อึ้ง เกาหลีใต้จับนักเคลื่อนไหวจีน พยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลหนีเข้าประเทศ

Loading

  ชายที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวชาวจีน ถูกหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้จับกุมตัว หลังพยายามหนีจากประเทศจีนมาเกาหลีใต้ด้วยการขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง แต่สุดท้ายไปไม่รอด   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ว่า หน่วยยามฝั่งของเกาหลีใต้จับกุมชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิชาวจีนได้เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังพบเขาพยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง เพื่อเข้าสู่เกาหลีใต้โดยใช้เพียงกล้องส่องทางไกลและเข็มทิศช่วยนำทาง แต่สุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหวหลังเดินทางได้ราว 300 กม.   สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ระบุชื่อของชายคนนี้ว่า ควอน พยอง เป็นนักเคลื่อนไหวที่คอยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวตนของชายคนนี้อย่างเป็นทางการ ขณะที่สถานทูตจีนในเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ   ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งเกาหลีใต้ ชายคนนี้สวมเสื้อชูชีพและหมวกกันน็อก ออกเดินทางจากมณฑลซานตงพร้อมกับถังน้ำมัน 5 ถัง ด้วยเจ็ตสกีขนาด 1,800 ซีซี โดยเขาคอยเติมน้ำมันระหว่างทางและทิ้งถังน้ำมันที่ว่างเปล่าลงทะเล แต่สุดท้ายเจ็ตสกีของเขาก็ไปต่อไม่ไหวขณะอยู่ใกล้ท่าเรือสำราญ นอกท่าเรืออินชอน และต้องติดต่อขอความช่วยเหลือ   หน่วยยามฝั่งไม่ได้ระบุว่าชายคนนี้เป็นใคร แต่บอกว่าเขาถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค. ฐานพยายามลักลอบพาตัวเองเข้าเมืองอินชอน โดยไม่มีข้อสงสัยว่าเขาอาจเป็นสายลับ   ขณะที่นาย อี แท-ซอน นักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้จากองค์กรไม่แสวงกำไร Dialogue China บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า…

จีนจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงหนึ่ง อ้างเป็นสายให้กับ CIA

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนแถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในกระทรวงหนึ่ง ชี้เป็นสายให้กับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ   วันที่ 21 ส.ค. ทางการจีนกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งว่า เป็นสายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ (CIA) และมีส่วนเกี่ยวกับกับคดีจารกรรมที่สำคัญ นับเป็นคดีที่สองแล้วของเดือนนี้ที่จีนออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ส่งสายสืบเข้ามาในประเทศ โดยใช้คนจีนด้วยกันเอง   ในถ้อยแถลง กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ระบุว่า กำลังสืบสวนเจ้าหน้าที่ในกระทรวงรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกคัดเลือกโดยซีไอเอในขณะที่เขาศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น     กระทรวงฯ ระบุว่า ชาวจีนวัย 39 ปี ซึ่งถูกระบุเพียงนามสกุลว่ามีแซ่ “ห่าว” ได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นขณะยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับห่าว ทั้งเลี้ยงข้าว ส่งของขวัญให้ และจ่ายเงินช่วยสนับสนุนการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อจบการศึกษา   กระทรวงฯ อ้างว่า เมื่อสนิทกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้แนะนำห่าวให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และขอให้ห่าวกลับไปประเทศจีน และแฝงตัวเข้าทำงานในแผนกหนึ่งของกระทรวงหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก   ถ้อยแถลงระบุว่า ห่าวตกลงรับข้อเสนอ โดยลงนามในข้อตกลงจารกรรมกับสหรัฐฯ และได้รับการฝึกอบรม   เมื่อกลับมาที่จีน…

รวม 7 ข้อมูลสำคัญที่รัฐบาลจีนปกปิด กังวลเสียเปรียบให้สหรัฐ

Loading

  บลูมเบิร์ก รวบรวม 7 ข้อมูลสำคัญที่รัฐบาลจีนปกปิด เมื่อเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ และอาจทำให้จีนเสียเปรียบสหรัฐ   สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การระงับเปิดเผยข้อมูลอัตราการว่างงานคนหนุ่มสาวจีนในสัปดาห์นี้ เป็นการระงับข้อมูลล่าสุดของประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ที่มักปกปิดข้อมูลอ่อนไหว โดยเฉพาะข้อมูลที่ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง   จีนประสบกับภัยคุกคามมากมาย ที่ส่งผลต่อการขยายเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าในปีนี้ จึงเริ่มไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญต่อสาธารณะ และการต่อสู้ทางอุดมการณ์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับสหรัฐ ทำให้รัฐบาลปักกิ่งหวงข้อมูลมากขึ้น เพราะเชื่อว่าอาจสร้างความได้เปรียบให้กับรัฐบาลโจ ไบเดนได้   7 ข้อมูลสำคัญของจีนที่ถูกระงับเผยแพร่ มีดังนี้   1. ปกปิดอัตราว่างงานคนหนุ่มสาว อัตราการว่างงานคนหนุ่มสาวช่วงอายุ 16-24 ปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.3% เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งหนุ่มสาวจีน 1 ใน 5 ไร้งาน ถือเป็นปัญหาต่อพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ต้องการสร้างเสถียรภาพทางสังคม   การระงับข้อมูลชนิดนี้ รัฐบาลอ้างว่ามีความจำเป็นต้องหาวิธีประเมินใหม่ เพราะการคำนวณอัตราการว่างงานมีความซับซ้อน รัฐบาลคิดว่าธรรมชาติของเศรษฐกิจ และรูปแบบแรงงานเปลี่ยนแปลงไป ทำให้การคำนวณอัตราการว่างงานคนกลุ่มนี้ไม่สะท้อนความเป็นจริง จึงเกิดข้อสงสัยมากมายต่อความเคลื่อนไหวนี้   อย่างไรก็ตาม…

จีน ออกกฎระเบียบใหม่ 24 ข้อ คุม AI สร้างจุดร่วมภาครัฐ – เทคโนโลยี

Loading

  ประเทศจีน ออกกฎระเบียบใหม่ 24 ข้อ เพื่อควบคุมการใช้งานเทคโนโลยี AI ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา เพื่อสร้างจุดกึ่งกลางระหว่างทางภาครัฐ และเทคโนโลยีสู้กับคู่แข่งอย่าง ChatGPT   จีนได้ประกาศใช้ข้อบังคับชั่วคราวเกี่ยวกับการจัดการ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.66   ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ประเทศจีนได้ประกาศกฎระเบียบมีชื่อว่า “Generative AI Measures” หรือ “มาตรการเจเนอเรทีฟเอไอ” ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของจีน (CAC) คณะกรรมการพัฒนา และปฏิรูปแห่งชาติ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   โดยในมาตรการนี้ มีข้อบังคับถึง 24 ข้อ ที่ได้กำหนดการใช้งาน AI ในประเทศจีน เช่น กำหนดให้แพลตฟอร์มที่ใช้ AI จำเป็นต้องลงทะเบียน และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเผยแพร่ รวมถึงห้ามสร้างรูปภาพของ ประธานาธิบดี สี…

ศัตรูมีหนาว! กองทัพจีนคืบหน้าครั้งสำคัญ วิจัยอาวุธเลเซอร์ยิงได้ไกลทุกพิสัยตามต้องการ

Loading

แฟ้มภาพจากนาวิกโยธินสหรัฐฯ   นักวิทยาศาสตร์ของประสบความคืบหน้าครั้งสำคัญในงานวิจัยพัฒนาอาวุธเลเซอร์พลังงานสูง ที่สามารถยิงเป้าหมายได้ไกลเท่าใดก็ได้ตามความปรารถนาของผู้ปฏิบัติการ โดยไม่สามารถขัดขวางและประสิทธิภาพของมันก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย   บรรดานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันตนเองแห่งชาติ ในเมืองฉางชา ประเทศจีน เผยแพร่ผลการวิจัยของพวกเขาที่ผ่านการตรวจทานจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ในวารสาร Acta Optica Sinica ในเดือนนี้ อ้างว่าได้พัฒนาระบบหล่อเย็นใหม่หนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันทำให้การปฏิบัติการเลเซอร์พลังงานสูงแบบไร้ขีดจำกัดนั้นมีความเป็นได้ โดยปราศจากผลกระทบของภาวะร้อนเกินไปแต่อย่างใด   “นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเลเซอร์พลังงานสูง” ทีมงานวิจัยกล่าวในเอกสารการวิจัย “ลำแสงคุณภาพสูง ไม่ได้แค่สามารถผลิตออกมาในวินาทีแรก แต่มันยังคงศักยภาพไว้อย่างไม่มีขีดจำกัด”   ระบบหล่อเย็นจะควบคุมการไหลของกระแสแก๊ส สำหรับเข้าไปขจัดความร้อนภายในอาวุธเลเซอร์ ป้องกันการสั่นและเหตุติดขัดต่าง ๆ มันสามารถปฏิบัติการได้นานขึ้น มีพิสัยทำการเพิ่มขึ้นและมีพลานุภาพการโจมตีมากกว่าเดิม จากคำกล่าวอ้างของพวกนักวิจัย พร้อมเน้นว่ากว่า 60 ปีนับตั้งแต่มีการประดิษฐ์เลเซอร์ทับทิมเป็นครั้งแรก พวกนักพัฒนาอาวุธไม่เคยสามารถสร้าง “ลำแสงมรณะที่สามารถจัดการกับเป้าหมายต่าง ๆ อย่างทันทีทันใดได้เลย”   สหรัฐฯ ได้ยกเลิกโครงการอาวุธเลเซอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางส่วนไปแล้ว แม้มันสามารถสอยร่วงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในการทดสอบ “เหตุผลที่แท้จริงของการยกเลิกโครงการต่าง ๆ เหล่านี้คือ พลานุภาพการทำลายล้างของมันไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง” จากความเห็นของเหล่านักวิทยาศาสตร์จีน   อาวุธลักษณะนี้มักก่อลำแสงพลังงานสูงที่ทำให้อุณหภูมิแก๊สพุ่งสูงระหว่างการเดินทาง ขณะที่มันพุ่งผ่านอากาศ จนก่อให้เกิดความปั่นป่วน ผลกระทบนี้อาจทำให้ลำแสงบิดเบี้ยว บั่นทอนความแม่นยำและความเข้มข้นของมัน นอกจากนี้…

จีนแถลงตอบโต้ศัตรูที่พยายามยุยงให้เกิดการปฏิวัติสีในจีน

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน (Ministry of State Security – MSS) ออกแถลงการณ์ในบัญชีแอปพลิเคชัน WeChat เมื่อ 15 ส.ค.66 ระบุว่าใจความสำคัญว่า “ความมั่นคงทางการเมือง เป็นรากฐานของความมั่นคงของชาติ” เพื่อตอบโต้ศัตรูที่พยายามยุยงให้เกิดการปฏิวัติสีในจีน   แกนหลักของ “ความมั่นคงทางการเมือง” อยู่ที่ “ความมั่นคงของพลังอำนาจและระบบการเมือง” ซึ่งก็คือการรักษาความเป็นผู้นำและสถานะการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) รวมทั้งปกป้องระบบสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน ดังนั้น หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนจะให้ความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงทางการเมืองเสมอ   แถลงการณ์ยังชี้แจงว่า การปกป้องความมั่นคงทางการเมืองเป็นผลประโยชน์พื้นฐานของกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดในประเทศจีน หน่วยงานความมั่นคงของจีนทำงานโดยยึดประชาชนเป็นหลัก จึงต้องระมัดระวังในการควบคุมความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนจีน ทั้งนี้ การปกป้องความมั่นคงทางการเมืองถือเป็นภารกิจหลัก ขณะเดียวกันก็ยังคงเสริมสร้างความมั่นคงแบบดั้งเดิม เช่น ความมั่นคงทางทหารและดินแดน ตลอดจนความมั่นคงที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม เช่น เทคโนโลยี การคลัง และชีววิทยา   ได้ยกกรณีความพยายามที่จะล้มล้างอำนาจทางการเมืองในปี 2559 ของนาย Su ทหารฝ่ายเสนาธิการเกษียณอายุราชการจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในมณฑลยูนนาน นาย Su ติดต่อบุคคลขององค์กรต่างชาติที่เป็นปรปักษ์ต่อจีน และมีการแสดงความคิดเห็นตอบโต้ทางอินเทอร์เน็ต โดยวางแผนที่จะซื้ออาวุธและสมรู้ร่วมคิดเพื่อดำเนินการที่รุนแรง…