล บอกบีบีซีว่า มือปืนลงมือก่อเหตุขณะที่มีคนอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 140 คน…

ซาอุดีอาระเบีย : เมื่อเศรษฐีน้ำมันเผชิญปัญหารุมเร้าทั้งเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ

Loading

จากเคยเป็นประเทศปลอดภาษี ตอนนี้ซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสามเท่าจาก 5% เป็น 15% และยกเลิกเงินช่วยเหลือประชาชนรายเดือนตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป นโยบายนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงจนต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของราคาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้รายได้ของรัฐบาลหดหายไป 22% และโครงการใหญ่ ๆ ทั้งหลายต้องหยุดชะงัก ซาอุดิ อรัมโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียมีผลกำไรลดลง 25% ในไตรมาสแรกของปี สาเหตุหลักก็คือราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลง “มาตรการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการคุมค่าใช้จ่ายและพยายามให้ราคาน้ำมันคงที่” ไมเคิล สตีเฟนส์ นักวิเคราะห์ด้านอ่าวอาหรับกล่าว เขาบอกด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศกำลังย่ำแย่และต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมาเป็นปกติ โรคโควิด-19 กำลังสร้างความปั่นป่วนให้เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพึ่งพาแรงงานทักษะต่ำหลายล้านคนจากเอเชีย โดยมากแรงงานเหล่านี้อาศัยในสถานที่แออัดและสกปรก ขณะเดียวกัน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งยังได้รับความนิยมในประเทศอย่างมาก ก็ยังถูกชาติตะวันตกตีตัวออกห่างหลังมีข้อสงสัยว่าพระองค์พัวพันกับคดีสังหารจามาล คาชูจกิ นักข่าวซาอุฯ ในปี 2018 นับจากนั้นมาความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติก็ลดถอยลง และยังไม่ฟื้นตัวจนถึงบัดนี้ นอกจากนี้ สงครามกับเยเมนที่ยืดเยื้อมากว่า 5 ปี ก็ทำให้ซาอุฯ แทบหมดหน้าตักโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร และยังมีวิกฤตการทูตกับกาตาร์ที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 6 ประเทศในกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอาหรับสั่นคลอน ปัญหารอบด้านแบบนี้ ซาอุฯ กำลังเจอวิกฤตหนักหรือไม่ พลังฟื้นตัวจากภายใน หากมองภาพรวม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกพังไปตาม…

FBI จับนักวิจัยเชื้อสายเอเชียทำงานให้ “NASA” ปกปิดเกี่ยวข้องกับรัฐบาลปักกิ่ง-บ.จีน

Loading

เอเจนซีส์ – กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯล่าสุดแถลงข่าวจับกุมตัว ศาสตราจารย์ ไซมอน ซอว์-เทือง อั่ง (Simon Saw-Teong Ang) วัย 63 ปี จากมหาวิทยาลัยในรัฐอาร์คันซอ ที่ถูกจับในวันศุกร์ (8 พ.ค.) ซึ่งทำงานให้กับองค์การนาซา เขาถูก FBI จับในข้อหาฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์และปกปิดความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนและบริษัทจีน CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (13 พ.ค.) ว่า ไซมอน ซอว์-เทือง อั่ง (Simon Saw-Teong Ang) วัย 63 ปี ศาสตราจารย์วิศวกรรมศาสตร์สาขาไฟฟ้าประจำมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ-เฟเยตต์วิล (University of Arkansas-Fayetteville) หรือ (UA) ที่ทำงานให้กับมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี 1988 ปกปิดองค์การบริหารอวกาศ NSA ของสหรัฐฯ และมหาวิทยาลัยที่เขาทำงานให้ด้วยการปกปิดว่า ***เขามีตำแหน่งในมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทจีน*** ทางโดยในคำร้องของ FBI ระบุว่า เป็นการละเมิดนโยบายผลกระโยชน์ทับซ้อน อ้างอิงจากคำร้องที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐฯสำหรับเขตตะวันตกของรัฐอาร์คันซอ กล่าวว่า “อั่งได้ให้การเท็จและไม่ยอมรายงานการทำงานนอกมหาวิทยาลัย UA…

มือปืนโจมตีแผนกคลอด รพ.คาบูล ดับ13ศพบาดเจ็บอื้อ

Loading

13 พ.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกโจมตีแผนกสูติกรรม หรือแผนกคลอดบุตรของโรงพยาบาล ‘ดาช-เต-บาร์ชี’ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 12 พ.ค. 2563 ทำให้เด็กทารกเสียชีวิต 2 ศพ แม่เด็กกับพยาบาลเสียชีวิตอีก 11 ศพ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 15 คน เป็นเด็กจำนวนมาก นายทารัก อาเรียน โฆษกกระทรวงกิจการภายในอัฟกานิสถาน แถลงว่า คนร้าย 3 คนยึดโรงพยาบาลบาจีหลายชั่วโมงนับจากช่วงเช้า ส่วนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพร้อมอาวุธครบมืออุ้มทารกออกจากพื้นที่ มีอย่างน้อย 1 คน ถูกห่ออยู่ในผ้าห่มเปื้อนเลือด ด้านกุมารแพทย์ที่หนีจากโรงพยาบาลมาได้กล่าวว่า ตนเองได้ยินเสียงระเบิดเสียงดังที่ทางเข้าตึก โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วย แพทย์ที่หวั่นวิตกอยู่ภายใน ทั้งนี้โรงพยาบาลที่ตกเป็นเป้าโจมตีได้รับการสนับสนุนจากองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน หรือเอ็มเอสเอฟ มีชาวต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาอีก 1 ชั่วโมง เกิดเหตุก่อการร้ายสังหารหมู่อีก ที่จังหวัดนันการ์ฮาร์ ทางตะวันออกของประเทศ มือระเบิดพลีชีพบุกจุดชนวนระเบิดกลางพิธีศพผู้บัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน หลังเหตุการณ์นี้ กลุ่มตาลิบันปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ส่วนทางการเผยว่าพื้นที่ดังกล่าวติดพรมแดนปากีสถาน เป็นแหล่งซ่องสุมของไอเอส…

อัฟกันระทึก! มือปืนบุกยิงทารก-แม่ดับ 16 ศพกลางรพ.คาบูล บึ้มงานศพ ‘ผบ.ตำรวจ’ ตายเกลื่อนอีก 24 ศพ-เจ็บอื้อ

Loading

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอัฟกันอุ้มทารกน้อยคนหนึ่งออกมาจากโรงพยาบาลในกรุงคาบูล ซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธโจมตีเมื่อวันที่ 12 พ.ค. รอยเตอร์ – กลุ่มติดอาวุธซึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจบุกกราดยิงแม่และทารกแรกคลอดเสียชีวิต 16 รายที่แผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลในกรุงคาบูล ซึ่งบริหารงานโดยองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) และในวันเดียวกันยังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีงานศพผู้บัญชาการตำรวจที่จังหวัดนันกาฮาร์ (Nangahar) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งไปร่วมงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บอีก 68 ราย SITE ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย ระบุว่า กลุ่มรัฐอิสลามโคราซาน (Islamic State Khorasan) ซึ่งเป็นเครือข่ายของไอเอสในอัฟกานิสถานได้ออกมาอ้างผลงานสำหรับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่นันกาฮาร์ ส่วนปฏิบัติการโจมตีโรงพยาบาลคาบูลนั้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ ตอลิบานซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์รายใหญ่ที่ก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถานปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีทั้ง 2 จุด โดยยืนยันว่าได้ยุติการโจมตีเมืองใหญ่ๆ แล้วตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ เหตุยิงถล่มโรงพยาบาลเกิดขึ้นในช่วงเช้าวานนี้ (12) โดยมีมือปืนอย่างน้อย 3 คนสวมเครื่องแบบคล้ายตำรวจบุกเข้าไปที่โรงพยาบาล ดัชต์-อี-บาร์ชี จากนั้นก็เริ่มขว้างปาระเบิดมือและกราดยิงใส่ผู้คนแบบไม่เลือกหน้า ก่อนที่หน่วยความมั่นคงจะวิสามัญฯ คนร้ายทั้งหมดได้ในช่วงบ่าย “คนร้ายยิงใส่ผู้คนในโรงพยาบาลอย่างไร้เหตุผล ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของรัฐ จึงมีประชาชนพาภรรยาและลูกมารับการรักษาเป็นจำนวนมาก” รามาซาน อาลี พ่อค้าที่ขายของอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลขณะเกิดเหตุ ระบุ โรงพยาบาลขนาด…

FBI เผย ‘แฮกเกอร์จีน’ พยายามล้วงข้อมูลงานวิจัย ‘วัคซีนต้านโควิด-19’

Loading

เอเอฟพี – สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์เชื่อว่าแฮกเกอร์จีนกำลังพยายามขโมยข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สื่อมะกันรายงานวานนี้ (11 พ.ค.) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลและนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า เอฟบีไอและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ มีแผนออกหนังสือเตือนเกี่ยวกับปฏิบัติการของแฮกเกอร์จีน ในขณะที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนทั่วโลกกำลังเร่งคิดค้นวัคซีนที่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าแฮกเกอร์จีนกำลังพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับวิธีรักษาและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่าจารชนไซเบอร์กลุ่มนี้มีส่วนเชื่อมโยงถึงรัฐบาลจีน และคาดว่าจะมีคำเตือนออกมาอย่างเป็นทางการภายในอีกไม่กี่วัน จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน รีบออกมาปฏิเสธข้อครหาดังกล่าว โดยยืนยันว่ารัฐบาลปักกิ่งต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ “เราก็เป็นผู้นำโลกในด้านการรักษาและคิดค้นวัคซีนต้านโควิด-19 การสร้างข่าวลือมาโจมตีและให้ร้ายจีนโดยปราศจากหลักฐานจึงเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม” จ้าว ระบุ เมื่อถูกถามถึงรายงานในสื่อชั้นนำทั้ง 2 ฉบับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะยืนยัน แต่บอกว่า “มีเรื่องอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับจีนอีกล่ะ? มีอะไรใหม่เหรอ? บอกผมมาสิ ผมไม่แฮปปี้กับจีนเลย” “เรากำลังตามดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเสริม ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า แฮกเกอร์ซึ่งมีรัฐบาลหนุนหลังในอิหร่าน, เกาหลีเหนือ, รัสเซีย และจีน ทำกิจกรรมมุ่งร้ายที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่ (pandemic) ตั้งแต่การเผยแพร่เฟคนิวส์เรื่องไปจนถึงการเล่นงานนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรทางการแพทย์ นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า คำเตือนที่ออกมาอาจนำไปสู่ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้โดยหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบด้านสงครามไซเบอร์…