ข้อมูลผู้โดยสาร Malindo – Thai Lion Air รั่วไหลนับล้านรายการ

Loading

พบข้อมูลผู้โดยสารสายการบิน Malindo Air ซึ่งรวมถึงชื่อ ที่อยู่ หมายเลขพาสปอร์ต รั่วไหลนับล้านรายการ Thai Lion Air กระทบด้วย เซาท์ไช่น่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า สายการบิน Malindo Air ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Lion Air สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติอินโดนีเซียพบว่ามีข้อมูลของผู้โดยสารที่ประกอบด้วย ชื่อผู้โดยสาร อีเมล์ วันเกิด เลขที่พาสปอร์ต ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของผู้โดยสารนับล้านรายรั่วไหลตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา Chandran Rama Muthy ซีอีโอของ Malindo Air ยอมรับว่า “เราพบการละเมิดข้อมูลของผู้โดยสารตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน โดยขณะนี่้กำลังเร่งประสานงานกับทางมาเลเซีย ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการบินของทางสายการบินให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว รวมถึงกำลังร่วมมือกับบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับการวิเคราะห์แบบเต็มรูปแบบเกี่ยวกับการรั่วไหลพร้อมหามาตรการรับมือในอนาคต รายงานระบุว่าข้อมูลของผู้โดยสารที่เดินทางกับสารการบิน Malindo Air และ Thai Lion Air ซึ่งทั้งสองเป็นบริษัทลูกของ Lion Air นั้นถูกอัพโหลดเก็บไว้ใน Amazon Web Services ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลบนคลาวด์สาธารณะ โดยข้อมูลที่หลุดออกมานั้นมานั้นมีทั้งหมด 4 ไฟล์…

ธนชาตเตือนนักพนันออนไลน์ต่างประเทศ ถูกมิจฉาชีพล้วงข้อมูลส่วนตัว

Loading

ธนาคารธนชาตเตือนภัยผู้ที่เข้าเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์จากต่างประเทศ ระวังถูกมิจฉาชีพล้วง “ข้อมูลส่วนตัว” ไปใช้หาประโยชน์ ธนาคารธนชาต ออกประกาศเตือนภัยประชาชน หลังมีรายงานจากศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) และศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT ) ว่า เกิดเหตุการณ์ข้อมูลประชาชนซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารหลายแห่งรั่วไหลจากเว็บพนันออนไลน์ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้ให้ข้อมูลส่วนตัวแก่เว็บไซต์พนัน ได้แก่ ข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้ในการโอนเงิน ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงรหัสหลังบัตรประชาชน เป็นต้น โดยประมาณการจำนวนข้อมูลที่รั่วไหลออกไปราว 40 ล้านรายการซึ่งการรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าว “ไม่ได้เกิดจากระบบธนาคาร” แต่เป็นเพราะระบบฐานข้อมูลของเว็บพนัน ไม่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลใดๆ ทำให้บรรดามิจฉาชีพเจาะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ ธนาคารธนชาตมีความเป็นห่วงและอยากให้ลูกค้าทุกท่านระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีแนวทางเสนอแนะ ดังนี้ – ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก่อนจะให้ข้อมูลส่วนตัวทุกครั้ง (ดูวิธีการสังเกตเบื้องต้นได้ที่ลิงค์นี้ https://facebook.com/thanachartbank/posts/2044524652236929 – ระวังการคลิกลิงก์จากอีเมลหลอกลวง (Phishing Mail) (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.thanachartbank.co.th/TbankCMSFrontend/newsletter/tbankdsi_14.html) – ไม่ควรใช้ Password ของ Mobile Banking, Internet Banking เหมือนกับเว็บไซต์อื่น ๆ – ระมัดระวังมิจฉาชีพที่หลอกลวงทางโทรศัพท์ ——————————————…

‘แบงก์-ตำรวจ-ธปท.’ ประเดิมเทรนด์เอไอตรวจจับใบหน้า

Loading

เนคเทคเปิดเวทีวิชาการตั้งโจทย์สงสัยหัวข้อ “เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ประเทศไทยพร้อมใช้แล้วจริงหรือ” ดึงนักการธนาคาร ธปท. นักกฎหมายและนักเทคโนโลยี ขึ้นเวทีแชร์ประสบการณ์ที่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำงาน เนคเทคเปิดเวทีวิชาการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเอไอ “ระบบรับรู้จำใบหน้า” มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการยืนยันตัวตน เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและสร้างมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัย ธปท.เปิดแซนด์บอกซ์การใช้ไบโอเมตทริกซ์ตรวจสิทธิหรือแสดงตน ด้านนักกฎหมายแนะเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล สร้างการยอมรับจากผู้ใช้งาน ระบบรับรู้จำใบหน้า (Face Recognition) เป็นเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์สำหรับตรวจสอบและระบุตัวตนของบุคคล โดยเปรียบเทียบลักษณะใบหน้าจากฐานข้อมูลภาพใบหน้า ผ่านการวิเคราะห์และประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ประยุกต์ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในทุกแวดวง เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น สายการเงินใช้ยืนยันตัวตน การใช้งานของ “ระบบรับรู้จำใบหน้า” ในมุมมองของภาคธนาคารอย่าง ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Principal Visionary Architech บริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด ในเครือของธนาคารกสิกรไทย ที่ถูกสะท้อนออกมาในการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ประเทศไทยพร้อมใช้แล้วจริงหรือ” ในงานประชุมวิชาการประจำปี 2562 เนคเทค กล่าวว่า เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการให้บริการลูกค้าในวงการธนาคาร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มวิจัยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับเดโม่ในบริษัทผ่าน Face Pay ในการจ่ายเงินโดยใช้ใบหน้าของผู้มาใช้บริการแทนกระเป๋าสตางค์ ระบบจะรู้ได้ทันทีว่าบุคคลนั้นมีชื่อว่าอะไร และลิงค์กับบัญชีโดยอัตโนมัติ ถือเป็นกระบวนการที่ง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยใช้เทคนิค ‘ดีพ เลินนิ่ง’ (Deep Learning)…

เตือนสาวผู้ใช้แอปติดตามรอบเดือน เสี่ยงข้อมูลถูกแชร์ให้ Facebook

Loading

Privacy International กลุ่มผู้สนับสนุนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากสหราชอาณาจักร ออกมาแจ้งเตือนหญิงสาวผู้ใช้แอปพลิเคชันสำหรับติดตามรอบเดือนหลายล้านราย เสี่ยงข้อมูลสุขภาพไม่ว่าจะเป็น รอบเดือน ชีวิตบนเตียง การใช้ยาคุม อาการป่วย และอื่นๆ ถูกเปิดเผยให้ Facebook โดยไม่รู้ตัว แม้ว่าคุณจะไม่ได้เล่น Facebook ก็ตาม แอปพลิเคชันติดตามรอบเดือน เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันยอดนิยมที่เหล่าหญิงสาวดาวน์โหลดมาใช้งานเพื่อติดตามรอบเดือนของตนเอง รวมไปถึงผู้ที่ต้องการมีบุตร เนื่องจากแอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถติดตามช่วงที่ไข่ตกเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ และเพื่อให้การคำนวณมีความแม่นยำ ผู้ใช้จำเป็นต้องบันทึกข้อมูลสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลเชิงลึก เช่น วันที่มีเพศสัมพันธ์ วันที่มีประจำเดือน อาการป่วย สุขภาพจิต และอื่นๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลลับที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องการเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของ Privacy International พบว่า แอปพลิเคชันติดตามรอบเดือนหลายรายที่มียอดดาวน์โหลดนับล้าน ได้แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไปยัง Facebook และบริการภายนอกอื่นๆ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ล็อกอินผ่านทางบัญชี Facebook หรือมีบัญชี Facebook ก็ตาม โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกแชร์ผ่านทาง SDK ของ Facebook ที่ติดมากับแอป เพื่อให้ Facebook นำข้อมูลไปใช้ทำแคมเปญโฆษณาต่อ ในขณะที่เจ้าของแอปก็จะได้ค่าตอบแทนกลับคืนมาเช่นกัน แอปพลิเคชันที่ส่งข้อมูลให้ Facebook ได้แก่…