นักวิจัยเตือน…แฮ็กเกอร์ใช้วิธีใหม่ GhostTouch เข้าควบคุมมือถือเหยื่อ พร้อมเผยรายชื่อรุ่นที่มีความเสี่ยงสูง

Loading

    นักวิจัยจากบริษัท NordVPN ออกมาเผยวิธีใหม่ที่เหล่าแฮ็กเกอร์จะเอามาใช้แฮ็กมือถือเหยื่อได้แบบเนียน ๆ เรียกว่า GhostTouch โดยวิธีการดังกล่าวเมื่อแฮ็กเกอร์เจาะระบบเข้าเครื่องไปแล้ว จะสามารถควบคุมมือถือเหยื่อได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องแอบติดตั้ง Malware เข้าเครื่องก่อนเลย   ก่อนนี้เคยมีข่าวออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะโดนแฮ็กมือถือ หากไปเสียบสาย USB มั่ว ๆ หรือโดนสาย USB แบบพิเศษที่ดูดข้อมูลจากระยะไกลได้ แต่ล่าสุดทาง NordVPN ได้ออกมาแจ้งเตือนว่าตอนนี้แฮ็กเกอร์มีวิธีใหม่ที่จะเข้าควบคุมมือถือเหยื่อได้โดยไม่ต้องไปแตะต้องเครื่องเลย   วิธีดังกล่าวเรียกว่า GhostTouch โดยแฮ็กเกอร์จะใช้อุปกรณ์พิเศษปล่อยสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปที่มือถือของเหยื่อ และหากว่าคลื่นดังกล่าวส่งถึงตัวมือถือแล้วจะทำให้แฮ็กเกอร์เข้าควบคุมเครื่องนั้นได้ทันที และถ้าแฮ็กเกอร์แอบมองรหัส PIN หรือการปลดล็อคด้วย Pattern ต่าง ๆ เอาไว้ก่อนหน้า ก็จะสามารถปลดล็อคหน้าจอแล้วเข้าใช้งานได้เลย     ทีมนักวิจัยบอกว่าแม้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีระยะทำการที่สั้นมาก ๆ รัศมีประมาณ 4 ซม. แต่ก็นับว่ามากพอที่จะเข้าใกล้มือถือเหยื่อได้แล้ว เพราะอาจจะแค่แอบเอาอุปกรณ์ปล่อยคลื่นไปติดไว้ใต้โต๊ะ พอเหยื่อวางมือถือไว้บนโต๊ะก็โดนเล่นงานได้เลย หรืออาศัยจังหวะเหมาะ ๆ เดินเข้ามาประชิดตัวแล้วยิงคลื่นใส่มือถือในกระเป๋าแบบเนียน ๆ ก็โดนได้เหมือนกัน ซึ่งหากว่ายิงคลื่นเจาะระบบเครื่องได้ทีนึงแล้วก็เรียบร้อย เพราะหลังจากนั้นแฮ็กเกอร์จะควบคุมเครื่องเราผ่านเน็ตได้ทุกที่เลย  …

สหรัฐเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงเอเชีย-ไทย หวังสกัดอิทธิพลจีน

Loading

    นายลอยด์ เจ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า การของบประมาณสำหรับความริเริ่มในการป้องปรามแปซิฟิก (Pacific Deterrence Initiative : PDI) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 40% โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างของกระทรวงกลาโหมสหรัฐในการขยายอิทธิพลแซงหน้าจีน   “เรากำลังมุ่งความสนใจไปยังการก้าวนำหน้าจีนตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ” นายออสติน กล่าวต่อสมาชิกคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร ที่ 16 พ.ค. พร้อมระบุว่า “จีนเป็นคู่แข่งรายเดียวของเรา โดยจีนมีความตั้งใจ และมีศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเปลี่ยนระบบสากลเพื่อให้สอดคล้องกับความเผด็จการของตน”   นายออสติน ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐกำลังทุ่มงบประมาณมากขึ้นในด้านตำแหน่งทางทหารในแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงงบประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการ PDI เพื่อเป็นการยับยั้งจีน   ขณะเดียวกัน นายออสติน ระบุว่า หลายประเทศในอินโด-แปซิฟิกมีความสนใจที่จะรักษาภูมิภาคให้มีการเปิดกว้างด้านการค้าเสรีเช่นเดียวกับสหรัฐ   นอกจากนี้ นายออสติน ระบุว่า สหรัฐได้พยายามเพิ่มการระดมกำลังสินทรัพย์ไปยังญี่ปุ่น เช่น การวางแผนที่จะจัดตั้งหน่วยนาวิกโยธินที่ 12 (12th Marine Littoral Regiment)…

สิงคโปร์แขวนคอนักโทษคนที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ คดีลอบขนกัญชา

Loading

  สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษคนที่สองในรอบสามสัปดาห์ จากคดีลักลอบขนกัญชาเข้าประเทศ ท่ามกลางการเรียกร้องให้ระงับโทษประหารชีวิตสำหรับผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด   ชายวัย 37 ปี ถูกประหารในวันพุธหลังจากที่ศาลสิงคโปร์ปฏิเสธการอุทธรณ์ของผู้ต้องหาผู้นี้ โดยเขาถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปีก่อนที่จะถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 2019 จากคดีที่เขาลักลอบขนส่งกัญชา 1.5 กิโลกรัม   โกกิลา อันนามาไล แห่งองค์กร Transformative Justice Collective ผู้สนับสนุนให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในสิงคโปร์ กล่าวว่า นักโทษผู้นี้พยายามขอให้ศาลเปิดการพิจารณาคดีของเขาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากพบหลักฐานดีเอ็นเอและลายนิ้วมือที่เชื่อมโยงเขากับกัญชาที่มีปริมาณน้อยกว่าที่เขาถูกตัดสินเอาผิด แต่ศาลปฏิเสธที่จะเปิดการพิจารณาใหม่   ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายสิงคโปร์ ผู้ที่ลักลอบขนส่งกัญชามากกว่า 500 กรัม อาจต้องโทษประหารชีวิต   เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษ 11 คนในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากระงับไปสองปีเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยรายงานระบุว่าขณะนี้มีนักโทษในสิงคโปร์ที่รอการประหารอีกราว 60 คน ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด   เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ทังการาจู ซัปปิอาห์ ชายชาวสิงคโปร์วัย 46 ปี ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเป็นคนแรกของปีนี้ จากคดีลักลอบขนส่งกัญชามากกว่า 1…

ฮ่องกงยึดหนังสือต้องห้าม ผู้นำแจงยิบป้องกันแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ดี

Loading

    ฮ่องกงยึดหนังสือต้องห้าม – วันที่ 18 พ.ค. เอพีรายงานว่า นายจอห์น หลี่ ประธานบริหารเกาะฮ่องกงระบุถึงการเก็บหนังสือที่ไม่เหมาะสมออกจากชั้นวางตามห้องสมุดทั่วเกาะ ว่าเพื่อป้องกันแนวคิด (ทางการเมือง) ที่ไม่ดี ไม่ให้เกิดขึ้น   การชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทางการฮ่องกงเริ่มกำจัดหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุนองเลือดจัตุรัสเทียนอันเหมินปี 2532 และบุคคลสำคัญทางด้านการเมืองที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้สิทธิเสรีภาพลดลงอีกในฮ่องกง นับตั้งแต่การเริ่มปราบปรามฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกง   นายหลี่ กล่าวกับบรรดาผู้แทนราษฎรในสภา หลังถูกยื่นกระทู้ถามว่ามีหนังสือหลายเล่มถูกนำออกจากชั้นหนังสือในห้องสมุดสาธารณะโดยปราศจากคำชี้แจงที่ชัดเจน อาทิ หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ประท้วง และหนังสือที่เขียนโดยบุคคลฝ่ายประชาธิปไตย   การดำเนินการข้างต้นของทางการฮ่องกงเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการทั่วโลก ว่าเป็นการบ่อนทำลายเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลและการแสดงออกในฮ่องกงมากขึ้นไปอีก   อย่างไรก็ตาม นายหลี่ กล่าวตอบโต้ว่า หนังสือที่ทางการอนุญาตให้ประชาชนยืมกลับบ้านได้จากห้องสมุดจะมีเฉพาะหนังสือที่ทางการแนะนำเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ทางการจะแนะนำหนังสือที่ละเมิดกฎหมายหรือละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงหนังสือที่มีเนื้อหาแนวคิดทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม               —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

กอ.รมน. จัดเสวนาเพิ่มประสิทธิภาพ ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและก่อการร้าย

Loading

    กอ.รมน. บูรณาการส่วนราชการ จัดเสวนาให้ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย   เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลช เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร กอ.รมน. โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน (ศปป.3 กอ.รมน) ได้จัดกิจกรรมเสวนาเรื่อง “ความท้าทายในการป้องกัน การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย”   โดยมี พล.ท.วิภูษณะ คล้ายมณี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 (ศปป.3) กอ.รมน. เป็นประธานในพิธีเปิดฯ ซึ่งการเสวนาในครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง ด้านการข่าว และหน่วยบังคับใช้กฎหมาย กว่า 100 คน ร่วมรับฟัง โดยแบ่งเป็นหัวข้อ “อาชญากรรมข้ามชาติ ในมิติการสนับสนุนการก่อการร้าย”     โดยผู้แทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และหัวข้อ “การก่อการร้ายกับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย” โดยผู้แทนจากศูนย์รักษาความปลอดภัย, ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล และ ศปป. 5 กอ.รมน. เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาเพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน…

คนมันเหงา! สาวต่างแดนวัย 29 ในสหรัฐฯ ลงทุนใช้เอกสารเท็จกลับเข้าเรียนระดับมัธยม

Loading

    หญิงสาววัย 29 ปีรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาใช้เอกสารปลอมเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ และเข้าเรียนในบางคาบในช่วงเวลา 4 วัน สุดท้ายถูกจับได้ และศาลแห่งรัฐในวันจันทร์ (15 พ.ค.) สั่งให้เข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติในชั้นก่อนพิจารณาคดี   ฮเยจอง ชิน ไม่ยอมสารภาพผิดในเดือนมีนาคม ตามข้อกล่าวหามอบเอกสารราชการเท็จ ขณะที่ทนายควาของเธอแก้ต่างว่าที่ผู้หญิงรายนี้ทำเช่นนั้นก็เพราะเธอเหงาและปรารถนากลับคืนสู่วันเก่าๆ ในช่วงวัยเรียน ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าได้ทำผิดพลาดลงไป   เวลานี้เธอจะต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพจิต และหากว่าเธอสิ้นสุดระยะเวลาการเข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติ ท้ายที่สุดแล้วศาลอาจพิจารณาตีตกข้อกล่าวหาที่จะเอาผิดกับเธอ   ทนายความเปิดเผยว่า ชิน เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาสหรัฐฯ ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาเธอเรียนจบระดับปริญญา จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในปี 2019   ทั้งนี้ ทนายความชี้แจงว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาชั่วร้าย ตอนที่สมัครเข้าเรียน ณ โรงเรียนมัธยมนิว บรุนส์วิค ในเดือนมกราคม โดยเธอแค่ต้องการกลับสู่ “สถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้อนรับ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เธอมองย้อนกลับไปด้วยความรัก”   เจ้าหน้าที่บอกว่า…