‘ไบเดน’ เตรียมออกคำสั่งห้ามเอกชนสหรัฐถ่ายโอนเทคโนโลยีแก่จีน

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐจะใช้อำนาจพิเศษออกคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามภาคเอกชนสหรัฐถ่ายโอนเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวสูงให้แก่จีน   ซึ่งคาดว่า ปธน.ไบเดน จะออกคำสั่งดังกล่าวในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเพื่อป้องกันการนำเทคโนโลยีของสหรัฐไปพัฒนากองทัพจีน ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐ   แหล่งข่าวระบุว่า คำสั่งของ ปธน.ไบเดน จะพุ่งเป้าไปที่การลงทุนของภาคเอกชนสหรัฐในจีน เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, การคำนวณเชิงควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยการลงทุนดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ   ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐออกกฎ ห้ามบริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง สร้างโรงงานเทคโนโลยีขั้นสูงในจีนเป็นเวลา 10 ปี โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามผ่านกฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ไปเมื่อเดือนสิงหาคม2565 ใช้งบ 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูงและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ท่ามกลางความกลัวว่าสหรัฐจะพ่ายแพ้ด้านเทคโนโลยีต่อจีน การลงทุนครั้งนี้รวมถึงการลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่จะสร้างโรงงานผลิตชิปคอมพิวเตอร์ในสหรัฐ ซึ่งก็หมายถึงว่า บริษัทที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสามารถขยายโรงงานเพื่อผลิตชิป ที่ใช้เทคโนโลยีเก่าและราคาถูก เพื่อจำหน่ายในตลาดจีน เท่านั้น       ————————————————————————————————————————- ที่มา :               …

สหรัฐฯ จับทหารเรือ 2 นาย ฐานแอบขายความลับให้จีน

Loading

  เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยวานนี้ (3 สิงหาคม) ว่า ทางการได้จับกุมทหารเรือของสหรัฐฯ 2 นายฐานแอบขายข้อมูลด้านความมั่นคงของชาติที่มีความละเอียดอ่อนให้กับจีน   รายงานระบุว่า นายทหารเรือ จ้าวเหวินเหิง (Wenheng Zhao) วัย 26 ปี ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดและรับสินบน หลังจากที่เขารับเงินเกือบ 15,000 ดอลลาร์ (ราว 5.2 แสนบาท) เพื่อแลกกับการมอบภาพและวิดีโอข้อมูลทางทหารที่มีความละเอียดอ่อนของสหรัฐฯ ให้กับจีน ขณะที่ทหารเรืออีกคนหนึ่งคือ เว่ยจินเชา (Jinchao Wei) ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการส่งข้อมูลด้านการป้องกันประเทศไปยังจีน เพื่อแลกกับเงินหลายพันดอลลาร์ด้วยกัน   แมตต์ โอลเซน (Matt Olsen) ผู้ช่วยอัยการ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในซานดิเอโกว่า เนื่องจากการกระทำของชายทั้งสองคนนี้ ‘ข้อมูลทางทหารที่ละเอียดอ่อนจึงตกไปอยู่ในมือของสาธารณรัฐประชาชนจีน’   สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จ้าวถูกกล่าวหาว่าได้ส่งข้อมูลให้จีนหลายอย่างด้วยกัน ทั้งแผนปฏิบัติการด้านการฝึกซ้อมทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงแผนภาพไฟฟ้าและพิมพ์เขียวของระบบเรดาร์บนฐานทัพสหรัฐฯ ในโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น และรายละเอียดด้านความมั่นคงเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเวนทูราเคาน์ตี (Ventura County)…

สหรัฐฯ เล็งดัดแปลงขีปนาวุธให้แรงขึ้น-ไกลขึ้น รับมืออิทธิพลจีนในแปซิฟิก

Loading

เรือรบยูเอสเอส เคอร์ทิซ ในการซ้อมยิงขีปนาวุธรุ่นฮาร์ปูน ถ่ายเมื่อ 26 พฤษภาคม 2019 (ที่มา: แฟ้มภาพ/รอยเตอร์)   รอยเตอร์รายงานว่า สภาคองเกรสเตรียมศึกษาและพัฒนาสารเคมีในเชื้อเพลิงของขีปนาวุธเพื่อเพิ่มระยะทำการในพื้นที่อินโด-แปซิฟิกให้ห่างจากจีนมากขึ้น   แหล่งข่าวระดับผู้ช่วยในสภาคองเกรส 2 รายและแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ราย กล่าวกับรอยเตอร์โดยไม่ออกนามว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน และสภาคองเกรส มีแผนที่จะดัดแปลงเชื้อเพลิงและน้ำหนักของขีปนาวุธเพื่อเพิ่มระยะการยิงอีกราวร้อยละ 20   เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐฯ เผยแพร่เนื้อหาของร่างกฎหมายที่จะใช้งบประมาณ 13 ล้านดอลลาร์ (ราว 448.2 ล้านบาท) ในการวางแผนและผลิตสารเคมีดังกล่าว โดยรอยเตอร์รายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการอนุมัติงบประมาณเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์ที่มีมูลค่าถึง 8.8 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 30 ล้านล้านบาท)   แม้จะยังมีการหารือทางรายละเอียดงบประมาณอยู่ รอยเตอร์รายงานว่า การป้องปรามจีนเป็นสิ่งที่ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นชอบร่วมกันในทางหลักการแล้ว   ไมค์ แกลลาเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กล่าวกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องมีขีปนาวุธทำลายเรือที่อยู่ในระยะห่างไกลในจำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากความกว้างใหญ่ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและขนาดของกองทัพเรือของจีน  …

จีนคุมเข้มส่งออกโดรน อ้างเหตุความมั่นคง-ศึกเทคโนโลยีสหรัฐระอุ

Loading

  จีนคุมเข้มส่งออกโดรน – วันที่ 31 ก.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนประกาศออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่บางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโดรน ท่ามกลางความตึงเครียดการแข่งขันดุเดือดกันระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา   มาตรการควบคุมการส่งออกนั้นรวมถึงชิ้นส่วนประเภท เครื่องยนต์ เลเซอร์ การสื่อสาร และอุปกรณ์ต่อต้านโดรนทุกชนิด โดยจีนให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป   โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า มาตรการควบคุมใหม่จะส่งผลกระทบต่อโดรนเชิงพาณิชย์สำหรับประชาชนทั่วไปด้วย โดยจีนจะไม่อนุญาตให้ส่งออกโดรนพลเรือนเพื่อนำไปดัดแปลงใช้เป็นอาวุธทางทหาร   “การขยายขอบเขตมาตรการควบคุมการส่งออกโดรนที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งสะท้อนสำคัญถึงจุดยืนความรับผิดชอบของจีนต่อเสถียรภาพและสันติภาพของประชาคมโลก” โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ระบุ และว่าทางการจีนดำเนินการแจ้งเรื่องต่อบรรดาชาติผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว   รายงานระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในชาติที่มีอุตสาหกรรมการผลิตโดรนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยส่งออกโดรนไปยังตลาดหลายแห่ง ในจำนวนนี้ รวมถึงสหรัฐฯด้วย   ข้อมูลจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หรือสส.คองเกรส ระบุว่า โดรนเชิงพาณิชย์ที่มีจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปในสหรัฐฯ นั้นเป็นแบรนด์ ดีเจไอ (DJI) ที่นำเข้ามาจากจีนถึงร้อยละ 50 ทั้งยังถือเป็นโดรนพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดด้วย   อย่างไรก็ตาม บริษัท ดีเจไอ ผู้ผลิตและพัฒนาโดรนยอดนิยม ประเทศจีน ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ…

ไต้หวันลุยสอบเจ้าหน้าที่ต้องสงสัยปล่อยข้อมูลลับรั่วไหลถึงมือจีน

Loading

  ไต้หวันเปิดปฏิบัติการสอบสวนเจ้าหน้าที่หลายคนที่ต้องสงสัยว่าแอบเปิดเผยความลับทางการทหารให้กับจีน ตอกย้ำถึงภัยคุมคามด้านการจารกรรมข้อมูลจากจีนที่ไต้หวันต้องเผชิญ   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ (2 ส.ค.) ว่า มีหลักฐานซึ่งบ่งชี้ว่า บุคลากรทางการทหาร ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับพันโท ได้มอบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนให้แก่คณะผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน   ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลิเบอร์ตี้ ไทม์สของไต้หวันรายงานว่า สมาชิกกองทัพอากาศและกองบัญชาการพิเศษทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่และที่เกษียณไปแล้วหลายรายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยข้อมูลลับให้กับจีน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่รายงานว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวไว้ 2 คน ขณะที่อีก 4 คนได้รับการประกันตัว   กองทัพไต้หวันต้องเผชิญความยากลำบากอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดสายลับที่เชื่อมโยงกับจีน โดยสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีความกังวลมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับความสามารถของไต้หวันในการเก็บความลับทางเทคโนโลยีและความลับอื่น ๆ ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของจีน   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในวันนี้ว่า ทางกระทรวงฯ จะเพิ่มการให้ความรู้เกี่ยวกับความพยายามในการแทรกซึมจากจีนให้กับบุคลากรไต้หวัน ควบคู่ไปกับการยกระดับการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ นายอเล็กซ์ หวง รองเลขาธิการของทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลครั้งล่าสุดว่า “เป็นเหตุการณ์ที่น่าละอายยิ่งและผู้กระทำผิดสมควรได้รับการลงโทษอย่างหนัก”   เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การสอดแนมจากจีนเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง และต่อมาในเดือน ม.ค. ไต้หวันได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ประจำการ 3 นายและเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศที่เกษียณไปแล้ว 1 นายในข้อหาสอดแนม      …

ไต้หวันประกาศยกระดับ ‘ต่อต้านจารกรรม’ หลังพบทหารถูกซื้อตัวเป็น ‘สายลับจีน’

Loading

  กองทัพไต้หวันประกาศยกระดับความพยายามต่อต้านการจารกรรม หลังพบว่ามีทหารทั้งที่ยังรับราชการและปลดประจำการแล้วหลายนายทำงานเป็น “สายลับ” ให้จีน   รายงานการสอบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้จีนได้ใช้ปฏิบัติการจารกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะบั่นทอนความเข้มแข็งของกองทัพและคณะผู้นำไทเป รวมถึงบีบให้ไต้หวันยอมรับว่าเป็นดินแดนในอธิปไตยของจีน   สำนักข่าวกลางไต้หวัน (CNA) รายงานว่า พันโท “เซียว” (Hsiao) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกองบัญชาการการบินและหน่วยรบพิเศษไต้หวัน ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยว่านำความลับด้านกลาโหมไปเปิดเผยแก่ “กองกำลังต่างชาติ รวมถึงจีน” และ “ก่อตั้งองค์กร” ขึ้นในไต้หวัน   พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจค้นกองบัญชาการทหารที่เมืองเถาหยวน (Taoyuan) ในสัปดาห์นี้ และยังมีทหารที่เกษียณอายุราชการแล้วอีก 4 นาย รวมถึงชายแซ่ “เซียว” (Hsiao) ซึ่งทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ถูกนำตัวมาสอบสวน   กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ทางการได้ “รวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างแน่นหนา” ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นจริง   “ท่ามกลางความพยายามแทรกซึมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองกำลังแห่งชาติจะยังคงส่งเสริมการให้ความรู้ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการจารกรรม”   กระทรวงยังระบุด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่มีชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งก่ออาชญากรรมด้วยการ “ขายชาติบ้านเมืองและประชาชน” ของตัวเอง   อเล็กซ์ หวง รองเลขาธิการของทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวว่า…