ติว​”ตำรวจไซเบอร์” ปกป้องสถาบันฯ​ ปราบอาชญากรรมออนไลน์​ ปกป้องชาติ​ ​- เยาวชน

Loading

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน​ ที่โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนแวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ  พล.ต.ท.กรไชย  คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี​ (ผบช.สอท.)​ เป็นประธานเปิด โครงการสัมมนาการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเบื้องต้น ให้แก่ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัยชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็น วิทยากรพิเศษ บรรยายในเรื่อง ปกป้อง เทิดทูนสถาบันฯและจิตอาสา และ พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี​ เป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ การสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.กรไชย​ กล่าวว่า บช.สอท.ดำเนินการตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สร้างทักษะ ความรู้ความเข้าใจ ในพื้นฐานอาชญากรรมทางเทคโนโลยี​ แนวทางการทำงานของ บช.สอท.ความตระหนัก เรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจน การยกระดับขีดความสามารถ ในการปฏิบัติภารกิจ อาทิ แนวทางการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการเก็บและรวบรวมพยานหลักฐานดิจิทัล “มุ่งหมาย ในการพัฒนาบุคคลกร ให้มีความสามารถ ในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาสนับสนุนการทำงานอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ จนสามารถสืบสวนสอบสวน…

‘ทวิตเตอร์-เฟซบุ๊ก-กูเกิ้ล’ พร้อมรับมือการบิดเบือนข้อมูลวันเลือกตั้ง

Loading

FILE – A woman in Los Angeles looks at the official Twitter account of U.S. President Donald Trump, June 23, 2020 ในวันเลือกตั้งที่ชาวอเมริกันใจจดใจจ่อรอฟังผลว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป บริษัทอินเตอร์เน็ตเช่นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก กูเกิ้ล ต่างยกระดับการเฝ้าติดตามและกลั่นกรองการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารมากเป็นพิเศษ หลังจากที่บริษัทเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่า ปล่อยให้ผู้ใช้งานที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศปล่อยข่าวบิดเบือนในช่วงการเลือกตั้งเมื่อสี่ปีที่แล้ว นักวิเคราะห์มองว่า บริษัทต่างๆ เริ่มรับมือกับการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้นเมื่อมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 และใช้วิธีดูแลเนื้อหาอย่างทันท่วงทีมากขึ้น เช่น ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการดูแลเนื้อหา สแปนดานา ซิงห์ นักวิเคราะห์นโยบายประจำสถาบัน New America’s Open Technology Institute มองว่า บริษัทอินเตอร์เน็ตนำเทคนิควิธีที่ใช้รับมือข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสมาใช้กับการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน แต่นั่นก็เท่ากับว่า บริษัทเหล่านี้ต้องชั่งน้ำหนักว่าจะเดินหน้าหยุดการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนต่อไป หรือจะอนุญาตให้ผู้ใช้งานแสดงความเห็นของตนซึ่งอาจมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ ในประเด็นนี้ ซิงห์มองว่า บริษัทอินเตอร์เน็ทมีวิธีดูแลเนื้อหาอย่างแยบยลมากขึ้นกว่าการเอาเนื้อหาออกจากพื้นที่ของตน เช่น ขึ้นแถบแจ้งผู้ใช้งานว่าเนื้อหาดังกล่าวมีประเด็นน่ากังขา อย่างไรก็ตาม ซิงห์กล่าวว่า บริษัทเหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยวิธีการกรองข้อมูลอย่างโปร่งใส…

ข่าวกรองสหรัฐฯ โบ้ยรัสเซียและอิหร่านแทรกแซงศึกเลือกตั้ง หลังพบอีเมลข่มขู่ให้เลือกทรัมป์

Loading

จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ดีเอ็นไอ) แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (21 ต.ค.) ว่ารัสเซียและอิหร่านต่างพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา 2020 หลังพบอีเมลส่งถึงบรรดาสมาชิกเดโมแครต ข่มขู่ให้หันมาเลือกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน แรตคลิฟฟ์ กล่าวอ้างดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่มีการตระเตรียมอย่างเร่งรีบ และร่วมด้วย คริสโตเฟอร์ เรย์ อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) การแถลงข่าวครั้งนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง และแสดงให้เห็นถึงระดับความกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าตัวแสดงต่างชาติอาจกำลังหาทางบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของอเมริกันต่อความซื่อสัตย์ของศึกเลือกตั้ง และแพร่ข้อมูลข่าวเท็จในความพยายามเบี่ยงผลการลงคะแนน “เรายืนยันว่าอิหร่านและรัสเซียมีข้อมูลทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วน” แม้ข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไป แต่ แรตคลิฟฟ์ บอกว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลเห็นอิหร่านส่งเมลที่แอบอ้างอีเมลแอดเดรสของผู้อื่น (spoofed emails) ข่มขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปลุกปั่นความไม่สงบทางสังคมและก่อความเสียหายแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ อ้างถึงอีเมลที่ถูกส่งออกมาเมื่อวันพุธ (21 ต.ค.) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ดูเหมือนส่งออกจากมาจากพวก Proud Boys กลุ่มลัทธิชาตินิยมคนผิวขาว ที่เกลียดชังผู้หญิงและเกลียดกลัวอิสลามที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนหน้านี้บรรดาหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เคยเตือนว่าอิหร่านอาจแทรกแซงเพื่อบ่อนทำลายทรัมป์ ส่วนรัสเซียกำลังพยายามช่วยเหลือทรัมป์ในศึกเลือกตั้ง ผู้สันทัดกรณีในวงนอก มองว่าหากข้อสันนิษฐานของแรตคลิฟฟ์นั้นถูกต้อง…

‘อังกฤษ’ แฉ ‘รัสเซีย’ เล็งโจมตีทางไซเบอร์ 2 อีเวนท์ใหญ่ใน ‘ญี่ปุ่น’

Loading

“อังกฤษ” แฉ และประณามการกระทำ “รัสเซีย” เล็งเป้าโจมตีทางไซเบอร์ในงานโตเกียวโอลิมปิก-พาราลิมปิก ส่อสร้างสถานการณ์รุนแรงป่วน รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซีย(GRU) ได้ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์โดยมีเป้าหมายไปที่การแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ รายงานระบุว่า GRU มีส่วนในกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตรายก่อนญี่ปุ่นตัดสินใจในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาที่จะเลื่อนการแข่งกีฬาโอลิมปิกออกไปเป็นปีหน้า อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลอังกฤษระบุว่า การสอดแนมทางไซเบอร์มีเป้าหมายโจมตีองค์กรที่จัดงาน บริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ และบริการด้านโลจิสติกส์ โดยในขณะนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียดของการโจมตีทางไซเบอร์ และยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีทางไซเบอร์สร้างความเสียหายอย่างแท้จริงกับเป้าหมายดังกล่าวหรือไม่ รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นแคมเปญล่าสุดของกิจกรรมทางไซเบอร์ที่อันตรายของรัสเซียที่มีต่อการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเรียกการโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียว่าเป็น การเหยียดหยามและการไม่ยั้งคิด และอังกฤษขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรงที่สุด นายร้าบ  ระบุเสริมด้วยว่า อังกฤษจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเรียกร้องและตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ในอนาคต สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โตเกียวโอลิมปิกได้ถูกเลื่อนไปจัดในระหว่างวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค.ในฤดูร้อนปีหน้า ตามด้วยการแข่งพาราลิมปิกในวันที่ 24 ส.ค. ถึง 5 ก.ย. ———————————————- ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / 20 ตุลาคม 2563 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/903545

สหรัฐเตือนทวิตเตอร์เร่งยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์

Loading

ทวิตเตอร์ได้รับการแนะนำให้สร้างกรอบการกำกับดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่ หลังจากทางการสหรัฐตรวจสอบพบว่า ทวิตเตอร์ไม่มีการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพียงพอ อีกทั้งยังไม่มีหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของข้อมูลเมื่อบัญชีผู้ใช้งานของบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีหลายแห่ง และบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงหลายรายถูกแฮกเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ปีนี้ ลินดา เอ.เลซเวลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการทางการเงินในสังกัดกระทรวงบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก (ดีเอฟเอส) กล่าวว่า “แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกลายเป็นแหล่งข่าวและแหล่งข้อมูลชั้นนำอย่างรวดเร็ว แต่กลับยังไม่มีผู้ควบคุมดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ของทวิตเตอร์อย่างเพียงพอ ข้อเท็จจริงที่ว่าทวิตเตอร์สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีที่ไม่ซับซ้อนนั้นแสดงให้เห็นว่า การกำกับดูแลด้วยตัวเองไม่ใช่คำตอบ” รายงานระบุว่า แฮกเกอร์หลายรายเข้าถึงระบบของทวิตเตอร์ด้วยการโทรศัพท์หาพนักงานของบริษัท และอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากแผนกไอทีของทวิตเตอร์ หลังจากแฮกเกอร์หลอกพนักงาน 4 คนให้แจ้งข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบแก่พวกเขา พวกเขาก็ได้ขโมยบัญชีทวิตเตอร์ของนักการเมือง คนดัง และผู้ประกอบการหลายราย รวมถึงบารัก โอบามา, คิม คาร์แดเชียน เวสต์, เจฟฟ์ เบซอส, อีลอน มัสก์ และบริษัทระบบเงินตราเข้ารหัสหลายแห่ง ซึ่งบัญชีเหล่านี้มีผู้ติดตามหลายล้านคน “การเลือกตั้งกำลังใกล้เข้ามาในอีกไม่ถึง 30 วัน เราต้องมุ่งมั่นกำกับดูแลบริษัทโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ให้มากขึ้น เพราะความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งและตลาดของเรายึดโยงอยู่กับสิ่งนี้ จะเห็นได้ว่าการตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพของบริษัทระบบเงินตราเข้ารหัสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงฯ มีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโต และปกป้องผู้บริโภคไปพร้อมกันได้มากเพียงใด” เลซเวลล์กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในปี 2562 ทวิตเตอร์มีผู้ใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 330 ล้านคนต่อเดือน โดยข้อมูลของศูนย์วิจัยพิวระบุว่า71% ของชาวอเมริกันบนทวิตเตอร์ใช้แพลตฟอร์มนี้ติดตามข่าวสาร และ 42%…

รายงานด้านความปลอดภัยล่าสุดของวีเอ็มแวร์ เผย ความเสี่ยงไซเบอร์เพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังพนักงานทำงานจากที่บ้าน อาชญากรหันใช้การโจมตีแบบ Island-Hopping หวังเจาะกำแพงความปลอดภัยองค์กรใหญ่

Loading

อาชญากรไซเบอร์มักมองเห็นช่องโหว่จากกำแพงความปลอดภัยขององค์กรต่างๆ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันและเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรในระดับสูงสุด เหตุจากการที่ต้องปรับรูปแบบให้สามารถกระจายการทำงาน กระจายซัพพลายเชน และลดงบประมาณด้านไอที เพื่อลดความเสี่ยงที่ธุรกิจอาจชะงักงัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการลั่นระฆังความปลอดภัยพร้อมกันทั่วโลกเพื่อเปิดโอกาสให้อาชญากรทางไซเบอร์เข้าโจมตี จากรายงานประจำปีที่สามของ VMware Carbon Black Global Threat Report แสดงให้เห็นว่าการที่ธุรกิจทั่วโลกเกิดความชะงักงันเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการเปิดช่องให้กับอาชญากรไซเบอร์ อันนำไปสู่ภัยคุกคามอย่างคาดไม่ถึง แต่หากมองในแง่บวก สถานการณ์นี้ผลักดันให้องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องงัดกลยุทธ์ออกมาเพื่อต่อสู้กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น #1: การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyberattack) กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก อาชญากรกำลังพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง ในขณะที่รูปแบบการรักษาความปลอดภัยแบบเก่า ๆ ถูกทำลายลง จากการสำรวจ 90% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ระบุว่าการโจมตีทางไซเบอร์มีอัตราสูงขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ 94% ขององค์กรทั่วโลกต่างประสบปัญหาการละเมิดความปลอดภัย โดยจำนวนการละเมิดเฉลี่ยที่พบในรายงานในปีที่ผ่านมาคือ 2.17 มากกว่า 9 ใน 10 ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย กล่าวว่าพวกเขาเห็นว่าการโจมตีทางไซเบอร์โดยรวมเพิ่มขึ้นจากการทำงานจากที่บ้าน ดร. แมธธิว ทอดด์ อดีต CISO และอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบันที่ Full Scope Consulting LLC กล่าวว่า “จากสถานการณ์ COVID-19 องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความจริงที่ท้าทายอย่างกะทันหัน…