เตือนภัย มิจฉาชีพเลียนแบบเพจตำรวจไซเบอร์ หลอกลวงแอดไลน์ อ้างช่วยเหลือคดี ขโมยข้อมูลส่วนตัวสร้างความเสียหายกับเหยื่อ

Loading

    โฆษก บช.สอท.เตือนภัย มิจฉาชีพเลียนแบบเพจตำรวจไซเบอร์ หลอกลวงแอดไลน์ อ้างช่วยเหลือคดี แต่กลับเอาข้อมูลส่วนตัวเหยื่อไปก่อเหตุสร้างความเสียหาย   วันนี้ (27 มี.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพปลอม หรือลอกเลียนแบบเพจเฟซบุ๊กของตำรวจไซเบอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกลวงประชาชน อ้างสามารถช่วยเหลือติดตามคดี แต่กลับนำข้อมูลส่วนบุคคลไปก่อเหตุสร้างความเสียหาย แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนี้     ได้รับรายงานจาก กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่าได้ตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กปลอมชื่อ “สืบสวน สอบสวน การป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี” ได้นำตราสัญลักษณ์ของของหน่วยงานมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงประชาชน ภายในเพจดังกล่าวพบมีการคัดลอกรูปภาพ ข้อความ การเเจ้งเตือนภัยออนไลน์ต่างๆ และภารกิจของตำรวจไซเบอร์ของเพจจริงมาใช้ ทำให้ประชาชนที่พบเห็นเพจดังกล่าวเชื่อว่าเป็นเพจจริง เมื่อมีประชาชนติดต่อเข้าไปทาง Facebook Messenger มิจฉาชีพจะส่งไอดีไลน์ พร้อมลิงก์เพิ่มเพื่อนซึ่งใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ศูนย์ช่วยเหลือ” โทร 1567 (แท้จริงแล้วเป็นเบอร์ของศูนย์ดำรงธรรม) แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สามารถช่วยเหลือและติดตามคดีที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ จากนั้นจะขอข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด…

จีนจับชาวญี่ปุ่นฐานต้องสงสัยจารกรรม

Loading

  ปักกิ่ง 27 มี.ค.- จีนเผยวันนี้ว่า ควบคุมตัวพลเมืองชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งฐานต้องสงสัยว่าจารกรรม หลังจากญี่ปุ่นขอให้จีนปล่อยตัวพลเมือง   โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน เผยระหว่างการแถลงข่าวตามปกติว่า เจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการบังคับคดีอาญาในเดือนนี้กับพลเมืองญี่ปุ่นคนหนึ่งตามกรอบของกฎหมาย บุคคลดังกล่าวต้องสงสัยว่าพัวพันกับการจารกรรม อันเป็นการละเมิดกฎหมายอาญาและกฎหมายต่อต้านการจารกรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีน โฆษกกล่าวด้วยว่า จีนเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้หลักนิติธรรม ชาวต่างชาติทุกคนที่อยู่ในจีนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายจีน ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พลเมืองญี่ปุ่นในจีนมีคดีลักษณะนี้หลายครั้งในช่วงหลายปีมานี้ ญี่ปุ่นควรให้ความรู้และเตือนพลเมืองของตนเองให้ดีกว่านี้   ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งของจีนได้รับแจ้งในเดือนนี้ว่า มีชายชาวญี่ปุ่นวัย 50 ปีเศษ ถูกควบคุมตัวในกรุงปักกิ่ง รัฐบาลญี่ปุ่นขอให้จีนเร่งปล่อยตัวโดยทันที และกำลังหาทางติดต่อทางกงสุลกับชายผู้นี้ ขณะที่แอสเตลลาสฟาร์มา บริษัทยาของญี่ปุ่นยืนยันว่า ชายผู้นี้เป็นพนักงานของบริษัท สื่อญี่ปุ่นระบุว่า เขาทำงานอยู่ในจีนมานาน 2 ทศวรรษแล้ว สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า เขาถูกควบคุมตัวขณะเตรียมตัวเดินทางกลับญี่ปุ่นในเดือนนี้ และเคยเป็นผู้บริหารอาวุโสของหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในจีน             —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

ฝรั่งเศส ร่างกฎหมายห้ามพ่อ-แม่ โพสต์รูปลูกบนโซเชียลมีเดีย หากเด็กไม่ยินยอม เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

Loading

    ฝ่ายนิติบัญญัติของฝรั่งเศส อนุมัติกฎหมายใหม่เพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กบนอินเทอร์เน็ต ตามกฎหมายแล้ว และผู้ปกครองในประเทศจะถูกห้ามไม่ให้โพสต์หรือแชร์ภาพถ่ายของลูก ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต   ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอโดย บรูโน สตูเดอร์ (Bruno Studer) นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (MP) และผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส   เนื้อความในกฎหมาย ระบุว่า ทั้งพ่อและแม่ต้องรับผิดชอบต่อสิทธิในรูปภาพของเด็ก หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการโพสต์รูป ศาลครอบครัวมีสิทธิ์เป็นผู้ตัดสินหรือสั่งห้ามโพสต์ทั้งคู่ หากภาพดังกล่าว “ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อศักดิ์ศรีหรือศีลธรรมอันดีของเด็ก” โดยการตัดสินใจว่าจะโพสต์ภาพลูกลงในสื่อออนไลน์หรือไม่ จะต้องให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย โดยพิจารณาจากอายุและระดับวุฒิภาวะของเด็กคนนั้น ๆ   และหากผู้ปกครอง ยังฝ่าฝืนโพสต์รูปที่อาจเป็นปัญหาต่อจิตใจของเด็กอย่างร้ายแรงในอนาคต ศาลสามารถเพิกถอนอำนาจและสิทธิของพ่อแม่ได้ทันที   สภาสมาคมเพื่อสิทธิเด็กแห่งฝรั่งเศส อ้างถึงการแจ้งเตือนจากยูโรโพล (Europol) และอินเตอร์โพล (Interpo)l เกี่ยวกับการแพร่กระจายของเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางออนไลน์ และการแพร่หลายของเนื้อหาที่ผลิตขึ้นเองโดยเยาวชนเองหรือคนรอบข้าง   อันจา สตีวิต (Anja Stevic) นักวิจัยด้านการสื่อสารแห่งมหาวิทยาลัยเวียนนา เชื่อว่าจำเป็นต้องปกป้องเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและยังไม่มีเสียงพูดต่อต้านภาพที่พ่อแม่แชร์ทางออนไลน์   โดยร่างกฎหมายนี้ถือเป็นครั้งแรกของโลกและได้รับความเห็นชอบจากนักจิตวิทยาเด็กและผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียด้วย          …

ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ‘กรมบัญชีกลาง’ เริ่มใช้ ‘ระบบ e-GP’ เชื่อมข้อมูลผ่านบล็อกเชน 3 เม.ย.นี้

Loading

    กรมบัญชีกลาง พัฒนาระบบ e-GP เชื่อมโยงข้อมูลผ่านบล็อกเชน เพิ่มประสิทธิภาพ และป้องกันความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูล เริ่ม 3 เมษายน 2566   นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้ให้ความสำคัญและผลักดัน การนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงานของ กรมบัญชีกลาง มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน   ประกอบกับปริมาณผู้เข้าใช้งานระบบในปัจจุบัน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมบัญชีกลาง จึงได้พัฒนา ระบบ e-GP โดยนำ เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในระบบ e-GP   ทั้งนี้ เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยจัดเก็บข้อมูลราคา วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าถึงข้อมูลราคาได้ หากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด อีกทั้งลดระยะเวลาการเสนอราคา จากเดิม 8 ชั่วโมง เหลือ 3 ชั่วโมง และยกเลิกขั้นตอนการซื้อเอกสารประกวดราคาฯ ก่อนการเสนอราคา…

เครมลินแบนใช้ iPhone หวั่นข้อมูลรั่วไหลสู่ชาติตะวันตก

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างอิง Kommersant ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รัสเซีย ระบุว่า ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ยุติการใช้ iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ล เนื่องจากมีความกังวลว่าข้อมูลจาก iPhone อาจรั่วไหลไปยังหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตก   Kommersant รายงานว่า นายเซอร์เก คิริเยนโก รองผู้อำนวยการทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในงานสัมมนาที่จัดขึ้นว่า เจ้าหน้าที่จะต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ภายในวันที่ 1 เม.ย.   “สิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับ iPhone คือ ถ้าไม่ทิ้งไป ก็ให้เด็ก ๆ ใช้ โดยทุกคนต้องปฏิบัติภายในเดือนนี้” เจ้าหน้าที่กล่าว   Kommersant ระบุว่า ทำเนียบเครมลินจะจัดหาโทรศัพท์อื่นที่มีระบบปฏิบัติการที่แตกต่างออกไปให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อทดแทน iPhone             —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   …

โดนปรับกว่า 18 ล้านบาท แมคโดนัลด์ สาขาเกาหลีใต้ถูกสั่งปรับ ฐานทำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ารั่วไหล

Loading

    วันที่ 22 มีนาคม 2566 คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสั่งปรับแมคโดนัลด์ เกาหลีใต้เป็นเงิน 696 ล้านวอน (ราว 18.54 ล้านบาท) ฐานจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าอย่างหละหลวม หลังระบบถูกแฮ็กเกอร์เจาะข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า 4.87 ล้านราย พร้อมสั่งปรับอีกประมาณ 10 ล้านวอน (ราว 2.7 แสนบาท) ฐานละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้า   คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระบุว่า แมคโดนัลด์ เกาหลีใต้ ไม่มีระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่แน่นหนาเพียงพอ โดยปล่อยให้ไฟล์สำรองที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าร้านอาหารและแมคเดลิเวอรี่ สามารถเข้าถึงได้ผ่านโปรโตคอลสำหรับการแชร์ไฟล์ ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลไปกว่า 4.87 ล้านราย   นอกจากนี้ ยังพบว่าแมคโดนัลด์ เกาหลีใต้ ไม่ได้ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า 766,846 รายที่พ้นระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล และได้ทำการแจ้งลูกค้าและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลล่าช้า         (1 วอน = 0.027 บาท)      …