มอนแทนาลงนามกฎหมายแบน TikTok เป็นรัฐแรกของอเมริกา

Loading

    วานนี้ (17 พฤษภาคม) เกร็ก เจียนฟอร์เต (Greg Gianforte) ผู้ว่าการรัฐมอนแทนา ได้ลงนามในกฎหมายสั่งแบนแอปพลิเคชัน TikTok ในรัฐ เพื่อปกป้องคนในมอนแทนาจากการลักลอบรวบรวมข่าวกรองของรัฐบาลจีน ส่งผลให้มอนแทนาถือเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่แบน TikTok อย่างเป็นทางการ   สำนักข่าว Reuters รายงานว่า กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2024 ซึ่งจะส่งผลให้ Google Play Store หรือ App Store ไม่สามารถเปิดให้ผู้คนในรัฐดาวน์โหลด TikTok ได้อีก เพราะจะถือว่าผู้ให้บริการเหล่านี้ทำผิดกฎหมายของรัฐ อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ไม่ได้กำหนดบทลงโทษใด ๆ ต่อบุคคลที่ใช้งานแอปดังกล่าว   ด้าน TikTok ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านี้แอปสัญชาติจีนเคยออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายใหม่ดังกล่าว ‘เป็นการละเมิดเสรีภาพของชาวมอนแทนา ตามบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (First Amendment) ด้วยการสั่งแบน TikTok อย่างผิดกฎหมาย’ พร้อมระบุด้วยว่าทางบริษัทจะเดินหน้าปกป้องสิทธิ์ของผู้ใช้งาน…

‘ยุโรป’ จ่อออกกฎหมาย AI ฉบับแรกในชาติตะวันตก คุม ChatGPT

Loading

    สภายุโรปได้อนุมัติร่างกฎหมายเอไอยุโรป (European AI Act) ทำให้ขยับเข้าใกล้การออกกฎหมายสำหรับระบบ AI ฉบับแรกของตะวันตกไปอีกขั้น ขณะที่จีนร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว หวังควบคุมแชตบอท   คณะกรรมการชุดสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติในสภายุโรปได้อนุมัติร่างกฎหมายเอไอยุโรป (European AI Act) ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ขยับเข้าใกล้การออกกฎหมายสำหรับระบบ AI ฉบับแรกของตะวันตกไปอีกขั้น   การอนุมัติดังกล่าวถือเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญในการเร่งหาทางรับมือกับ AI ของภาครัฐ หลังจากที่ AI พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่จีนได้ร่างกฎระเบียบ เพื่อจัดการกับวิธีที่บริษัทต่าง ๆ จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ Generative AI เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   กฎหมาย AI ยุโรปนี้พิจารณาถึงความเสี่ยงเป็นเกณฑ์สำคัญในการควบคุม AI ซึ่งการใช้เกณฑ์ทางกฎหมายนั้นขึ้นอยู่กับระดับของความเสี่ยงของ AI แต่ละระบบ   นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวยังได้ระบุข้อกำหนดสำหรับผู้ให้บริการที่เรียกว่า “แบบจำลองพื้นฐาน” (foundation model) เช่น ChatGPT ซึ่งกลายมาเป็นข้อวิตกกังวลสำหรับกลุ่มหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบ เมื่อพิจารณาถึงความก้าวหน้าของระบบดังกล่าว และเกิดความกังวลว่า…

สหรัฐฯ แจ้งข้อกล่าวหาอดีตวิศวกร Apple ขโมยข้อมูล Project Titan ให้จีน

Loading

  หน่วยจู่โจมด้านเทคโนโลยีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครองเทคโนโลยีในประเทศได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวกับความพยายามขโมยเทคโนโลยีเพื่อไปให้กับจีน รัสเซีย และอิหร่าน หนึ่งในผู้ต้องหาคืออดีตพนักงานของ Apple   พนักงานรายนี้ชื่อว่า เหวยเป่า หวัง (Weibao Wang) เป็นอดีตวิศวกรของ Apple วัย 35 ปี ถูกตั้งข้อหาพยายามขโมยระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ก่อนหลบหนีไปจีน   เขาเข้าร่วมงานกับ Apple ในปี 2016 ก่อนที่ในปีต่อมาจะตอบตกลงรับงานใหม่กับบริษัทจีนที่ตั้งอยู่สหรัฐฯ ซึ่งพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ แล้วค่อยไปลาออกจาก Apple ใน 4 เดือนให้หลัง   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เผยว่า Apple พบว่าในวันสุดท้ายของการทำงาน หวังได้เข้าไปดูข้อมูลของบริษัทจำนวนมาก   ในเดือนมิถุนายน 2018 เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้เข้าตรวจค้นบ้านของหวัง และพบกับข้อมูลของ Apple จำนวนมหาศาล หลังจากนั้นไม่นาน หวังก็ขึ้นเครื่องบินหลบหนีไปจีน   ข้อมูลนี้เกี่ยวกับ Project Titan โครงการรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ Apple พยายามพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี…

ญี่ปุ่นยกระดับความปลอดภัยประชุมผู้นำ G7 หลังเหตุโจมตีนายกฯ เดือนที่แล้ว

Loading

  ญี่ปุ่นยกระดับคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัย สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ครั้งที่ 49 ที่เมืองฮิโรชิมา ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้   โดยการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดดังกล่าวถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดเหตุลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ด้วยระเบิดควัน และก่อนหน้านั้นในปี 2022 เกิดกรณีคนร้ายลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ   เบื้องต้นมีรายงานว่าทางการญี่ปุ่นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 24,000 นายจากทั่วประเทศ เพื่อดูแลความปลอดภัยรอบสถานที่จัดประชุม และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในเมือง ขณะที่มีการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งติดป้ายแจ้งประชาชนและนักท่องเที่ยวถึงมาตรการต่าง ๆ เช่น การปิดถนน ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและยากลำบากแก่ประชาชน   นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ขยายมาตรการความปลอดภัยไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ รวมถึงกรุงโตเกียว ในช่วงการประชุม โดยมีการส่งข้อความบนระบบรถไฟ แจ้งเตือนประชาชนถึงการปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และยกเลิกให้บริการตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญในสถานีรถไฟต่างๆ ตลอดจนระงับใช้งานเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติที่ตั้งอยู่บนชานชาลารถไฟใต้ดิน         ภาพ: Philip Fong / AFP   อ้างอิง: https://www.channelnewsasia.com/asia/japan-ramps-g7-security-fumio-kishida-attack-hiroshima-3494321…

สหรัฐประณามรัสเซีย จับอดีตเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฐานเป็นสายลับ

Loading

    รัฐบาลวอชิงตันแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก เมื่อพลเมืองรัสเซียซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลสหรัฐ ถูกจับกุมฐานเป็นจารชน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า การที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลมอสโกจับกุม นายโรเบิร์ต โชนอฟ อดีตพนักงานชาวรัสเซียของสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำเมืองวลาดีวอสตอค ซึ่งระงับภารกิจ เมื่อปี 2564 และดำเนินคดีเกี่ยวกับ “ความร่วมมือลับกับรัฐต่างชาติ” นั้น “ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง” Former employee of US consulate charged by Russia with espionage https://t.co/DkNRTJYWMW — The Guardian (@guardian) May 15, 2023 อย่างไรก็ตาม นายเซอร์เก ริบคอฟ รมช.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงการจับกุมโชนอฟ ว่า สะท้อนให้เห็นถึง “รัฐไม่เป็นมิตรยังคงไม่หยุดกิจกรรมที่ยากเกินรับได้” ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของรัสเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลมอสโกจับกุมโชนอฟ ซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่ของสหรัฐเป็นเวลานานถึง 25…

คนสิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์หวังรับชานมไข่มุกฟรี สุดท้ายโดนแฮ็กเอาเงินกว่า 5 แสนบาท

Loading

    ระวังให้ดี! ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว   ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์คนหนึ่งเห็นสติกเกอร์ที่ประตูกระจกของร้าน ชวนทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว เธอเห็นว่าเป็นการสำรวจของทางร้านก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ได้ลิงก์เข้าไปโหลดและติดตั้งแอปฯ เพื่อทำแบบสอบถาม   แต่คืนนั้นขณะที่เธอนอนหลับอยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สว่างขึ้นมีแฮ็กเกอร์เข้ามาย้ายเงินจากบัญชีของเธอออกไป 20,000 เหรียญ (ประมาณ 512,000 บาท) จากแอปฯ ที่เธอติดตั้งไปเพื่อทำแบบสอบถามชิงรางวัล   เธอไม่ใช่รายเดียวที่ถูกหลอกให้โหลด “แอปขโมยเงิน” ตำรวจไซเบอร์ของสิงคโปร์บอกว่า ในเดือนเมษายน ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสิงคโปร์เตือนประชาชนเกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอปจากเว็บไซต์ที่น่าสงสัยซึ่งอาจนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ มีคนถูกหลอกขโมยเงินในรูปแบบนี้ไปแล้ว 113 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 445,000 เหรียญ หรือประมาณ 11.4 ล้านบาท   นอกจากแบนเนอร์ในเว็บไซต์ต่างๆ ตอนนี้มิจฉาชีพเริ่มใช้วิธีนำสติกเกอร์ไปติดตามร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ทำเนียน ๆ ว่าเป็นของทางร้าน   ตำรวจยังบอกอีกว่าเหตุลักษณะนี้มักจะเกิดกับผู้ใช้โทรศัพท์ในระบบแอนดรอยด์ด้วย จึงขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ         ที่มา: asiaone    …