LockBit อ้างความรับผิดชอบโจมตีไซเบอร์ต่อท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

Loading

  ท่าเรือลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งท่าเรือทางทะเลที่คับคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จนระบบดิจิทัลหลายตัวล่ม แต่ไม่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานภายในท่าเรือแต่อย่างใด   สำนักงานท่าเรือลิสบอน (APL) ออกมาเผยว่าได้นำมาตรการตอบโต้ที่เตรียมไว้มาใช้บังคับแล้ว โดยศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและตำรวจศาลได้เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด   ทั้งนี้ ด้านกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ LockBit ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้เพิ่มชุดข้อมูลที่อ้างว่าขโมยมาจาก APL เข้าไปยังเว็บไซต์ของทางกลุ่ม   ชุดข้อมูลนี้มีทั้งรายงานการเงิน ข้อมูลการตรวจสอบ งบประมาณ สัญญาจ้าง ข้อมูลสินค้า ข้อมูลเรือ รายละเอียดลูกเรือ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เอกสารท่าเรือ รายละเอียดเนื้อหาอีเมล และอีกมากมาย   LockBit ออกมาตั้งค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านเหรียญ (ราว 51.9 ล้านบาท) พร้อมขู่ว่าหากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ภายในวันที่ 18 มกราคม ทางกลุ่มจะปล่อยข้อมูลบนโลกออนไลน์ แต่มีตัวเลือกให้ชะลอวันปล่อยข้อมูล 1 วัน ด้วยการจ่ายเงินครั้งละ 1,000 เหรียญ (ราว 34,439 บาท)   ท่าเรือลิสบอนไม่ได้มีความสำคัญต่อโปรตุเกสเท่านั้น…

แฮ็กเกอร์สั่งให้เครื่องพิมพ์ของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียพิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ หลังโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่

Loading

  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ (QUT) มหาวิทยาลัยใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่จนทำให้เครื่องพิมพ์สั่งพิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ออกมาเอง   ในเบื้องต้น ทาง QUT ต้องระงับการใช้งานระบบไอทีหลายระบบเพื่อเป็นการมาตรการป้องกันการถูกขโมยข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมระบุว่าระบบหลักที่เกี่ยวกับนักศึกษา บุคลากร และระบบการเงินยังปลอดภัยดี เพียงแต่ปิดใช้งานเอาไว้ก่อน   ศาสตราจารย์ มาร์กาเรต ชีล (Margaret Sheil) รองอธิการบดีของ QUT เผยว่าเครื่องพิมพ์ส่วนตัวก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน จนทำให้พิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ออกมาจนไม่เหลือกระดาษให้พิมพ์อีก   ในจดหมายเรียกค่าไถ่ระบุว่ามาจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Royal ransomware ตามด้วยข้อความที่ชี้ว่าแฮ็กเกอร์ได้คัดลอกข้อมูลในระบบของ QUT ไปแล้ว และหากทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่จ่ายค่าไถ่ ก็จะมีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์ทันที   QUT ยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกในการตรวจสอบการแฮกที่เกิดขึ้น และได้แจ้งนักศึกษาและบุคลากรเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมีการติดต่อไปยังนักศึกษาที่ได้รับข้อเสนอให้มาศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยฯ แต่นักศึกษาเหล่านี้จะยังไม่สามารถกรอกเอกสารได้จนกว่าระบบไอทีจะกลับมาทำงานเป็นปกติ   ชีลยังบอกด้วยว่ามหาวิทยาลัยฯ มีแผนรองรับการโจมตีทางไซเบอร์ และได้แจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐบาลกลางแล้ว ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางออสเตรเลียยืนยันว่าได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว   ก่อนหน้านี้ กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา (HHS) เคยออกคำเตือนโรงพยาบาลต่าง ๆ เกี่ยวกับ…

โรงพยาบาลเด็กในแคนาดาต้องใช้อีกหลายสัปดาห์กว่าจะฟื้นตัวจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ได้สมบูรณ์

Loading

  SickKids โรงพยาบาลเด็กที่ใหญ่ที่สุดในโทรอนโต แคนาดา ถูกโจมตีในรูปแบบมัลแวร์เรียกค่าไถ่จนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน   ทางโรงพยาบาลเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าระบบต่าง ๆ จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทไซเบอร์และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ยังไม่พบหลักฐานว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความเสียหายหรือถูกขโมยไป   อย่างไรก็ดี SickKids ชี้ว่าได้เคยเตรียมการรองรับภัยคุกคามในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว จึงทำให้สามารถลดทอนความเสียหายที่เกิดขึ้นและยังสามารถให้บริการต่อไปได้   ทีมคลินิกและผ่าตัดใช้มาตรการสำรองสำหรับระบบที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ แต่ก็เกิดความล่าช้าในหลายส่วน โดยเฉพาะผลแล็บและผลการตรวจด้วยภาพ ซึ่งโรงพยาบาลชี้ว่าคนไข้และญาติอาจต้องรอผลช้าลงกว่าเดิม แต่ยังสามารถติดต่อโรงพยาบาลได้ตามปกติ   ขณะที่ระบบการรักษาเร่งด่วนและฉุกเฉิน รวมถึงการรักษาที่มีการนัดหมายไว้ก็ยังทำได้ต่อไป       ——————————————————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :                  beartai.com                    / วันที่เผยแพร่ 25…

FBI เตือนให้ระวังโฆษณาปลอมบนเสิร์ชเอนจิน

Loading

  สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ออกคำเตือนให้ระวังอาชญากรไซเบอร์ที่ซื้อโฆษณาปลอมบนเสิร์ชเอนจินที่จะลวงผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย   อาชญากรเหล่านี้ซื้อโฆษณาที่จะปรากฎอยู่บนผลการค้นหาโดยใช้ชื่อโดเมนที่คล้ายกับธุรกิจที่มีอยู่จริง ซึ่งเมื่อคลิกแล้วจะนำผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บที่ดูเหมือนของจริงมาก   ในคำแถลงเผยว่าเว็บไซต์เหล่านี้ซ่อนมัลแวร์เรียกค่าไถ่เอาไว้ รวมถึงจะขโมยข้อมูลการล็อกอิน และข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะแพลตฟอร์มคริปโทเคอเรนซี   โดยในบางเว็บไซต์จะมีบริการดาวน์โหลดโปรแกรมที่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ ขณะที่เว็บไซต์อีกส่วนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนเว็บไซต์สถาบันทางการเงิน ก็จะหลอกให้ผู้ใช้งานเข้าล็อกอินโดยใส่รหัสผ่านจริง   FBI แนะนำวิธีการป้องกันโดยให้ตรวจสอบดูว่า URL นั้นเป็นของจริงและมีการสะกดคำผิดหรือไม่ พยายามใส่ URL เว็บไซต์ของธุรกิจที่ต้องการเข้าชมแทนการค้นหา และควรใช้ส่วนเสริมที่ปิดกั้นโฆษณา (ad blocking extension) บนเว็บเบราว์เซอร์       ——————————————————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :                      beartai.com                  …

กลุ่ม RansomHouse โจมตีโรงพยาบาลในโคลอมเบียและลาตินอเมริกา

Loading

  องค์กรด้านการดูแลสุขภาพข้ามชาติ Keralty กำลังประสบกับภัยคุกคามการโจมตีด้วย Ransomware โดยกลุ่ม RansomHouse จนทำให้บริษัทในเครือทั้งหมดหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อระบบการรักษาพยาบาลของโคลอมเบีย   โดย Keralty เป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของของประเทศโคลอมเบียที่ดำเนินงานเครือข่ายระหว่างประเทศของโรงพยาบาล 12 แห่งและศูนย์การแพทย์ 371 แห่งในลาตินอเมริกา สเปน สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ซึ่งนี้มีพนักงานกว่า 24,000 คน และแพทย์ 10,000 คนที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ผู้ป่วยมากกว่า 6 ล้านคน   การโจมตีในครั้งนี้ทำให้การบริหารงานด้วยระบบไอที เช่น การจัดตารางนัดหมายทางการแพทย์ และเว็บไซต์ของบริษัท เกิดเหตุขัดข้องจนส่งผลกระทบต่อระบบการรักษาพยาบาลของโคลอมเบีย ทำให้คนไข้รอนานกว่า 12 ชั่วโมงเพื่อเข้ารับการรักษา และผู้ป่วยบางรายเป็นลมเนื่องจากขาดการดูแลทางการแพทย์   ต่อมาเว็บไซต์ bleepingcomputer ได้สอบถาม Keralty เกี่ยวกับความคิดเห็นในการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ แต่พบว่ามีผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งชื่อ Alexánder ได้ทวีตภาพหน้าจอของเซิร์ฟเวอร์ VMware ESXi พร้อมข้อความเรียกค่าไถ่ที่แสดงข้อความ ‘Dear…

โครงข่ายรัฐบาลวานูอาตูที่ล่มนานกว่า 1 เดือนเต็ม หลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์ ค่อย ๆ ฟื้นตัวแล้ว

Loading

  เว็บไซต์ Techspot เผยว่าระบบโครงข่ายของรัฐบาลวานูอาตู ประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ล่มมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน หลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์   การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลต้องกลับไปใช้ระบบเอกสารแบบกระดาษ จนถึงขณะนี้มีเพียงร้อยละ 70 ของระบบที่กลับมาใช้งานได้แล้ว   ย้อนกลับไปขณะเกิดเหตุ รัฐบาลวานูอาตูที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อ 13 ตุลาคม เริ่มสังเกตเห็นปัญหาทันทีตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 6 พฤศจิกายน เหตุการณ์ในตอนนั้นทำให้ระบบโครงข่ายของรัฐบาลล่มไปทั้งหมด   เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเข้าใช้ระบบอีเมลของรัฐบาล ประชาชนไม่สามารถทำเรื่องต่อใบขับขี่หรือจ่ายภาษีได้ เช่นเดียวกับระบบให้บริการข้อมูลสาธารณสุขและการแพทย์ฉุกเฉินก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน   ออสเตรเลียได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยกู้และซ่อมแซมระบบ โดยสำนักข่าว Sydney Morning Herald เชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่รัฐบาลวานูอาตูยังไม่เคยออกมาเผยรายละเอียดในเรื่องนี้     ที่มา TechSpot       ——————————————————————————————————————————————————————— ที่มา :                         …