ออสเตรเลียสั่งถอดกล้องวงจรปิดจีนทั้งหมด-หวั่นด้านความมั่นคงประเทศ

Loading

    ออสเตรเลียเตรียมรื้อกล้องวงจรปิดที่ผลิตในจีนออกจากสถานที่ป้องกัน เพราะเกรงว่าอาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ   บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมถอดกล้องวงจรปิดจากจีน หลังจากการตรวจสอบสถานที่ของรัฐบาลในประเทศ พบว่า กล้องวงจรปิดและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยกว่า 900 ตัวที่ติดตั้งอยู่บนสถานที่ของรัฐบาลมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะแผนกต่างประเทศและแผนกอัยการสูงสุดนั้นผลิตโดยบริษัทฮิควิชั่น (Hikvision) และบริษัทต้าหัว (Dahua) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจากจีน ตามสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมา อ้างว่ากลัวรัฐบาลจีนอาจเข้าถึงข้อมูลสำคัญผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ได้     ด้านนายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย ระบุว่า รัฐบาลจะถอดกล้องวงจรปิดผลิตในจีนที่ติดตั้งอยู่ตามอาคารต่าง ๆ ในสังกัดของกระทรวงออกทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันทางรัฐบาลจะพิจารณาว่าจะมีการถอดกล้องวงจรปิดจากจีนที่ติดตั้งอยู่ในอาคารอื่น ๆ อีกหรือไม่ต่อไป   ด้านบริษัทฮิควิชั่น ออกมาแย้งว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้นไม่มีข้อมูลที่เป็นความจริง บริษัทไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลวิดีโอของผู้ใช้ปลายทางได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งต่อข้อมูลไปยังจีนอย่างแน่นอน ส่วนบริษัทต้าหัว ยังไม่ได้เคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้   ขณะที่นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าการถอดกล้องออกจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เราปฏิบัติตามผลประโยชน์ของประเทศอย่างโปร่งใส   ทั้งนี้ บริษัททั้ง 2 แห่งของจีนถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ…

ทั้งสอดแนม ทั้งแฮ็ก ทั้งขโมยข้อมูล สารพัดวิธีที่จีนล้วงความลับจากสหรัฐฯ

Loading

    หลายประเทศต่างก็สอดแนมกันและกันเป็นปกติ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่เป็นพันธมิตรกัน เช่น อังกฤษเคยสอดแนมเยอรมนีจากสถานทูตในกรุงเบอร์ลิน   บอลลูนที่น่าสงสัยว่าจะเป็นบอลลูนสอดแนมจากจีนที่ลอยเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังสร้างความหวั่นเกรงต่อวิธีการล้วงข้อมูลประเทศคู่แข่งของจีน   คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอพูดไว้เมื่อปี 2020 ว่า การสอดแนมของจีนเป็น “ภัยคุกคามระยะยาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศเรา และต่อความมีชีวิตชีวาทางเศรษฐกิจของเรา”   กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในแถลงการณ์ถึงสำนักข่าว AFP ว่า จีน “ต่อต้านอย่างเด็ดเดี่ยว” ต่อปฏิบัติการสอดแนม และข้อกล่าวหาของอเมริกา “มีพื้นฐานมาจากข้อมูลเท็จและเป้าหมายทางการเมืองที่เลวร้าย”   สหรัฐฯ เองก็มีวิธีสอดแนมจีนของตัวเองเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคการสอดแนมและสกัดกั้น หรือเครือข่ายผู้ให้ข้อมูล   อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา เผยเมื่อปี 2015 ว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน รับปากว่าจะไม่สอดแนมเกี่ยวกับการค้า ทว่า แถลงการณ์ของสหรัฐฯ หลังจากนั้นบ่งชี้ว่า จีนยังไม่หยุดการกระทำดังกล่าว   และนี่คือวิธีการที่จีนใช้สอดแนมสหรัฐฯ   สงครามไซเบอร์   สหรัฐฯ เตือนไว้ในรายงานประจำปีว่าด้วยการประเมินข่าวกรองปี 2022 ว่า…

นักวิจัยพบ OnePlus, Xiaomi, Realme ที่ขายในจีน เก็บและส่งข้อมูลผู้ใช้เป็นจำนวนมาก

Loading

    นักวิจัยในสกอตแลนด์ 3 ราย เผยแพร่งานวิจัยที่ชื่อว่า Android OS Privacy Under the Loupe — A Tale from the East ที่ชี้ว่า สมาร์ทโฟน OnePlus, Xiaomi และ Oppo/Realme ที่ขายในจีน มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้รวมถึงส่งข้อมูลออกไปเป็นจำนวนมาก แม้มือถือเครื่องนั้น จะไม่ได้อยู่ในจีนก็ตาม   นักวิจัยเน้นทดสอบไปที่แอปที่ถูกติดตั้งมากับเครื่องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแอปของแบรนด์เองหรือแอป third-party เช่น Baidu Input, Baidu Navigation แอปข่าว แอปสตรีมมิ่ง หรือแอปช็อปออนไลน์ ซึ่งนักวิจัยก็พบว่า ทั้ง 3 แบรนด์ มีการส่งข้อมูลที่ระบุตัวตนออกไปอย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งส่งไปให้ทั้งแบรนด์มือถือ ผู้ให้บริการแอปอย่าง Baidu หรือโอเปอเรเตอร์ แม้มือถือนั้นจะไม่ได้ใส่ซิมจีน ไม่ได้อยู่ในจีน หรือแม้กระทั่งไม่ใส่ซิมเลยก็ตาม   ตัวอย่างข้อมูลที่มีการส่งออกก็ เช่น…

ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน ถอดบทเรียนจากศึกยูเครน-เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ

Loading

    ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน – วันที่ 7 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า ไต้หวันเตรียมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรนและถอดบทเรียนจากสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ท่ามกลางภัยคุกคามจากทางการจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และยังคงเดินหน้ากดดันไต้หวันในเวทีโลก   ความเคลื่อนไหวของไต้หวันเกิดขึ้นหลัง “อากาศยานไร้คนขับ” (Unmanned Aerial Vehicle – UAV) หรือยูเอวี กลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ถึงขั้นระบุไว้ว่า เป็นอาวุธแห่งสงครามในอนาคต     ไต้หวันซึ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามทางทหารจากทางการจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเคยเปิดเผยว่า จับตาสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำมาถอดบทเรียนไว้รับมือหากจีนตัดสินใจส่งกองทัพเข้ารุกรานเพื่อยึดครองเกาะไต้หวัน   ซุน หลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรน รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตโดรน   “การเร่งวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิตนี้เพื่อไว้ตอบโต้ภัยคุกคามจากศัตรูและนำบทเรียนการสู้รบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาใช้ในยุทธการรบแบบอสมมาตร์ (การรบระหว่างคู่ต่อสู้ที่มีระดับแสนยานุภาพห่างชั้นกันอย่างมหาศาล) ผ่านโดรนของไต้หวัน” นายซุน ระบุ   โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุด้วยว่า โครงการดังกล่าวมี จุงชาน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งไต้หวันเป็นหัวหอก และจะมีบรรดาบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้าร่วม   ด้านนายจื้อ หลี่ผิง ผู้อำนวยการแผนกวิจัยระบบอากาศยานของสถาบันข้างต้น ยืนยันว่า…

ความแตกต่าง ระหว่าง”บอลลูนพยากรณ์อากาศ-บอลลูนสอดแนม”

Loading

  กองทัพสหรัฐฯ ใช้เครื่องบิน F-22 ขึ้นไปยิงจรวดเข้าใส่บอลลูนสอดแนมของจีนจนตกลงมา หลังจากที่มันลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศเกือบสัปดาห์   ทางการจีนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของสหรัฐฯ อย่างหนัก และทำให้หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าหลังจากนี้จีนจะมีการตอบโต้เรื่องนี้กลับอย่างไรนอกจากการแถลงการณ์ประณาม   ล่าสุดนักประดาน้ำของ “กองทัพเรือสหรัฐฯ” ก็เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ซาก “บอลลูน”ที่กระจายเป็นวงกว้างเพื่อนำไปตรวจสอบ และพยายามเก็บกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในบอลลูนลูกดังกล่าว     สถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะนี้กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเก็บกู้ซากบอลลูนของจีนที่ถูกยิงตกลงมาเมื่อวานในมหาสมุทรแอตแลนติก   โดยนักข่าว CNN ที่ปักหลักรายงานอยู่บริเวณชายหาดนอร์ท เมอร์เทิล ( North Myrtle Beach) ของรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่บอลลูนตกลงมารายงานว่า เห็นเจ้าหน้าที่ลำเลียงวัตถุที่มีรูปร่างคล้ายกล่องหลายชิ้นขึ้นจากเรือ ก่อนที่จะนำขึ้นไปบนรถบรรทุก   ปฎิบัติการเก็บกู้หลักฐานรวมถึงข้อมูลที่อยู่ในบอลลูนสอดแนมของจีน เกิดขึ้นแทบจะในทันที หลังจากที่เมื่อวานนี้เพนตากอนได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ขึ้นไป ก่อนจะใช้จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศรุ่น AIM-9X ยิงเข้าใส่บอลลูน   ที่ต้องใช้เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงเพราะบอลลูนลูกดังกล่าวมีขนาดใหญ่ประมาณรถบัส 3 คันต่อกัน และลอยอยู่ที่ความสูง 60,000 ฟุตหรือ 18,300 เมตรจากพื้นดิน…

ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่

Loading

สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตฮ่องกงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกจากพื้นที่ หลังจากถือป้ายประท้วงและพยายามตะโกนนอกศาลในฮ่องกง ขณะมีการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 47 คน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP)   การพิจารณาคดีด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ โดยมีบุคคลผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายสิบคนถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลและอาจได้รับโทษประหนึ่งอาชญากร   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหาถูกไต่สวน 47 คน และอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด   ผู้เห็นต่างในดินแดนของจีน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกง ถูกเรียกมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวน โดยมีการเปิดเผยภายหลังว่า ผู้ถูกดำเนินคดี 16 คนปฏิเสธความผิดในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการกระทำเพื่อโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ”   ขณะที่อีก 31 คนสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาและจะถูกตัดสินโทษหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น   ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งทำการชุมนุมประท้วงเล็ก ๆ บริเวณหน้าศาลฮ่องกง ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายถูกใช้เพื่อบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่การต่อต้านเผด็จการไม่ใช่อาชญากรรม   ผู้ถูกดำเนินคดีต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 4…