‘แบงก์-ตำรวจ-ธปท.’ ประเดิมเทรนด์เอไอตรวจจับใบหน้า

Loading

เนคเทคเปิดเวทีวิชาการตั้งโจทย์สงสัยหัวข้อ “เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ประเทศไทยพร้อมใช้แล้วจริงหรือ” ดึงนักการธนาคาร ธปท. นักกฎหมายและนักเทคโนโลยี ขึ้นเวทีแชร์ประสบการณ์ที่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำงาน เนคเทคเปิดเวทีวิชาการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเอไอ “ระบบรับรู้จำใบหน้า” มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการยืนยันตัวตน เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและสร้างมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัย ธปท.เปิดแซนด์บอกซ์การใช้ไบโอเมตทริกซ์ตรวจสิทธิหรือแสดงตน ด้านนักกฎหมายแนะเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล สร้างการยอมรับจากผู้ใช้งาน ระบบรับรู้จำใบหน้า (Face Recognition) เป็นเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์สำหรับตรวจสอบและระบุตัวตนของบุคคล โดยเปรียบเทียบลักษณะใบหน้าจากฐานข้อมูลภาพใบหน้า ผ่านการวิเคราะห์และประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ประยุกต์ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในทุกแวดวง เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น สายการเงินใช้ยืนยันตัวตน การใช้งานของ “ระบบรับรู้จำใบหน้า” ในมุมมองของภาคธนาคารอย่าง ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Principal Visionary Architech บริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด ในเครือของธนาคารกสิกรไทย ที่ถูกสะท้อนออกมาในการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ประเทศไทยพร้อมใช้แล้วจริงหรือ” ในงานประชุมวิชาการประจำปี 2562 เนคเทค กล่าวว่า เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการให้บริการลูกค้าในวงการธนาคาร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มวิจัยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับเดโม่ในบริษัทผ่าน Face Pay ในการจ่ายเงินโดยใช้ใบหน้าของผู้มาใช้บริการแทนกระเป๋าสตางค์ ระบบจะรู้ได้ทันทีว่าบุคคลนั้นมีชื่อว่าอะไร และลิงค์กับบัญชีโดยอัตโนมัติ ถือเป็นกระบวนการที่ง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยใช้เทคนิค ‘ดีพ เลินนิ่ง’ (Deep Learning)…

แฉ แฮกเกอร์จีนเจาะโครงข่ายโทรคมนาคมตามรอย “อุยกูร์” ในเอเชีย รวมทั้ง “ไทย”

Loading

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แฮกเกอร์ซึ่งทำงานให้กับรัฐบาลจีน ได้เจาะเข้าไปในโครงข่ายโทรคมนาคมในหลายประเทศในเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อติดตามชาวอุยกูร์ โดยเป็นการอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง 2 คน และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงอีก 2 คน ซึ่งทำหน้าที่ในการสอบสวนเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การแฮก หรือการเจาะระบบที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจารกรรมบนโลกไซเบอร์ ที่มีเป้าหมายเป็นบุคคลระดับสูง เช่น เจ้าหน้าที่ทูตและเจ้าหน้าที่ทหารต่างประเทศ แต่จีนจะพุ่งเป้าลำดับต้นๆไปกับการตามรอยการเคลื่อนไหวของชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยในจีน ที่รัฐบาลปักกิ่งเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามต่อจีน ทั้งนี้ จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนานาชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียง และมีชาวอุยกูร์จำนวนมากที่สุดคุมขังอยู่ในสถานที่ที่จีนเรียกว่าเป็นศูนย์ฝึกวิชาชีพ รอยเตอร์ระบุว่า ปฏิบัติการเจาะข้อมูลดังกล่าว เกิดขึ้นโดยแฮกเกอร์ชาวจีนหลายกลุ่ม ที่เจาะเข้าไปในระบบเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งตุรกี คาซักสถาน อินเดีย มาเลเซีย และไทย โดยประเทศเหล่านี้มักจะถูกใช้เป็นจุดแวะของชาวอุยกูร์ในการเดินทางระหว่างซินเจียงกับตุรกี ซึ่งนักเคลื่อนไหวระบุว่า เป็นความพยายามที่จะหลบหนีการถูกดำเนินคดี ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งระบุว่า กลุ่มชาวอุยกูร์ที่เดินทางพวกนี้ เป็นพวกที่จะเดินทางไปร่วมต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนเองยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีบนโลกไซเบอร์หรือการกระทำทารุณต่อชาวอุยกูร์ ขณะที่รอยเตอร์เองไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ถูกโจมตีคือใคร ขณะที่ทางการในอินเดียและไทยต่างปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องดังกล่าว ——————————————————- ที่มา : มติชน / 17 กันยายน 2562 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1674331

เร็วหรือช้าไป…เมื่อไทยมี พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลฯ

Loading

โดย… ชวน หวังสุนทรชัย ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้อ่านสำคัญมากน้อยแค่ไหน? สารคดีเรื่อง The Great Hack ที่ตีแผ่กรณี Facebook ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลให้บริษัท Cambridge Analytica น่าจะทำให้เราต้องหันมาสนใจประเด็นนี้กันอย่างจริงจัง กรณี Facebook ปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ส่งผลให้ Facebook ถูกคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐ (Federal Trade Commission) สั่งปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 155,000 ล้านบาท รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศอิตาลี ก็ได้ออกคำสั่งปรับ Facebook เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านยูโร หรือ 34 ล้านบาท เห็นได้ว่าประเทศตะวันตก ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น สำหรับประเทศไทย ในแง่ของกฎหมายเราอาจช้าและก้าวไม่ทันสากลเพราะที่ผ่านมาใช้เวลารวมกว่า 20 ปี เพื่อร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จนสุดท้ายได้กฎหมายออกมาในปีนี้ และจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า (พ.ศ.2563) แต่ในรายละเอียดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนักสำหรับผู้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายนี้ ทุกคนมีสิทธิในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเอง…

สุดยอด!…ระบบป้องกันภัยซาอุฯ ถูกทำลายด้วยโดรนราคาถูก

Loading

การโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ในซาอุดิอาระเบีย แสดงให้เห็นว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศถูกทำลายอย่างง่ายดายโดยเทคโนโลยีราคาถูก และไม่สามารถป้องกันได้ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือเครื่องบินขับไล่อย่าง F-15 ซาอุดิอาระเบีย ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อปีที่แล้วเพิ่งซื้ออาวุธไป 65,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่รวมถึงเรดาร์ เครื่องบินขับไล่หลายรุ่น เช่น F-15 และขีปนาวุธที่สามารถสกัดขีปนาวุธที่ถูกยิงมาจากดินแดนของศัตรูได้อย่างแม่นยำ แต่เมื่อวันเสาร์ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอารัมโก 2 แห่ง กลับถูกโจมตีด้วยฝูงโดรนของกลุ่มกบฎฮูตี ที่เป็นกองกำลังกลุ่มเล็กๆ ทำให้ต้องระงับการผลิตน้ำมัน 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กลุ่มฮูตีเจาะช่องโหว่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และยังใช้เทคโนโลยีราคาถูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโดรนเพียง 10 ลำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะฮูตีเคยใช้โดรนแทรกซึมน่านฟ้าซาอุฯและถ่ายรูปโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล และโจมตีท่อส่งน้ำมันไปยังทะเลแดงด้วย ส่วนโดรนที่ใช้น่าจะเป็น “แซมแม้ด ทรี” ที่สามารถบรรทุกระเบิดและเล่นงานเป้าหมายที่อยู่ไกลถึง 1,500 ก.ม. ———————————————————————- ที่มา : Nation TV / 17 กันยายน 2562 Link…

สมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย ประณามการจับกุมผู้วิจารณ์พระองค์บนโลกออนไลน์

Loading

สมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย ทรงกลับมาใช้งานทวิตเตอร์อีกครั้งวานนี้ เพื่อแสดงความผิดหวังต่อการจับกุมผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์พระองค์บนโซเชียลมีเดีย สืบเนื่องจากการทรงฉายพระรูปพิธีฉลองวันชาติมาเลเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) ตำรวจมาเลเซีย จับกุมนักกิจกรรมในเมืองกลัง (Klang) รัฐสลังงอร์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทสมเด็จพระราชินี สมเด็จพระราชินีตุนกู ฮายาห์ อซิซาห์ อมีนาห์ ไมมูนาห์ อิสกันดาริยาห์ รายา ประไหมสุหรี อากงแห่งมาเลเซีย ทรงตรัสว่าพระองค์และสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลละฮ์ เรียยาตุดดิน อัล-มุซตาฟา บิลละฮ์ ซะฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม สุลต่าน ฮาจี อะฮ์มัด ซะฮ์ อัล-มุซตาอิน บิลละฮ์ (สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 16) ไม่ได้ทรงร้องขอให้ตำรวจดำเนินการจับกุม และพระองค์ทรงเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์นี้ ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในมาเลเซียส่วนหนึ่งโพสต์วิจารณ์ สมเด็จพระราชินีตุนกู ฮายาห์ อซิซาห์ ว่าทรงวางตัวไม่เหมาะสม ในงานฉลองวันชาติมาเลเซียเมื่อวันที่ 31 ส.ค. จากการที่พระองค์ทรงฉายพระรูปพิธีเดินขบวนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชินีทรงตรัสชี้แจงในเวลาต่อมาว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงแนะให้พระองค์ฉายรูป สมเด็จพระราชินีทรงปิดการใช้งานบัญชีทวิตเตอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และทรงโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมว่า ทรงปิดทวิตเตอร์ด้วยเหตุผลส่วนพระองค์…

มิติใหม่ใช้โดรนถล่มเป้าหมายระดับโลก ราคาถูกลงแต่ได้ผลเกินคาด

Loading

การเป็นพันธมิตรระหว่างฮูษีกับอิหร่าน ยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้แบ่งปันวิธีโจมตีด้วยโดรนไปให้แนวร่วมในอิหร่าน อิรัก ซีเรีย และเลบานอน วิม ซไวเนนบวร์ก นักวิจัยอาวุโสเกี่ยวกับโดรนที่ PAX องค์กรสันติภาพเนเธอร์แลนด์ กล่าวกับ NYT ว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบียไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงช่องโหว่ของซาอุดิอาระเบียในการทำสงครามกับกบฎฮูษีเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการโจมตีเป้าหมายระดับสูงเริ่มที่จะมีต้นทุนที่ต่ำลงมาก โดยอาจมีค่าใช้จ่าย 15,000 เหรียญสหรัฐหรือน้อยกว่าในการสร้างโดรน การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์แบบ “เดวิดและโกลิอัท” (หรือตัวเล็กล้มยักษ์) และใช้โดรนโดรนราคาถูก เพื่อทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้น เพราะการโจมตีดังกล่าวไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัย ทำให้ตลาดปั่นป่วน และทำให้ความหวาดกลัวขยายวงกว้าง แม้ว่า กบฎฮูษีจะไม่มีทุนทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญ แต่โดรนกลับกลายเป็นทางออกต้นทุนต่ำให้เขาเพื่อใช้โจมตีศัตรูตัวฉกาจคือ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณทางทหารที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2561 โดยมีงบประมาณถึ 67,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอกย้ำว่า ประเทศที่มีงบประมาณทางทหารที่สูงมาก ก็อาจเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายที่ไม่มียุทโธปกรณ์ชั้นเลิศเลย นอกจากนี้ การโจมตีล่าสุด ยังทะลวงลึกเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียมากกว่าการโจมตีครั้งก่อน ฟาเรีย อัลมุสลิมี ผู้ร่วมก่อตั้งของ Sanaa Center for Strategic Studies ซึ่งเน้นประเด็นเกี่ยวกับเยเมน กล่าวว่า สิ่งทีเกิดขึ้นเป็นความท้าทายต่อซาอุดีอาระเบีย…