ยุคทอง ’Machine Learning’ จุดเปลี่ยนไอทียุคใหม่

Loading

  รายงาน “Technology Radar” ฉบับล่าสุดโดย “Thoughtworks” บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีชั้นนำคาดการณ์ว่า แมชีนเลิร์นนิงจะมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเทคโนโลยีไอโอทีและระบบการบริหารจัดการภายในต่าง ๆ   รีเบคกา พาร์สันส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี Thoughtworks ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ Machine Learning (แมชีนเลิร์นนิง) ว่าจากที่เคยต้องใช้ชุดข้อมูลขนาดใหญ่และการเข้าถึงพลังประมวลผลมหาศาลเพื่อจัดการกับปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อนนั้น   ขณะนี้ องค์กรด้านไอทีสามารถใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้ในหลายภาคส่วนมากขึ้น สืบเนื่องมาจากการพัฒนาของเครื่องมือ แอปพลิเคชัน และเทคนิคต่าง ๆ ที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก     ท้าทาย การบริหารข้อมูล   ด้วยประสิทธิภาพในการคำนวณที่ดีขึ้นบนอุปกรณ์ทุกขนาดและทุกประเภท รวมทั้งการใช้เครื่องมือแบบ open-source ที่แพร่หลายและใช้งานได้ง่ายขึ้น ได้ส่งผลให้ Machine Learning สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่งองค์กรที่มีขนาดเล็กมาก   นอกจากนี้ ข้อกำหนด และข้อควรระวังของข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวดมากขึ้น ได้ผลักดันให้องค์กรต่างๆ พยายามค้นหาเทคนิค เช่น federated machine learning…

เปิดแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลปี 2023 ที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อม

Loading

  “Bernard Marr” ที่เป็นนักอนาคตศาสตร์ (Futurist) ด้านเทคโนโลยี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้เขียนบทความแนะนำแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในปี 2023 ที่ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมนับตั้งแต่ตอนนี้!!!   เทคโนโลยีดิจิทัล เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมักจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้กล่าวขานกันเสมอ เช่น Metaverse, Web 3.0, AI, AR/VR ,NFT และ Quantum Computing ผู้บริหารบางองค์กรก็จะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ บ้างก็กลัวตกเทรนด์ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รีบนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรแต่สุดท้ายแล้วบางเทคโนโลยีก็อาจยังไม่พร้อมและเป็นเรื่องใหม่จนเกินกว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน   ผมเองก็พยายามตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ ถ้ามีเวลาก็จะลงมือไปทดลองใช้บ้าง บางเทคโนโลยีก็พบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจและเหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้งาน บางเทคโนโลยีก็อาจต้องรอเวลาให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นก่อนที่จะนำไปใช้งานได้ในวงกว้าง บ้างก็เป็นการสร้างของนักการตลาดที่พยายามทำให้ดูดีกว่าความเป็นจริง และบ้างก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าความคุ้มค่าต่อการลงทุน   แต่สิ่งสำคัญเราควรต้องศึกษาข้อมูลนักวิเคราะห์ที่เป็นกลาง และเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นอกเหนือจากบริษัทวิจัยชื่อดังอย่าง Gartner หรือ Forrester แล้ว ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีหลายๆ ท่านที่มักจะนำเสนอความคิดเห็นดีๆ ออกมาต่อสาธารณะ หนึ่งในนั้นที่ผมมักจะติดตามบ่อย ๆ คือ “Bernard…

เทคโนโลยีที่อาจ “สอดแนม” คุณ!!!

Loading

  เมื่อเราก้าวเข้าสู่พรมแดนใหม่ ๆ ด้วยเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด และเพลิดเพลิน ผสมปนเปได้ด้วยความสะดวกสบาย ไปกับประโยชน์เชิงบวกมากมายที่จะเกิดขึ้นกับวิธีการทำงาน การเล่น การบันเทิง พักผ่อน และการใช้ชีวิต   แต่เหรียญนั่นมีสองด้าน ดาบนั่นมีสองคม เราต้องมีสติอยู่เสมอและเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิดทั้งทางตรงและทางอ้อม ผมอยากบอกเล่าถึงเทรนด์เทคโนโลยีที่อันตรายที่สุด อีกประเภทที่มีผลทั้งในแง่บวกและลบ อีกทั้งยังอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด     เทคโนโลยีการสอดแนมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม (Spying Smart Home Devices)     เพื่อให้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมตอบคำถาม รับคำสั่ง และมีประโยชน์มากที่สุด อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องฟัง และติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา และนิสัยประจำของเราตลอดเวลา ปัจจุบันแกนหลักของเทคโนโลยีนี้ คือ ลำโพงอัจฉริยะ ที่จะเชื่อมต่อและส่งคำสั่งไปยังอุปกรณ์สมาร์ทโฮมชิ้นอื่นๆภายในบ้าน ซึ่งเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบแนวคิด I.O.T หรือชื่อเต็มๆว่า Internet Of Thing คือการเชื่อมต่อถึงได้อย่างครอบคลุมจากอุปกรณ์ที่หลากหลายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยสั่งเปิด-ปิด ผ่านระบบผ่านลำโพงอัจฉริยะ เพื่อเชื่อมต่อ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หลอดไฟ เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด และอีกมากมาย…

“เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า” กับความสำคัญต่อภาคธุรกิจ

Loading

  ถอดรหัส “เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า” อีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล เพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยด้านการบริการ แต่อีกด้านก็ถูกตั้งคำถามถึงความกังวลที่อาจนำไปสู่การใช้งานไม่ถูกต้องได้ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ Face recognition เป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่มีการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่จะคอยจดจำสิ่งต่างๆ และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์อันเดียวกันนี้เอง ทำให้การทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการตามหาบุคคลสูญหาย การจับกุมผู้กระทำความผิด และการป้องกันการก่ออาชญากรรม ขณะเดียวกัน กระแสในเรื่องของความเป็นส่วนตัวได้เพิ่มขึ้นทั่วโลก บวกกับความเสี่ยงและช่องโหว่ของการทำงานของระบบ ถ้าหากนำไปใช้งานในทางที่ผิดจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ AI ของซอฟต์แวร์การติดตามใบหน้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อะไรคือสิ่งที่ทำให้การรักษาความปลอดภัยโดยการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ถึงควรค่าแก่การพิจารณา?     เมื่อพูดถึงการใช้ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ต้องเข้าใจคือ เทคโนโลยีดังกล่าว สามารถพัฒนาเพื่อนำไปใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่เหตุผลหลักสองประการที่ผู้ใช้ควรคำนึงคือ  – ต้องเข้าใจว่าการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า จะเป็นการนำจดจำลักษณะทางกายภาพของใบหน้า หรือ biometric เพื่อรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือ อำนวยความสะดวกของการใช้จ่ายผ่านทางธนาคาร การดูแลรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ครัวเรือนและอสังหาริมทรัพย์  – ระบบการติดตามและการระบุตัวตนของเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า มีจุดประสงค์หลักในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของพลเมือง และมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวรจรปิด สัญญาณเตือนต่างๆ…

นักวิจัยเตือน ! รถยนต์แบรนด์ดัง มีช่องโหว่ให้แฮ็กเกอร์ปลดล็อค โดยใช้การโจมตี “Rolling-PWN”

Loading

ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัย “Kevin2600” และ “Wesley Li” จาก “Star-V Lab” ที่มีการอ้างว่าพบช่องโหว่ ‘Rolling Code’ (CVE-2021-46145) ในระบบกุญแจโมเดลรถยนต์สมัยใหม่ของ Honda ซึ่งสามารถใช้แฮกปลดล็อครถยนต์ หรือ สตาร์ทรถยนต์ได้ โดยการโจมตีที่มีชื่อว่า “Rolling-PWN”

จีนคิดค้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ประเมินความภักดีของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์

Loading

  สถาบันปัญญาประดิษฐ์ (Institute of Artificial Intelligence) แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ครบวงจรแห่งชาติเหอเฝย์ (Hefei Comprehensive National Science Center) ของจีน อ้างว่า ได้คิดค้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถอ่านใจสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อทดสอบและประเมินความจงรักภักดี เทคโนโลยีนี้เรียกว่า มาตรวัดระดับการศึกษาทางการเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart Political Education Bar ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการอ่านการแสดงออกทางสีหน้าและคลื่นสมองเพื่อจำแนกระดับการยอมรับอุดมการณ์และการศึกษาทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อที่จะสามารถประเมินระดับความซื่อสัตย์และความพร้อมจะทำตามพรรค อย่างไรก็ดี บทความและคลิปวีดิโอที่เกี่ยวกับโครงการนี้ได้ถูกลบออกไปจากโซเชียลมีเดียของจีนอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีการโพสต์ลงไปไม่นาน ในคลิปที่ถูกลบไป เผยให้เห็นถึงนักวิจัยที่นั่งประจำอยู่หน้าจอขนาดใหญ่ จอนี้จะคอยเฝ้าดูข้อมูลชีวมิติ (biometric) ของตัวนักวิจัย อาทิ ภาพใบหน้า ความต้านทานกระแสไฟฟ้าที่ผิวหนัง และคลื่นไฟฟ้าสมอง จากนั้นนักวิจัยคนดังกล่าวเลือกชมเนื้อหาที่เกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยตัวปัญญาประดิษฐ์จะคำนวณความตั้งใจในการเรียนรู้และอารมณ์ความรู้สึกระหว่างการรับชม จากข้อมูลชีวมิติ เพื่อนำไปสู่การแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ผู้วิจัยอ้างว่า “การใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยให้เรามีเสรีภาพในการกำหนดการศึกษาพรรคได้มากขึ้น ซึ่งการจำแนกผลการเรียนรู้จะทำให้เราสามารถโน้มน้าวสมาชิก [พรรคคอมมิวนิสต์] ให้รู้สึกปลาบปลื้ม เชื่อฟัง และทำตามพรรคให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” ที่มา Telegraph พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส…