ตึงเครียด! โตเกียวยิงจรวด บ.มิตซูบิชิ เฮฟวีส่ง “ดาวเทียมจารกรรมลับ” สอดแนมความเคลื่อนไหว “เกาหลีเหนือ” หลังดาวเทียมทหารเรดาร์ญี่ปุ่นปฏิบัติการระดับวงโคจร 5 ดวง

Loading

    เอพี/MGRออนไลน์ – โตเกียววันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) ประสบความสำเร็จส่งจรวด H2A ของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ นำดาวเทียม IGS-Radar 7 จารกรรมลับของรัฐบาลขึ้นสู่วงโคจร เป้าหมายเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวทางการทหารเกาหลีเหนือ และเพื่อพัฒนาการรับมือต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเสริมสร้างขุมกำลังทางการทหารของญี่ปุ่น หลังเชื่อมีภัยคุกคามเพิ่มในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ญี่ปุ่นปัจจุบันมีดาวเทียมทหารเรดาร์ 5 ดวงปฏิบัติการระดับวงโคจร   เอพีรายงานวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า จรวด H2A ของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ (Mitsubishi Heavy Industries Ltd) ประสบความสำเร็จถูกปล่อยออกมาจากศูนย์อวกาศเทเนกาชิมา (Tanegashima Space Center) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น วันพฤหัสบดี (26) เมื่อเวลา 10.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น อ้างอิงเวลาจาก NHK ของญี่ปุ่น   ทั้งนี้ ศูนย์อวกาศเทเนกาชิมา เป็นขององค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ…

Amazon เตือนพนักงานห้ามเผยข้อมูลที่เป็นความลับกับ ChatGPT

Loading

    ทนายความของแอมะซอน แจ้งเตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT ในกรณีการแชร์ข้อมูลที่เป็นความลับ หลังพบว่ามีเนื้อหาใกล้เคียงกับความลับสำคัญของบริษัทหลุดออกไป   รายงานของสำนักข่าวบิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนที่แล้วในช่องทางสแลค (Slack) แพลตฟอร์มการทำงานภายในของบริษัทแอมะซอน ได้เต็มไปด้วยคำถามที่มีการพูดถึง ChatGPT   ในเวลานั้นมีพนักงานของแอมะซอน ได้ถามบริษัทว่า ได้มีแนวทางเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT หรือไม่ ขณะที่ พนักงานบางรายได้สอบถามว่า บริษัทจะอนุญาตให้ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในเครื่องมือของการทำงานหรือไม่   ในไม่ช้า ทนายความของแอมะซอน เข้ามาเตือนพนักงานว่า ข้อมูลที่เป็นความลับใด ๆ ของแอมะซอน ไม่ว่าจะเป็นซอร์สโค้ดของงานในแอมะซอนที่ทำอยู่ ห้ามมีการใช้งานร่วมกับ ChatGPT เพราะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่พนักงานใช้ภายใน ChatGPT อาจเป็นการฝึกการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ได้ แน่นอนว่า แอมะซอนไม่ต้องการให้มีข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทรั่วไหลออกมา   พร้อมกันนี้ ทนายความของแอมะซอนกล่าวด้วยว่า เขาเคยเห็นข้อมูลจาก ChatGPT ซึ่งมีเนื้อหาใกล้เคียงกับความลับของบริษัทแอมะซอนด้วย   เพื่อเป็นการวางมาตรการป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า บิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยด้วยว่า แอมะซอนได้ติดตั้งระบบป้องกันภายในเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT เอาไว้แล้ว…

“กสทช.”เตือนอย่าหลงเชื่อกรอกข้อมูลแอบอ้างช่วยขยายเวลาทดลองออกอากาศวิทยุ

Loading

    สำนักงาน กสทช. เผยไม่เคยให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทะเบียนขยายเวลาทดลองออกอากาศวิทยุชุมชน และไม่เคยขอให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ลงทะเบียน ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ   พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ  กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับการลงทะเบียน ขอขยายเวลาการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ในระบบเอฟเอ็ม โดยมีการอ้างอิงประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ในระบบเอฟเอ็ม และกำหนดให้มีการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งมีการนำเสนอข้อมูลที่มีการพาดพิงถึงสำนักงาน กสทช. ในกลุ่มไลน์  นั้น  ขอชี้แจ้งว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กสทช. และสำนักงาน กสทช. แต่อย่างใด   ทั้งนี้การทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็มนั้น กสทช. ยังคงมีนโยบายที่จะเร่งรัดปรับปรุงหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับให้มีการออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงแก่ผู้ที่ประสงค์ จะดำเนินกิจการวิทยุกระจายเสียงต่อไป ให้มีความต่อเนื่องกับการยุติการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม ในวันที่ 31 ธ.ค. 67   “กสทช. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม เพื่อให้ผู้ทดลอง…

ฮือฮา! อดีตนักการทูตอังกฤษชี้ “ประชาชนแดนผู้ดี” สามารถถูก “ปักกิ่ง” สอดแนมผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั้งตู้เย็น-กล้องทีวีวงจรปิดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ 5G

Loading

    เอเจนซีส์ – การศึกษาใหม่โดยอดีตเจ้าหน้าที่การทูตอังกฤษประจำกรุงปักกิ่ง ชาร์ลส์ พาร์ตัน (Charles Parton) ประจำบริษัทที่ปรึกษา OODA ที่มีฐานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษหันมาให้ความสำคัญอย่างจริงจังในภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากการถูกสอดแนมจากปักกิ่ง โดยชี้ไมโครชิปที่ฝังไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นสมาร์ทต่าง ๆ ในบ้านตั้งแต่ตู้เย็น โทรทัศน์ กล้องทีวีวงรปิด เครื่องคอมพิวเตอร์ ยันไปถึงหลอดไฟสามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ 5G ให้ปักกิ่งได้ทั้งนั้น   เดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (23 ม.ค.) ว่า รายงานที่ถูกเผยแพร่ออกมาในวันจันทร์ (23) โดยอดีตเจ้าหน้าที่การทูตอังกฤษประจำกรุงปักกิ่งมือฉมัง ชาร์ลส์ พาร์ตัน (Charles Parton) ประจำบริษัทที่ปรึกษา OODA ที่มีฐานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่าภัยคุกคามทางความมั่นคงจากอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่ผลิตในจีน นำมาสู่รัฐบาลอังกฤษสั่งแบนอุปกรณ์จากบริษัทโทรคมนาคมหัวเว่ยนั้นได้ใช้ในโครงสร้างพื้นฐานไร้สายแล้ว   ในรายงานระบุว่า บรรดารัฐมนตรีอังกฤษยังไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามซึ่งหน้าซึ่งมาในรูป cellular IoTs หรือเทคโนโลยีใหม่บน Cellular Networks เพื่อรองรับ Internet of Things…

โดนด้วย! พบเอกสารลับที่บ้านพักอดีตรองปธน.ไมค์ เพนซ์

Loading

      มีการพบเอกสารที่ระบุว่าเป็นความลับ ที่บ้านพักอดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในรัฐอินเดียนา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเอพี   ทนายของอดีตรองปธน.เพนซ์ เกร็ก เจคอบ เปิดเผยกับเอพีว่า เอกสารดังกล่าว “ดูเหมือนจะมีจำนวนน้อยที่มีเครื่องหมายระบุว่าเป็นเอกสารลับ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในกล่องอย่างไม่ตั้งใจ และส่งมายังบ้านพักของอดีตรองปธน.”   เจคอบเพิ่มเติมว่า อดีตรองปธน.เพนซ์ “ไม่ทราบถึงการมีอยู่ของเอกสารที่มีความละเอียดอ่อนหรือเอกสารลับที่บ้านพักของเขา” รวมทั้งให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหอจดหมายเหตุของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ และนำเอกสารเหล่านั้นไปเก็บไว้อย่างดีหลังพบว่า อยู่ในตู้เซฟ ก่อนที่ทนายของเพนซ์จะระบุว่า สำนักงานสืบสวนกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ได้เดินทางไปที่บ้านพักของเพนซ์เพื่อขอเอกสารเหล่านั้นมา   เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน อดีตรองปธน.เพนซ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้นำเอกสารของทางการติดตัวกลับมาด้วยเมื่อพ้นจากตำแหน่ง ด้านกระทรวงยุติธรรมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในวันอังคารเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทนายของเพนซ์ ไม่ได้ตอบกลับเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่เอพีรายงานข่าวนี้     การค้นพบเอกสารทางการในบ้านพักของอดีตรองปธน.เพนซ์ เกิดขึ้นในช่วงที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษทางกฎหมาย ให้ทำหน้าที่สอบสวนกรณีการจัดเก็บเอกสารลับของไบเดนว่า เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่กำลังมีการตรวจสอบกรณีพบเอกสารลับที่บ้านพักของทรัมป์     ที่มา  เอพี     ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา…

แฮ็กเกอร์พบรายชื่อห้ามบินของรัฐบาลสหรัฐฯ บนโลกออนไลน์ระหว่าง ‘เบื่อ ๆ’

Loading

    maia arson crimew แฮกเกอร์ชาวสวิสเผยข้อมูลรายชื่อห้ามบิน (No Fly List) ของสหรัฐอเมริกาบนโลกออนไลน์ โดยอ้างว่าได้มาจาก 3 ไฟล์ในเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่มีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยต่ำ   หนึ่งในไฟล์ที่แฮกเกอร์รายนี้แฮกได้มามีข้อมูลรายชื่อที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามบินเข้าหรือออกนอกประเทศกว่า 1.5 ล้านรายชื่อ   แฮกเกอร์รายนี้ชี้ว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาในช่วงระหว่างเบื่อ ๆ ลองใช้แพลตฟอร์ม Shodan เพื่อค้นหาเซิร์ฟเวอร์ของ Jenkins ที่เชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อลองเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของสายการบิน CommuteAir ที่เปิดโล่งให้เข้าไปง่าย ๆ ก็พบไฟล์ .csv จำนวน 3 ไฟล์ ได้แก่ employee_information.csv, nofly.csv และ selectee.csv   ไฟล์ nofly.csv ที่มีข้อมูลรายชื่อห้ามบินอยู่นั้น มีขนาดไฟล์เกือบ 80 เมกะไบต์ มีข้อมูลมากกว่า 1.56 ล้านแถว ซึ่งเป็นรายชื่อบุคคลที่ถูกสหรัฐฯ สั่งห้ามบิน ทั้งนี้ บางรายชื่อน่าจะเป็นนามแฝงของคนที่อยู่ในรายชื่อนี้  …