ดีอีเอส รู้ตัว 9near แล้ว! รับหลายหน่วยงานรัฐยังมีช่องโหว่จริง

Loading

    ชัยวุฒิ เผยรู้ตัวผู้ใช้งานบัญชี 9near แล้ว พบเป็นคนในประเทศและทำเป็นขบวนการหวังดิสเครดิตรัฐ ยอมรับระบบเทคโนโลยีของภาครัฐยังมีช่องโหว่ อาจส่งผลให้ข้อมูลประชาชนรั่วไหลได้   ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยความคืบหน้ากรณี ผู้ใช้ชื่อบัญชี “9near” อ้างว่ามีข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายชื่อ   ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลมาพอสมควรและได้ล็อกเป้าคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลหลุดออกมาจากหน่วยงานไหน ต้องรอจับคนร้ายให้ได้ก่อนแล้วจึงขยายผล เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิต ต้องการให้รู้ว่าระบบมีปัญหา ไม่ได้เป็นการเรียกค่าไถ่ หรือหาเงินจากเรื่องนี้   คิดว่าการโจมตีครั้งนี้ มีการทำเป็นขบวนการไม่สามารถทำคนเดียวได้ ยืนยันหากจับคนร้ายได้แล้วข้อมูลไม่รั่วไหลแน่นอน   โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริง รวมทั้งดูแลผู้เสียหายจากเคส 9near ด้วย   อย่างไรก็ตาม นายชัยวุฒิ มองว่า มีหลายหน่วยงานที่มีโอกาสทำข้อมูลรั่วไหล โดยเฉพาะระบบที่ประชาชนต้องลงทะเบียน รวมถึงการแจ้งผลการลงทะเบียนของประชาชน ที่จำเป็นต้องมีการระบุ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์บนแพลตฟอร์มที่เป็นสาธารณะ   ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ระบุให้หน่วยงานที่รู้ตัวว่าทำข้อมูลหลุดต้องแจ้งต่อ…

สื่อผู้ดีอ้างจีนตั้งฐานเรดาร์ทหารกลางป่าทึบศรีลังกา สอดแนมสหรัฐฯ-อังกฤษ-อินเดีย

Loading

    เอเจนซีส์ – โปรเจกต์สถานีรับสัญญาณดาวเทียมกลางป่าทึบของสถาบันวิจัยข้อมูลอวกาศ AIR (Aerospace Information Research Institute) ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน CAS ที่กำลังจะเกิดขึ้นกลางป่าทึบที่อ่าวดอนดรา (Dondra Bay) มีเป้าหมายเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวเรือรบชาติตะวันตกและอินเดียในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงฐานที่ตั้งทางทหารอเมริกัน-อังกฤษในดินแดนอาณานิคมอังกฤษ ดิเอโก การ์เซีย (Diego Garcia) กลางมหาสมุทรอินเดียและของอินเดียอย่างไม่ต้องสงสัย   เดลีเอ็กซเพรสของอังกฤษรายงานวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า โปรเจกต์สถานีรับสัญญาณดาวเทียมจีนนี้ถูกเปิดเผยโดยแหล่งข่าวกรองศรีลังกา และโปรเจกต์ฐานเรดาร์ลับของทางการทหารของจีนกลางป่าทึบที่อ่าวดอนดรา (Dondra Bay) ในรูฮูนา (Ruhuna) ตั้งอยู่ทางปลายสุดศรีลังกา ที่ถูกผู้เชี่ยวชาญประณามได้กลายเป็นข้อพิสูจน์อย่างแน่นหนาว่า ปักกิ่งใช้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อทำให้ศรีลังกาตกอยู่ในบ่วงหนี้โปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานพันล้านอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของปักกิ่ง   สถานีรับสัญญาณดาวเทียมเป็นของสถาบันวิจัยข้อมูลอวกาศ AIR (Aerospace Information Research Institute) ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน CAS สื่ออังกฤษชี้ว่า ปักกิ่งสามารถใช้ฐานเรดาร์ลับใหม่นี้ที่มีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในทางปลายแหลมของศรีลังกาเพื่อการเพิ่มศักยภาพในการสอดแนมปฏิบัติการข่าวกรองของตัวเองต่อการเคลื่อนไหวเรือรบโลกตะวันตกในมหาสมุทรอินเดีย   และที่ร้ายแรงกว่านั้นมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้จีนสามารถสอดแนมที่ตั้งทางการทหารสหรัฐฯ และอังกฤษตั้งอยู่ในดินแดนอาณานิคมอังกฤษกลางมหาสมุทรอินเดีย ดิเอโก การ์เซีย (Diego Garcia) และอินเดีย…

ทูตรัสเซียในเบลารุสเผย จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ใกล้พรมแดนนาโต

Loading

    ทูตรัสเซียประจำเบลารุสออกมาบอกว่า รัสเซียจะวางอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสไว้ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับประเทศนาโต   หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเขตแดนของพันธมิตรอย่างเบลารุส จนทำให้มีความเสี่ยงว่าจะเกิดสงครามนิวเคลียร์มีมากกว่าที่เคย   ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) บอริส กริซลอฟ ทูตรัสเซียประจำเบลารุสออกมาบอกว่า รัสเซียจะวางอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสไว้ “ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับประเทศนาโต (NATO)” โดยจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังชายแดนตะวันตกของเบลารุส เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อ “รับประกันความปลอดภัย”     พรมแดนด้านตะวันตกของเบลารุสนั้นติดกับโปแลนด์ ส่วนทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับลัตเวียและลิทัวเนีย ซึ่งทั้งสามประเทศนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรนาโตทั้งสิ้น   นาโตคือกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่เดิมจัดตั้งขึ้นเพื่อขัดขวางการขยายตัวของสหภาพโซเวียตในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง   “สิ่งนี้จะเกิดได้แม้จะมีเสียงจากยุโรปและสหรัฐฯ ก็ตาม” กริซลอฟกล่าว และเน้นย้ำแผนเดิมของประธานิบดีปูตินว่า โรงเก็บอาวุธนิวเคลียร์จะสร้างเสร็จภายในวันที่ 1 ก.ค. โดยไม่ระบุแน่ชัดว่าอาวุธจะถูกนำไปประจำการที่ใด   นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว กลุ่มนาโตได้เพิ่มจำนวนทหารที่ประจำการในลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์เกือบ 10 เท่าแล้ว   ด้าน อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของปูติน กล่าวเมื่อวันศุกร์…

เอกวาดอร์ประกาศภาวะฉุกเฉินเมืองท่าหลัก ยกระดับปราบอาชญากรรม

Loading

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางการเอกวาดอร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมเมืองท่าหลัก และอีกหลายพื้นที่ ซึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีกีแยร์โม ลาสโซ ผู้นำเอกวาดอร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่เมืองกัวยากิล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ รวมถึงเขตดูราน และเขตซัมโบโรดอน เช่นเดียวกับในจังหวัดซานตาเอเลนา และจังหวัดลอสริโอส   นอกจากนี้ ลาสโซ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวยังรวมถึง การบังคับใช้เคอร์ฟิวทุกคืน ตั้งแต่เวลา 01.00-05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ   เมื่อปีที่แล้ว ลาสโซประกาศภาวะฉุกเฉินชั่วคราวในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง ในเมืองกัวยากิล ซึ่งเผชิญกับการสังหารหมู่ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก   Ecuador declares state of emergency in the nation's major port and…

เบอร์มือถือไทยรั่ว 13 ล้านเบอร์! คนไทยโดนมิจฉาชีพโทรเข้าสูงขึ้น ระวังอย่าคลิกลิงก์บน SMS

Loading

    เบอร์มือถือไทยรั่ว 13 ล้านเบอร์ คนไทยโดนมิจฉาชีพโทรเข้าสูงขึ้น โดย Whoscall ผู้นำด้านแอปบล็อกเบอร์โทรที่ไม่รู้จัก และป้องกันสแปม สำหรับสมาร์ทโฟน ชี้ถึงปัญหาที่เพิ่มขึ้นของการหลอกลวงทางโทรศัพท์และข้อความ SMS จากรายงานประจำปีพบว่า มีการหลอกลวงทั้งจากสายโทรเข้าและข้อความ SMS รวม 405.4 ล้านครั้ง คนไทยยังต้องรับสายจากมิจฉาชีพเพิ่มขึ้น 165% หรือ 17 ล้านครั้งในปี 2565 และพบการรั่วไหลของเบอร์โทรศัพท์ในประเทศไทยกว่า 45% หรือ 13.5 ล้านเบอร์ และพบ SMS 7 ใน 10 ครั้งที่คนไทยได้รับเป็นข้อความสแปมและข้อความหลอกลวง หรือคิดเป็น 73% ของข้อความที่ได้รับทั้งหมด   รวมภัย SMS Spam หลอกลวงคนไทยเพิ่มขึ้น   มิจฉาชีพนิยมส่งข้อความหลอกลวงเนื่องจากสามารถเข้าถึงเหยื่อจำนวนมากด้วยต้นทุนต่ำ ข้อความ SMS โดยหลอกให้เหยื่อกดลิงก์ฟิชชิงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว เพิ่มบัญชีไลน์เพื่อหลอกให้ส่งข้อมูลหรือโอนเงินให้     กลอุบายที่พบบ่อยได้แก่ การเสนอเงินกู้โดยมักอ้างรัฐบาลหรือธนาคาร และการให้สิทธิ์เข้าตรงเว็บพนันออนไลน์…

เด็กๆ ชายแดนใต้ “ชูหนึ่งนิ้ว” ภัยความมั่นคง?

Loading

    มุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับ “อัตลักษณ์มลายู” ระหว่างพี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับฝ่ายความมั่นคงของรัฐ ถือเป็นปัญหามาโดยตลอด   และกลายเป็น “ความไม่เข้าใจ” จนบานปลายเป็นชนวนของความขัดแย้งแตกแยกในดินแดนปลายด้ามขวาน ทั้งยังเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของ “ไฟใต้” ที่คุกโชนมานานกว่า 100 ปี โดยเฉพาะใน 2 ทศวรรษมานี้ที่เต็มไปด้วยเหตุรุนแรงรายวัน   “อัตลักษณ์มลายู” ที่ชาวบ้าน ประชาชนคนในพื้นที่มองเป็นเรื่องปกติ ก็เช่น การแต่งกายแบบมลายู, ภาษา ซึ่งคนพื้นที่ใช้ “ภาษามลายูถิ่น” ในการสื่อสาร ตลอดจนประเพณีต่างๆ อย่างการสร้างประตูเมือง และการทำสัญลักษณ์มือ หรือสัญลักษณ์อื่นๆ   เรื่องแบบนี้คนในพื้นที่มองว่า “ปกติ” แต่คนต่างถิ่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐอาจมองเป็น “ภัยความมั่นคง” หรือมีความพยายามปลุกกระแส “แบ่งแยกดินแดน” ได้เหมือนกัน นี่คือมุมมองที่แตกต่าง จนกลายเป็น “ความไม่เข้าใจ”   อย่างล่าสุด มีรายงานแจ้งเตือนของ “หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่” โดยอ้างอิงถึงกิจกรรมขบวนพาเหรดการแข่งขันกีฬาสีของ “ตาดีกา” แห่งหนึ่งใน อ.จะแนะ จ.นราธิวาส  …