อิสราเอลชี้’ฮิซบอลเลาะห์’ มี’คลังแสง’ใกล้สนามบินเบรุต

Loading

ผู้นำอิสราเอลแถลงต่อสมัชชายูเอ็น ยกย่องข้อตกลง “สันติภาพ” กับยูเออีและบาห์เรน ประณามอิหร่าน และกล่าวว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์มี “คลังแสง” ในเขตชุมชน ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติ ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อวันอังคาร ว่าแม้ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่ “ไม่ค่อยมีข่าวดีให้ชาวโลกได้รับทราบ” แต่เมื่อกลางเดือนนี้รัฐบาลเทลอาวีฟลงนามอย่างเป็นทางการในข้อตกลง “อับราฮัม” ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ “ระดับปกติอย่างเป็นทางการ” กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และบาห์เรน พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ประเทศที่เหลือในโลกอาหรับจะทยอยเข้าร่วม “วัฏจักรแห่งสันติภาพ” เนทันยาฮูใช้เวลาส่วนใหญ่กล่าวถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ “ไม่เหนือความคาดหมายมากนัก” จากการที่ผู้นำอิสราเอลยังคงประณามอิหร่าน ว่าก้าวร้าวและคุกคามประเทศร่วมภูมิภาคทั้งทางตรง และทางอ้อมผ่านการทำสงครามตัวแทน ทั้งในซีเรีย เยเมน ฉนวนกาซา และเลบานอน ที่เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่บริเวณท่าเรือ ในกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต “อย่างน้อย 200 คน”…

กรณีศึกษา Shopify ทำข้อมูลลูกค้ารั่วไหลเพราะคนในแอบขโมยข้อมูล (insider threat)

Loading

Shopify เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ รองรับทั้งการแสดงผลร้านค้าและการชำระเงิน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 บริษัท Shopify ได้ประกาศแจ้งสถานการณ์ข้อมูลรั่วไหล โดยสาเหตุเกิดจากพนักงานฝ่ายสนับสนุนจำนวน 2 คนเข้าถึงข้อมูลบันทึกการชำระเงินของลูกค้ากว่า 200 รายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่ตรวจพบเหตุการณ์ดังกล่าวทางบริษัทได้ตัดสิทธิ์พนักงานทั้ง 2 คนออกจากระบบและสั่งดำเนินการสอบสวนทางกฎหมายทันที ทั้งนี้ ทาง Shopify แจ้งว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยืนยันว่าข้อมูลที่พนักงานสามารถเข้าถึงได้นั้นมีเฉพาะข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ อีเมล ที่อยู่ และประวัติการซื้อขายสินค้า แต่ไม่มีข้อมูลทางการเงินหลุดออกไปแต่อย่างใด กรณีศึกษานี้เป็นตัวอย่างเหตุการณ์ภัยคุกคามจากคนใน (insider threat) ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร เป้าหมายมีได้ตั้งแต่การฉ้อฉล ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงสร้างความเสียหาย สาเหตุของการเกิดนั้นมีได้ทั้งจากตัวพนักงานและจากปัญหาภายในองค์กร ทั้งนี้ ภัยคุกคามจากคนในนั้นไม่ได้หมายถึงแค่คนในเป็นคนก่อเหตุ แต่ยังหมายรวมถึงเหตุการณ์ที่คนในกระทำผิดโดยไม่เจตนา หรือถูกข่มขู่บังคับเพื่อให้กระทำการทุจริตได้ด้วย ทาง Software Engineering Institute ของ Carnegie Mellon University ได้ให้ข้อแนะนำในการป้องกันภัยคุกคามจากคนในไว้ดังนี้ จัดทำทะเบียนสินทรัพย์ และกำหนดมาตรการป้องกันตามระดับความสำคัญของสินทรัพย์นั้น ๆ จัดให้มีมาตรการและทีมงานเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน…

หอไอเฟลสั่งอพยพด่วน! หลังถูกขู่วางระเบิด

Loading

หอไอเฟลในฝรั่งเศสสั่งอพยพด่วน หลังมีโทรศัพท์ขู่วางระเบิด ล่าสุดตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่และพบว่าเป็นสัญญาณหลอก ตำรวจฝรั่งเศสเข้าตรวจสอบหอไอเฟลในกรุงปารีส พร้อมสั่งอพยพนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่พื้นที่โดยรอบ หลังได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิด เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันนี้ (23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 18.00 น.ตามเวลาในไทย โดยตำรวจติดอาวุธ เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมสุนัขดมกลิ่น ได้ปิดกั้นพื้นที่และเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัย ขณะเดียวกันยังมีการปิดถนนเส้นที่วิ่งไปยังหอไอเฟล พร้อมเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็เปิดทำการหอไอเฟลได้อีกครั้ง โดยไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด   หอไอเฟลเพิ่งกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังต้องปิดให้บริการนานกว่า 3 เดือน ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในฝรั่งเศส โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี โดยหอไอเฟลเคยได้รับโทรศัพท์ขู่ก่อการร้ายมาแล้วหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง ———————————————— ที่มา : ไทยรัฐ / 23 กันยายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1935829

ศาลคุกพ่อลูกเวียดนามข้อหาก่อการร้ายวางระเบิดสถานีตำรวจนครโฮจิมินห์

Loading

เอเอฟพี – ศาลนครโฮจิมินห์ตัดสินจำคุกจำเลย 20 คน รวมทั้งพ่อลูกคู่หนึ่ง จากเหตุวางระเบิดสถานีตำรวจที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน สื่อทางการรายงานวันนี้ (22) เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เหตุการณ์การโจมตีในเดือน มิ.ย.2561 ดำเนินการโดย ‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มชาวเวียดนามในแคนาดาที่พยายามจะโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ เหวียน แค็งห์ ผู้ควบคุมการโจมตี ถูกตัดสินจำคุกนาน 24 ปี ในข้อหาก่อการร้ายต่อฝ่ายบริหารประชาชน และจากการผลิต จัดเก็บ และค้าวัตถุระเบิดอย่างผิดกฎหมาย เหวียน เติ่น แถ่ง ลูกชายของเหวียน แค็งห์ ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ในขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 18 คน ได้รับโทษจำคุกระหว่าง 2 ปี ถึง 18 ปี แค็งห์ถูกตั้งข้อหาให้วัตถุระเบิดกับผู้สมรู้ร่วมคิด 2 คน ที่จุดชนวนระเบิดบนรถจักรยานยนต์หน้าสถานีตำรวจชานนครโฮจิมินห์ โดยแรงระเบิดทำให้กระจกของอาคารแตกเสียหาย โดยอาคารหลังดังกล่าวอยู่ใกล้กับจุดที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายเศรษฐกิจเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และพ่อครัวได้รับบาดเจ็บ การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นหลายจุดทั่วเวียดนามเพื่อต่อต้านร่างกฎหมายว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะอนุญาตให้นักลงทุนเช่าที่ได้นานถึง…

19 ปี หลังวินาศกรรม 9/11: อัล-ไคดายังคงเป็นภัยคุกคาม

Loading

ที่มาภาพ: https://www.history.com/topics/21st-century/9-11-timeline?li_source=LI&li_medium=m2m-rcw-history Written by Kim 19 ปี หลังการก่อวินาศกรรม 9/11 อัล-ไคดาได้วิวัฒนาการไปจากเดิมอย่างมาก แม้การวางแผนโจมตีในประเทศตะวันตกลดลง แต่ยังคงสามารถทำสงคราม (กลางเมือง) ยืดเยื้อและก่อความไม่สงบในรัฐที่อ่อนแอ กลุ่มก่อการร้ายที่ดำเนินงานแบบเดียวกัน (Franchise groups) และพันธมิตรในเยเมน ซีเรีย โซมาเลียและที่อื่น ๆ อาจมีความแตกต่าง แต่อัล-ไคดายังคงยืดหยุ่นและมุ่งมั่นในการญิฮาดระดับโลก ด้วยการรุกคืบเข้าหาประชาชนระดับรากหญ้าในท้องถิ่น โดยปล่อยให้รัฐอิสลาม (IS) ทนทุกข์กับความพยายามต่อต้านการก่อการร้ายของตะวันตก อย่างไรก็ตาม  การดำเนินนโยบายแข่งขันเพื่อครองความเป็นเจ้าโลก (hegemony) ของสหรัฐฯ จะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังโดยไม่ละเลยการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายในรัฐที่อ่อนแอและพื้นที่ที่ไร้การปกครอง[1]           เกือบสองทศวรรษหลังการโจมตีสหรัฐฯเมื่อ 11 กันยายน 2001 อัล-ไคดาได้วิวัฒนาการจากกลุ่มก่อการร้ายที่นำโดยโอซามา บินลาดิน มานำโดยอัยมาน อัลซาวาฮิรี ผู้นำอันดับสอง ขณะที่ สหรัฐฯโดย Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเมื่อมีนาคม 2020 ว่า “อัล-ไคดาเป็นเพียงเงาของตัวตนในอดีต” แม้ผู้นำหลายคนถูกสังหารหรือถูกจับกุม แต่ยังคงเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และยืดหยุ่นรวมทั้งเป็นกรณีศึกษาการก่อการร้าย อัล-ไคดาโอ้อวดว่ามีสมาชิก 30,000 – 40,000 คนทั่วโลกและมีส่วนร่วมในความขัดแย้งตั้งแต่เขต Levant[2] ไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้           กลุ่มก่อการร้ายที่ดำเนินการแบบเดียวกันเช่น อัล-ไคดาในคาบสมุทรอาหรับ (AQAP) ในเยเมน Hurras al-Din ในซีเรียและกลุ่มพันธมิตรในแอฟริกาตะวันตก โซมาเลีย ฟิลิปปินส์และอนุทวีปอินเดีย…

สหรัฐสกัดจดหมายใส่สารพิษ’ไรซิน’ส่งถึง’ทรัมป์’

Loading

สื่ออเมริกันรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐสกัดจดหมายฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าซองถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่อยู่ของทำเนียบขาว หลังผลการตรวจสอบยืนยันว่าจดหมายดังกล่าวมีสารพิษไรซินที่ได้จากเมล็ดละหุ่ง รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองพบจดหมายฉบับนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่คลังพัสดุชานกรุงวอชิงตัน และไม่ได้ส่งจดหมายนี้ไปทำเนียบขาว นิวยอร์กไทม์รายงานว่าจดหมายฉบับนี้ส่งมาจากแคนาดา ส่วนซีเอ็นเอ็นเผยว่า มีการทดสอบสารที่อยู่ในจดหมายฉบับนี้หลายครั้งและยืนยันว่าเป็นสารพิษจากเมล็ดละหุ่ง คำแถลงของสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า เอฟบีไอ, หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ และสำนักตรวจสอบไปรษณีย์ของสหรัฐ กำลังสอบสวนจดหมายต้องสงสัยที่ส่งมาที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ และยืนยันว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ได้คุกคามต่อความปลอดภัยสาธารณะ ทั้งนี้ สารพิษจากเมล็ดละหุ่งเป็นสารพิษอันตรายร้ายแรง ทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาที ถ้ากลืน, สูดดมหรือฉีดเข้าไปในร่างกาย สารพิษนี้จะทำให้อวัยวะล้มเหลว และยังไม่มียาแก้พิษ ————————————————— ที่มา : ไทยโพสต์ / 20 กันยายน 2563 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/78067