จับหนุ่มมาเลย์พกปืนขึ้นการบินไทยไปกัวลาลัมเปอร์ บินไทยแจงเครื่องไม่ได้ถูกจี้

Loading

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางการปากีสถานสามารถจับกุมชายชาวมาเลเซีย ที่แยกชิ้นส่วนปืนบรรจุลงในกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะขึ้นเครื่องของการบินไทยเที่ยวบินที่ TG342 มุ่งหน้าสู่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจพบและรวบตัวได้คาสนามบินการาจี ด้าน รายงานข่าวจากฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กรบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ชี้แจงถึงกรณีสื้อต่างประเทศออกมาระบุว่า เครื่องบินของการบินไทยเที่ยวบิน TG342 ถูกจี้ ว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่กรณีของการจี้เครื่องบินของการบินไทย แต่เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีคนพยายามนำอาวุธขึ้นไปบนเที่ยวบินโดยสารของการบินไทย แต่ทางการสามารถตรวจจับไว้ได้ก่อนที่จะมีการนำอาวุธขึ้นเครื่องบิน รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การจี้เครื่องบินTG 342 ที่จะออก เดินทางจากการาจี-กรุงเทพ เมื่อคืนวาน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธและจับกุมตั้งแต่ บริเวณประตูทางเข้าสนามบิน โดยที่ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้โดยสารของเที่ยวบินทีจี TG 342 ส่วนกรณีที่สื่อต่างประเทศมีการระบุว่าผู้ถูกจับกุม กำลังจะโดยสารไปกับเที่ยวบิน TG 342 ของการบินไทยนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่า สื่อต่างชาติใช้วิธีการคาดเนื่องจากในช่วงเวลาที่บุคคลคนดังกล่าวถูกจับกุมนั้นเป็นช่วงเวลาที่มี เที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทางจากกรุงการาจีจำนวน4เที่ยวบิน ซึ่งประกอบด้วยเที่ยวสายการบินไทยเที่ยวบินทีจี 342 เที่ยวบินของสายการบินเอ็มเจ็ต และเที่ยวบินของสายการบินปากีสถานแอร์ไลน์ เป้นต้น อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินทีจี 342 เส้นทางการาจี-กรุงเทพ สามารถออกเดินทางได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาขัดข้องใดๆและเดินทางได้มาถึงประเทศไทยโดยปลอดภัยแล้ว ————————————————————————— ที่มา…

เกิดเหตุระเบิดใกล้ย่านไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก! เชื่อก่อการร้าย

Loading

Police and firefighters work in front of Port Authority Bus Terminal as police respond to a report of an explosion near Times Square on Monday, Dec. 11, 2017, in New York. (AP Photo/Andres Kudacki) NEW YORK – เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานีรถโดยสารแห่งหนึ่งใกล้ย่านไทม์สแควร์ ในนครแมนฮัตตัน นิวยอร์ก ในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าเป็นความพยายามก่อการร้าย ชายผู้หนึ่งได้จุดระเบิดแบบท่อ หรือ pipe bomb ซึ่งติดอยู่กับตัวของเขา บริเวณทางเดินใต้ดิน ซึ่งเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟใต้ดินกับสถานีรถโดยสารในย่านไทม์สแควร์ ส่งผลให้มือระเบิดได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีประชาชนบาดเจ็บเล็กน้อยอีกสามคน รายงานระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า อาคายัด อัลลาห์ วัย 27…

ศาลสหรัฐฯไฟเขียวห้ามมุสลิม 6 ชาติเข้าประเทศ

Loading

The Supreme Court ruled in favor of Mr Trump’s controversial travel ban, delivering a victory to the President AP ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำสั่งอนุญาตให้บังคับใช้มาตรการแบนคนจากชาติมุสลิม6ประเทศ ได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างรอพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ วันนี้ (5 ธ.ค.60) ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา มีคำตัดสินว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถบังคับใช้คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแก้ไข ที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบหรือห้ามนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิมและอีก 2 ประเทศ เดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่ากำลังอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ก็ตาม ซึ่งมาตรการนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีได้ผลักดันมาตรการป้องกันผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าประเทศมานานเกือบ 1 ปี ท่ามกลางเสียงคัดค้าน กล่าวหาว่า มาตรการของเขามุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิม, ละเมิดรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ส่งเสริมความมั่นคงตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ทำให้มาตรการฉบับที่ 3 ซึ่งนายทรัมป์ประกาศใช้แทนคำสั่งฉบับที่ 2 ที่หมดอายุเมื่อเดือนกันยายน ได้เพิ่มเวเนซุเอลา และเกาหลีเหนือเข้ามาด้วย เพื่อลดข้อครหา ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยได้ยื่นฟ้องร้องคัดค้านทันที ที่ศาลในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย และนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตัดสินเมื่อเดือนตุลาคม ให้หยุดการบังคับใช้มาตรการห้ามนักเดินทางจากประเทศ ชาด, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซีเรีย และเยเมน ในระหว่างที่กำลังมีการฟ้องร้องทางกฎหมาย แต่ล่าสุด ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ 2 ศาลแล้ว โดยศาลสูงสุดตัดสินใจอนุญาตให้บังคับใช้คำสั่งของประธานาธิบดีในทันที เพื่อจำกัดการเดินทางของคนจากประเทศที่มีความเสี่ยงก่อการร้ายสูง ————————————————————– ที่มา : TNN24 / 5 ธ.ค. 60, 11.59 น. Link :  http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=155744&t=news

ทรัมป์-ปูตินต่อสายครั้งแรกหลังดานัง สื่ออังกฤษชี้ “ผู้นำรัสเซียใช้เวลานานกว่าชั่วโมง” ทำความเข้าใจทรัมป์ “ขั้นตอนยุติสงครามกลางเมืองซีเรีย”

Loading

เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(21 พ.ย)ทรัมป์และปูตินต่อสายหารือทางโทรศัพท์ครั้งแรกหลังพบในการประชุมที่เมืองดานัง เวียดนาม หารือประเด็นมั่นคงโลก รวมไปถึงเกาหลีเหนือ ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ต่อต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน ไม่สงบทางตะวันออกของยูเครน และสันติภาพในซีเรีย เกิดขึ้นก่อนหน้าผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดีอัสซาดเข้าสวมกอดปูตินถึงโซชิ สื่ออังกฤษรายงานละเอียดยิบ ปูตินต้องการให้ทรัมป์ยอมรับแผนการสันติภาพยุติสงครามซีเรีย ยอมใช้เวลานานกว่าชั่วโมงกล่อมทางโทรศัพท์อธิบายให้เห็นภาพ  หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ของสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(21 พ.ย)ว่า ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวออกมายืนยันการสนทนาทางโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นในวันอังคาร(21 พ.ย)ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์ที่กินเวลายาวนานกว่า 1 ชั่วโมง ในขณะที่ฝ่ายเครมลินออกมาเปิดเผยว่า หัวข้อการสนทนาของผู้นำทั้งสองครอบคลุมความมั่นคงโลกในภาพกว้าง เป็นต้นว่า เกาหลีเหนือ อิหร่าน ยูเครน อัฟกานิสถาน และซีเรีย แต่ทว่าสื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียนชี้ว่า ผู้นำรัสเซียพยายามใช้เวลาสนทนาทางโทรศัพท์หว่านล้อมทรัมป์ ให้สนับสนุนแผนการของรัสเซียในการที่จะยุติสงครามกลางเมืองซีเรีย  ทั้งนี้การสนทนาทางโทรศัพท์เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางเยือนรัสเซียอย่างกระทันหันของผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ซึ่งมีภาพการสวมกอดระหว่างปูตินและอัสซาดท่ามกลางแมกไม้ภายในที่พักฤดูร้อนของผู้นำรัสเซียที่ชื่อ โบคารอฟ รูเช(Bocharov Ruchei) เมื่อวันจันทร์(20 พ.ย) อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน…

ยอดเหยื่อระเบิดในโซมาเลีย ทะลุ 270 ราย

Loading

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดสองครั้งซ้อนในโซมาเลีย ทะยานขึ้นเป็น 276 คน เจ็บอีกอย่างน้อย 300 คน และนับเป็นเหตุโจมตีที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยรถบรรทุกระเบิด 2 ครั้งซ้อน ในโซมาเลียเมื่อวันเสาร์ พุ่งเป็น 276 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 300 คน ซึ่งจุดแรกเกิดขึ้นบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้าโรงแรมซาฟารี ที่มีคนพลุกพล่านใจกลางกรุงโมกาดิชู ตามด้วยจุดที่สองในเขตเมดินา ในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา กลายเป็นเหตุโจมตีที่นองเลือดที่สุดในครั้งเดียว นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธมุสลิมเริ่มเคลื่อนไหว เมื่อปี 2550ปธน.โมฮัมเหม็ด อับดุลลาฮี โมฮัมเหม็ด ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 วัน และเรียกร้องขอบริจาคเลือดและเงินเพื่อช่วยเหลือเหยื่อระเบิด นายกฯ ฮัสซัน อาลี ไครา ได้ประนามว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงอัล-ชาฮับ ที่ฝักใฝ่อัล ไกดา และเรียกว่าเป็น “หายนะแห่งชาติ” แต่กลุ่มนี้ยังไม่ได้แสดงตัวใดๆตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้มาจากแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ และมียังศพอีกมากในห้องเก็บศพที่ยังไม่ถูกระบุอัตลักษณ์ แพทย์ต้องเร่งรับมือกับผู้บาดเจ็บที่ส่วนใหญ่มีบาดแผลไหม้เกรียมจนจำแทบไม่ได้ และเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ หลายครอบครัวยังคงค้นหาญาติที่สูญหายตามซากอาคาร ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคง ค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารโรงแรมซาฟารี ที่อยู่ใกล้กับกระทรวงต่างประเทศและสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง ร้านอาหาร ร้านค้าสหรัฐฯ…

ลาสเวกัส: มือปืนบุกเดี่ยวสาดกระสุนใส่คอนเสิร์ตกลางแจ้ง ตายอย่างน้อย 58 เจ็บกว่า 500

Loading

มือปืนบุกเดี่ยวกราดยิงจากห้องพักชั้นบนของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ในลาสเวกัสเข้าใส่ฝูงชนในงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้งซึ่งจัดขึ้นใกล้กับโรงแรม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 58 คน บาดเจ็บ 515 คน ส่วนมือปืนฆ่าตัวตายในที่เกิดเหตุ นับเป็นเหตุสังหารหมู่ที่เลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ ตำรวจแถลงว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.08 น. ของคืนวันอาทิตย์ (12.08 น. ของวันจันทร์ ตามเวลาในประเทศไทย) โดยภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นฝูงชนหลายร้อยคน พากันวิ่งหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีกำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือจำนวนหนึ่งเข้าระงับเหตุ และไล่ล่าติดตามตัวมือปืน   ตำรวจระบุว่า มือปืนเป็นชายชาวลาสเวกัสวัย 64 ปี ชื่อ สตีเฟน แพดด็อก เขาเปิดฉากกราดยิงลงมาจากห้องพักชั้น 32 ของโรงแรม เข้าใส่ฝูงชน ที่กำลังไปร่วมชมดนตรีกลางแจ้งซึ่งคาดว่ามีผู้ชมถึง 22,000 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ามือปืนได้ฆ่าตัวตายในห้องพักของโรงแรมในขณะที่ตำรวจจู่โจมเข้าไปในห้อง ซึ่งพบว่ามีปืนอีก 10 กระบอกอยู่ ล่าสุดตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายแพดด็อก และตามหาหญิงชาวเอเชีย ชื่อมาริลู แดนลีย์ ซึ่งเชื่อว่าเคยอยู่กับนายแพดด็อก โดยเขาได้ใช้เอกสารของผู้หญิงคนนี้ลงทะเบียนเข้าพักโรงแรมดังกล่าว   อย่างไรก็ดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบว่าแดนลีย์ ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ และไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ…