ดีป้า เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วยตราสัญลักษณ์ dSURE ตัวช่วยคัดกรองผลิตภัณฑ์-บริการดิจิทัล ได้มาตรฐานสากล ตรงปกไม่โดนหลอก

Loading

  ดีป้า เดินหน้าปั้นตราสัญลักษณ์แห่งความปลอดภัย ได้คุณภาพตามมาตรฐานระดับสากลสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลในชื่อ “dSURE” เพื่อสร้างความมั่นใจในการเลือกซื้อและใช้งานแก่ผู้บริโภค พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการไทยขอรับตราลักษณ์ได้แล้ววันนี้     ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกบริบทของการดำรงชีวิต ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้เทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านดิจิทัลออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคที่มีความเฉพาะทางและหลากหลายยิ่งขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังสามารถพบผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล ทั้งที่ได้มาตรฐานและต่ำกว่ามาตรฐานวางขายปะปนตามท้องตลาด นั่นจึงเป็นที่มาของการจัดทำตราสัญลักษณ์ “dSURE” (ดีชัวร์)     “ดีป้า ได้ดำเนินการกำหนดขอบเขตมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล ก่อนออกตราสัญลักษณ์ dSURE ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งผู้ผลิตและผู้นำเข้า ซึ่งจะช่วยบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์หรือบริการดิจิทัลที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าวผ่านการวิเคราะห์ ตรวจสอบ และคัดกรองแล้วว่าได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล ช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการเลือกซื้อและใช้งาน ลดความเสี่ยงที่ต้องพบ โดยเฉพาะปัญหาด้านความปลอดภัย และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพ ต่อยอดสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดสากล” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว   ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ระยะแรก ดีป้า…

กองทัพสวิส ยุติการใช้งาน Whatsapp ยกเหตุผลความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว

Loading

    กองทัพสวิส ออกโรงเปลี่ยนแอปพลิเคชันแชต จากเดิมที่เคยใช้วอตส์แอป (Whatsapp) มาเป็น Threema ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันท้องถิ่นของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สาเหตุที่เปลี่ยนแอปเพราะความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว   กองทัพสวิส ประกาศสั่งห้ามใช้แอปพลิเคชันชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นวอตส์แอป, ซิกแนล (Signal) และเทเลแกรม (Telegram) ในการใช้ส่งข้อความภายในองค์กร พร้อมกับสั่งให้เจ้าหน้าที่หันมาใช้แอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Threema แทน ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าว เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยบริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ นั่นเอง   Threema เป็นแอปแชตที่เริ่มให้บริการในช่วงปี 2012 มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานราว 10 ล้านราย รองรับทั้ง iOS และ Android   สาเหตุที่มีการออกประกาศดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการที่กองทัพสวิส มีความกังวลต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว แอปหลักที่ใช้งานเป็นประจำก็คือวอตส์แอป อีกทั้งกองทัพสวิสยังมีความกังวลหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของกองทัพสวิสได้   พร้อมกันนี้ ความกังวลของกองทัพสวิสน่าจะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จากวอชิงตัน ดี.ซี. สามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของรัฐบาลสหรัฐฯ   ขณะที่แอปพลิเคชัน Threema เป็นบริษัทที่มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และไม่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในสหรัฐอเมริกา…

หน่วยงาน FCC สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้แบนโดรน DJI อ้างเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

  กรรมาธิการของหน่วยงาน FCC สหรัฐอเมริกา เบรนแดน คาร์ (Brendan Carr) ออกมาเรียกร้องให้เพิ่มโดรนของ DJI ในบัญชี FCC Covered List ซึ่งอาจทำให้ DJI ไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีกต่อไป เนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ จากข้อความที่เผยแพร่ในหน้าเว็บไซต์ของ FCC คาร์กล่าวว่าบริษัท DJI มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้จำนวนมหาศาล ตั้งแต่ภาพความละเอียดสูงไปจนถึงเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า และเซนเซอร์ระยะไกลที่สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายหรืออัตราการเต้นหัวใจของแต่ละคนได้     ยังมีการกล่าวต่อว่านักวิจัยด้่านความปลอดภัยยังชี้ให้เห็นถึงแอปในสมาร์ตโฟนของทาง DJI รวบรวมข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมาก รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่ของเพนตากอนเองยังออกมาบอกว่าหน่วยงานของรัฐรับทราบเรื่องนี้ และเป็นเรื่องจริงที่โดรนของ DJI ส่งข้อมูลเหล่านี้กลับไปยังจีน   การที่ DJI รวบรวมข้อมูลจำนวนมากเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดูจะน่าหนักใจเป็นพิเศษ เนื่องจากกฎหมายข่าวกรองแห่งชาติของจีนให้อำนาจรัฐบาลจีนสามารถสั่งให้ DJI สามารถช่วยเหลือในเรื่องจารกรรมข้อมูลได้อย่างเต็มที่ และต้องบอกว่าทาง DJI ถูกจัดอยู่ใน ‘บัญชีดำทางเศรษฐกิจ’ ของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แม้ตามปกติแล้วบริษัทที่อยู่ในบัญชีดำจะขายผลิตภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกาได้ยากขึ้น แต่ดูเหมือนทาง DJI จะยังไม่ได้ประสบปัญหาเหล่านี้   คาร์ยังกล่าวให้เห็นทุกข้อกังวลมากมายที่มีต่อ DJI ให้หน่วยงานต่าง ๆ…

นักการเมืองอเมริกันต้องการให้โจ ไบเดนสั่งแบน Honor เหมือนที่แบน Huawei!

Loading

  รายงานล่าสุดจาก Reuters เผยว่า นักการเมืองในสหรัฐอเมริกากลุ่มหนึ่งต้องการให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) เพิ่ม Honor อดีตบริษัทลูกของ Huawei อยู่ในแบล็กลิสต์ของอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ Honor สามารถส่งสมาร์ตโฟนที่มีบริการของ Google กลับสู่ท้องตลาดได้แล้ว Huawei ถูกสหรัฐอเมริกาตั้งแบล็กลิสต์ในปี 2019 โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งอ้างว่าบริษัทเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ทำให้ Huawei ถูกตัดขาดจากการเข้าถึงสินค้าและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ รวมถึงชิปและบริการจาก Google Honor ทำการตลาดแบบเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้บริโภควัยเยาว์ ที่มีข้อจำกัดเรื่องงบสำหรับการซื้อสมาร์ตโฟน รวมทั้งมีการขายสินค้าอื่น ๆ เช่น สมาร์ตวอตช์ และเกมมิงแล็ปท็อป ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Huawei ขาย Honor เพื่อให้แบรนด์ลูกอย่าง Honor ได้เป็นอิสระจากการแบนของสหรัฐฯ การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ในที่สุด Honor หลุดออกจากการแบนของสหรัฐฯ และสามารถทำการค้ากับบริษัทอย่าง Qualcomm, Google, Microsoft, AMD, Intel,…

3 สิ่งที่ต้องรู้ เลือกใช้ระบบสแกนเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลดีอย่างไร?

Loading

  ปัญหาโลกแตกที่คนทำงานเอกสารจะเข้าใจดีเลยนั่นก็คือจะทำอย่างไรให้สามารถบริหารจัดการกองเอกสารมหึมาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเป็นระเบียบ มีประสิทธิภาพ สามารถค้นหาแฟ้มเอกสารที่ต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้ตัวช่วยสำคัญอย่างระบบสแกนเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิตอลคือวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้ชีวิตของคนทำงานเอกสารเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป หลากหลายองค์กรเริ่มหันมาให้ความสนใจการบริหารจัดการเอกสารแบบ Paperless มากยิ่งขึ้น เพื่อให้องค์กรของคุณเดินหน้าเข้าสู่ความเป็น Digital Transformation อย่างเต็มตัว ข้อดีของการเลือกใช้ระบบสแกนเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลจะมีอะไรที่คนทำงานเอกสารควรรับทราบเอาไว้บ้าง ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย   เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ว่ากันว่าตัวพนักงานเองจะสามารถคิดหรือผลิตงานออกมาได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่นั้น สภาพแวดล้อมในการทำงานมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ลองจินตนาการภาพดูง่ายๆ หากคุณคือหนึ่งในพนักงานในองค์กรที่ยังคงเลือกใช้ระบบจัดเก็บเอกสารแบบออฟไลน์อยู่ บรรยากาศในการทำงานของคุณจะต้องเต็มไปด้วยกองเอกสารทุกหนทุกแห่ง ด้วยความจำเป็นที่จะต้องเก็บ ไม่สามารถทำลายได้ เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญหรือเป็นเอกสารลับ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานเต็มไปด้วยความตึงเครียด ส่งผลแก่ตัวพนักงานเองที่ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกใช้ระบบสแกนเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลจะเข้ามาช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน หากเลือกเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลแน่นอนว่ากองเอกสารเหล่านี้ก็จะไม่ใช้สิ่งจำเป็นอีกต่อไป ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน บรรยากาศในการทำงานก็จะดูเป็นมิตรและตึงเครียดน้อยลงไปในตัว   ช่วยย่นระยะเวลาการทำงาน ให้ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ง่ายๆ หากพนักงานคนไหนต้องการค้นหาเอกสารสำคัญสักชุดหนึ่ง แต่เมื่อบริษัทเองเลือกที่จะใช้วิธีการจัดเก็บเอกสารแบบเดิมคือแบบออฟไลน์ก็อาจจะต้องใช้เวลาหาสักพักใหญ่ๆ กว่าจะเจอ และถ้ายิ่งเป็นบริษัทที่มีระบบการบริหารจัดการหรือจัดเก็บเอกสารได้ไม่ดีพอ ดีไม่ดีพนักงานท่านนั้นๆ อาจจำเป็นจะต้องเสียเวลาค้นหาเอกสารเป็นวันๆ ก็เป็นได้ แต่หากคิดในทางกลับกันหากเลือกใช้ระบบสแกนเก็บเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัล เรื่องกวนใจเหล่านี้ก็จะหมดไป ลดระยะเวลาการค้นหาจากครึ่งวันให้เหลือเพียงแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น เมื่อเวลาในการค้นหาเอกสารลดลง พนักงานมีเวลาเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ล้วนแล้วแต่กลายมาเป็นกำไรให้บริษัทแบบเห็นๆ เลยทีเดียว   ความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ตามที่ได้เกริ่นบ้างแล้วในข้างต้นว่าการเลือกจัดเก็บเอกสารแบบเดิมนั้นบริษัทเองอาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยของเอกสาร…

เผยผลสำรวจผู้บริหารระดับสูงถึง 58% พบปัญหาความล้มเหลวในการสำรองข้อมูล สะท้อนถึงความท้าทายในการป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กร และเป็นข้อจำกัดในเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล

Loading

    จากรายงาน Veeam Data Protection Report ประจำปี 2021 พบว่าสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โลกสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) องค์กรทั่วโลกถึง 40% มองว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเป็นอุปสรรคสำคัญในอีก 12 เดือนข้างหน้า และหนึ่งในสามขององค์กรต่างชะลอหรือเลือกที่จะหยุดกระบวนการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไว้ก่อนในช่วงปีที่ผ่านมา ความท้าทายในการป้องกันข้อมูลกำลังบั่นทอนความสามารถขององค์กรทั่วโลกในการเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่โลกดิจิทัล (Digital Transformation, DX) อ้างอิงผลการสำรวจในรายงาน Veeam® Data Protection Report 2021 พบว่าองค์กรถึง 58% ไม่สามารถสำรองข้อมูลได้สำเร็จหรือปล่อยข้อมูลไว้โดยไม่ได้รับการป้องกัน รายงานการสำรวจนี้จัดทำขึ้นโดย Veeam Software ผู้นำด้านโซลูชั่นสำรองข้อมูลในรูปแบบการจัดการข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ Cloud Data Management™ ซึ่งพบว่า หลังจากที่โลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรถึง 40% ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คืออุปสรรคครั้งใหญ่ในการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลในช่วง 12 เดือนจากนี้ ระบบการป้องกันข้อมูลที่ไม่แข็งแกร่ง ผนวกกับความท้าทายเรื่องความอยู่รอดของธุรกิจ ได้กลายมาเป็นความกังวลที่แพร่ไปในหลายองค์กร จนถึงขั้นที่จำเป็นต้องเลือกที่จะชะลอกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลไว้ก่อน    …