สแกมเมอร์จีนใช้ AI ปลอมเป็นเพื่อน หลอกเงินนับล้าน

Loading

  สแกมเมอร์ในจีนใช้เทคโนโลยี AI ปลอมตัวเป็นเพื่อนนักธุรกิจของชายคนหนึ่งและหลอกยืมเงิน สูญหลายล้านหยวน   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า สแกมเมอร์ หรือมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์ ในประเทศจีน ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ในการหลอกลวงเหยื่อ จนสูญเงินนับล้านหยวน   สื่อของรัฐในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน เผยแพร่ข้อมูลว่า เหยื่อผู้เสียหายรายนี้ ใช้นามว่านายกั๋ว ได้รับวิดีโอคอลเมื่อเดือนที่แล้วจากบุคคลที่ปรากฏภาพและเสียงของเพื่อนสนิท แต่แท้จริงแล้วผู้โทรมาเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI อัจฉริยะเพื่อเปลี่ยนหน้าและเสียงให้เหมือนกับบุคคลที่เหยื่อรู้จัก เพื่อหลอกล่อขอยืมเงิน   จากนั้นนายกั๋ว ซึ่งหลงเชื่อตามภาพและเสียงในวีดีโอคอล ได้โอนเงินให้เพื่อนตัวปลอมเป็นจำนวน 4.3 ล้านหยวน (ประมาณ 21 ล้านบาท) หลังจากที่มิจฉาชีพอ้างว่าเพื่อนอีกคนต้องการเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัทเพื่อจ่ายค้ำประกันการประมูล   มิจฉาชีพทำทีขอหมายเลขบัญชีธนาคารส่วนบุคคลของนายกั๋ว เพื่อหลอกว่าจะโอนเงินคืนให้ จากนั้นก็อ้างว่าได้โอนเงินคืนให้ทั้งหมดแล้ว พร้อมโชว์หลักฐานการโอนผ่านหน้าจอเพื่อยืนยัน   เมื่อมีการแจ้งเตือนจากธนาคารว่ามีเงินเข้าออกจากบัญชีตนเอง นายกั๋วจึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดและเชื่อใจการกระทำของเพื่อนปลอม   “ในตอนนั้น ผมได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของบุคคลที่วิดีโอคอลหาผมว่าเป็นเพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันจริง ดังนั้นผมจึงไว้ใจและไม่ได้ตรวจสอบ” สื่ออ้างคำให้การของนายกั๋ว…

เอไอป่วน! ภาพปลอมว่อนเน็ต เหตุเพนตากอนโดนบึ้ม ฉุดตลาดหุ้นมะกันร่วง

Loading

  สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ภาพปลอมที่แสดงให้เห็นการเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่เพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.) และยังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นสหรัฐที่ทำการซื้อขายในวันเดียวกันในช่วงสั้น ๆ ด้วย   ภาพปลอมดังกล่าวที่ผู้สังเกตการณ์หลายคนสงสัยว่าน่าจะเป็นภาพที่มาจากการใช้ระบบ Generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแขนงหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสร้างคอนเทนต์ขึ้นเองได้อย่างรวดเร็ว เช่น รูปภาพ และงานศิลปะ ซึ่งภาพปลอมดังกล่าวได้ถูกแชร์อย่างแพร่หลายโดยบัญชีผู้ใช้งานหลายบัญชี ส่งผลให้เพนตากอนต้องออกมาแถลงยืนยันว่าไม่มีเหตุระเบิดเช่นนั้นเกิดขึ้นที่เพนตากอน   “เรายืนยันได้ว่านี่เป็นรายงานเท็จและไม่มีเหตุโจมตีเพนตากอนวันนี้” โฆษกของเพนตากอนระบุ   BREAKING: Explosion near Pentagon pic.twitter.com/q49yTVWhR8 — whalechart (@WhaleChart) May 22, 2023     ด้านกรมดับเพลิงอาร์ลิงตันโพสต์ลงโซเชียลมีเดียยืนยันเช่นกันว่า ไม่มีเหตุระเบิดหรือเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นที่หรือใกล้กับเพนตากอน   ขณะที่ทวีตล่าสุดที่เอเอฟพีพบเกี่ยวกับการแชร์ภาพเพนตากอน มาจากบัญชีของผู้สนับสนุนกลุ่ม QAnon ที่เคยเผยแพร่ข้อมูลอันบิดเบือน แม้จะไม่ทราบแหล่งที่มาต้นทางของภาพปลอมดังกล่าว   ภาพปลอมที่เกิดกับเพนตากอน เป็นเหตุการณ์คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ภาพปลอมต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ รวมถึงภาพปลอมที่แสดงให้เห็นอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ขณะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม…

Apple แบน ChatGPT และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ห้ามพนักงานใช้งาน

Loading

    บริษัท แอปเปิล (Apple) แบน ChatGPT และแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) อื่น ๆ ห้ามพนักงานใช้งาน   วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าบริษัท แอปเปิล (Apple) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกประกาศแบนแชทจีพีที (ChatGPT) และแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) อื่น ๆ เช่น การสร้างรูปภาพ วิดีโอและการเขียนโปรแกรม Copilot ของ GitHub โดยห้ามพนักงานใช้งานเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของความลับบริษัท   ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน บริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาบริการแชทจีพีที (ChatGPT) ได้เพิ่มฟีเจอร์ไม่ระบุตัวตนให้กับผู้ใช้งานสามารถเลือกได้เพื่อไม่ให้ระบบเก็บข้อมูลการใช้งานหรือข้อมูลอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ฝึกสอนปัญญาประดิษฐ์ บริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายขโมยข้อมูลจากผู้ใช้งานในองค์กรต่าง ๆ   อย่างไรก็ตามยังมีกระแสข่าวหลายบริษัทแบน นอกจากบริษัท แอปเปิล (Apple)…

กลุ่ม G7 เรียกร้องให้มีมาตรฐานควบคุมความน่าเชื่อถือของ AI

Loading

    ผู้นำกลุ่มประเทศ (G7) เรียกร้องให้มีการจัดทำและประกาศใช้มาตรฐานทางเทคนิคเพื่อควบคุมความน่าเชื่อถือของปัญญาประดิษฐ์ โดยชี้ว่ากติกาที่มีอยู่ตามเทคโนโลยีไม่ทัน   เหล่าผู้นำจากแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เดินทางไปร่วมประชุมกันที่เมืองฮิโระชิมา ประเทศญี่ปุ่น   ในแถลงการณ์ร่วมของ G7 ชี้ว่ากฎเกณฑ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลต้องสอดคล้องกับคุณค่าประชาธิปไตยที่ทุกประเทศมีร่วมกัน และชี้ว่าต้องมีการทำความเข้าใจโอกาสและความท้าทายของปัญญาประดิษฐ์เชิงสังเคราะห์ (เช่น ChatGPT)   โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันให้มีการจัดการประชุมในระดับรัฐมนตรีในชื่อ Hiroshima AI Process เพื่อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์เชิงสังเคราะห์ เช่น ประเด็นลิขสิทธิ์ และการเผยแพร่ข่าวปลอม ภายในสิ้นปีนี้   นอกจากนี้ ผู้นำ G7 ยังเรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศอย่าง องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ร่วมวิเคราะห์ผลกระทบของการพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้องด้วย   เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปชี้ว่าต้องการให้ปัญญาประดิษฐ์มีความแม่นยำ ชื่อถือได้ ปลอดภัย…

ผู้พัฒนา ChatGPT เห็นด้วยกับวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่จะให้มีการกำกับดูแล AI

Loading

    แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI (ผู้พัฒนา ChatGPT) กล่าวกับสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเขาเห็นด้วยที่จะมีระบบใหม่เพื่อจัดการกับปัญญาประดิษฐ์   คำกล่าวนี้เคยขึ้นระหว่างที่อัลต์แมนเข้าให้การกับคณะอนุกรรมาธิการยุติธรรมด้านความเป็นส่วนตัวและเทคโนโลยีของวุฒิสภา ถือเป็นครั้งแรกที่เขาให้การในลักษณะนี้   เขาชี้ว่าจำเป็นต้องมีกรอบควบคุมเทคโนโลยีใหม่ทุกชนิด รวมทั้งบริษัทของเขาและภาคธุรกิจต้องมีความรับผิดชอบต่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ตัวเองสร้างขึ้น เช่นเดียวกับผู้ที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้   วุฒิสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างเน้นย่ำว่าควรต้องมีมาตรการควบคุมปัญญาประดิษฐ์เพื่อป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำไปใช้ในเชิงลบ เห็นตรงกันว่าปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพสูงและพัฒนาเร็วกว่าเทคโนโลยีอื่นมาก   ริชาร์ด บลูเมนทัล (Richard Blumenthal) ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ส.ว. จากพรรคเดโมแครตให้ความเห็นว่าต้องมีการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิดหรือสร้างข้อมูลเท็จ อย่างกรณีของการปลอมข่าวการยอมแพ้ของยูเครน   ที่ประชุมยอมรับความล้มเหลวในการกำกับดูแลโซเชียลมีเดีย จึงอยากจะแก้ตัวใหม่กับปัญญาประดิษฐ์ในครั้งนี้ก่อนจะสายเกินไป   ด้านจอช ฮาวลีย์ (Josh Hawley) อนุกรรมาธิการ ส.ว. จากพรรครีพับลิกันเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถสร้างประโยชน์ในเชิงบวกได้อย่างการพัฒนาสื่อ ผ่านการส่งเสริมการกระจายข้อมูล ในทางตรงกันข้ามก็สามารถนำไปใช้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลร้ายตามมาได้เช่นกัน   บลูเมนทัลชมว่าคำพูดอัลต์แมนฟังดูจริงใจมากกว่าผู้บริหารของบริษัทอื่น ๆ “ราวฟ้ากับเหว” สะท้อนผ่านการพูดจริงทำจริง และการแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลในการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์   ขณะที่ ดิก…

บิดาแห่งปัญญาประดิษฐ์เตือนภัย พัฒนาการ AI น่ากลัว ชี้อีกไม่นานฉลาดเกินมนุษย์

Loading

    เจฟฟรีย์ ฮินตัน ชายผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นดั่งบิดาและเจ้าพ่อแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) วัย 75 ปี ได้ลาออกจากงานพร้อมเตือนถึงอันตรายที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาเอไอ   ฮินตันซึ่งประกาศลาออกจากกูเกิลได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านนิวยอร์กไทม์สว่า ขณะนี้เขารู้สึกเสียใจกับงานที่ทำ และบอกว่าอันตรายบางประการของแชทบอทที่ควบคุมโดยเอไอค่อนข้างน่ากลัว “เท่าที่ผมสามารถบอกได้ ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ฉลาดไปกว่าเรา แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานพวกเขาอาจจะฉลาดกว่าเราได้”   งานวิจัยบุกเบิกของฮินตันเกี่ยวกับการเรียนรู้เชิงลึกและโครงข่าวประสาทเทียมได้ปูทางไปสู่ระบบเอไอในปัจจุบัน เช่น ChatGPT ที่ฮินตันบอกว่า แชตบอตสามารถที่จะแซงหน้าระดับข้อมูลที่สมองของมนุษย์สามารถจดจำได้ในเร็วๆ นี้   “ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นคือ GPT-4 ได้บดบังความรู้ที่คนทั่วไปคนหนึ่งมี และมันจะก้าวล้ำนำหน้าความรู้ของคนๆ หนึ่งแบบทิ้งห่าง ในแง่ของเหตุและผลมันไม่ใช่เรื่องดี แต่มันก็เป็นไปแล้ว”ฮินตันระบุ และว่า เมื่อคำนึงถึงความรวดเร็วของพัฒนาการ คาดว่าสิ่งต่างๆ จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมัน   ฮินตันยังกล่าวกับบีบีซีถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ว่า นี่เป็นเพียงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด มันเป็นฝันร้าย ให้ลองจินตนาการดูว่า นักแสดงแย่ ๆ อย่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ตัดสินใจให้หุ่นยนต์สามารถสร้างเป้าหมายย่อยขึ้นมาเองได้ ท้ายที่สุดแล้วมันอาจสร้างเป้าหมายย่อยอย่าง ฉันจะต้องมีอำนาจมากกว่านี้   ฮินตันกล่าวด้วยว่า เขาได้ข้อสรุปว่าประเภทของความฉลาดและปัญญาที่เราพัฒนาขึ้นมานั้นแตกต่างจากปัญญาที่เรามี มนุษย์เป็นระบบชีวภาพ แต่มันเป็นระบบดิจิทัล ความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงคือด้วยระบบดิจิทัล…