สถานกงสุลใหญ่ในฟูกูโอกะ แนะคนไทย เตรียมรับมือ พายุชานชาน ขึ้นฝั่ง คาโกะชิมะ

Loading

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 10 พายุชานชาน Shanshan ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวจากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น

กระทรวงต่างประเทศเตือนภัย Call Center อ้างเป็นจนท.สถานทูต-สถานกงสุลใหญ่

Loading

กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งเตือนคนไทยในต่างประเทศ ว่ามีขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยในหลายประเทศซึ่งแอบอ้างชื่อของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่

เตือนภัย! พบมิจฉาชีพปลอมไลน์ อ้างเป็น “กสทช.” แนะวิธีสังเกต-แจ้งความ

Loading

เตือนภัย! พบมิจฉาชีพออนไลน์แอบอ้าง ปลอมไลน์เป็น “กสทช.” โน้มน้าวให้กรอกข้อมูลยืนยันตัวตนผู้ถือซิมการ์ด แนะนำวิธีสังเกตบัญชีจริง พร้อมลิงก์แจ้งความ

ระวัง! ถูกหลอกให้ช่วยกดเงินที่ตู้ ATM อาจจะถูกออกหมายเรียกได้!

Loading

ระวัง! ถูกหลอกให้ช่วยกดเงินที่ตู้ ATM โดยสืบนครบาล (IDMB) เป็นหน่วยงานเฉพาะด้านการสืบสวน ออกประกาศเตือนภัยรูปแบบการก่อเหตุใหม่ของแก๊งบัญชีม้า โดยล่าสุดมีแก๊งบัญชีม้าจะยืนอยู่แถวตู้ ATM พอมีเหยื่อมากด ATM คนร้ายจะยื่นบัตร ATM ขอร้องให้เราช่วยกดเงิน โดยแจ้งว่ากดไม่เป็น และให้เราเป็นคนกดเงินให้ โดยคนร้ายจะยืนรออยู่ข้างนอก

เตือนภัย SMART VOTE โดนแฮ็ก แนบลิงก์แฝงล้วงข้อมูล

Loading

    วันที่ 21 ก.ค.66 เพจตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. เตือนภัย SMART VOTE โดนแฮก แนบลิงก์แฝงล้วงข้อมูลว่า ขณะนี้พบว่า ได้มีกลุ่มแฮกเกอร์พยายามเข้าโจมตีในแอปพลิเคชัน SMART VOTE ทำให้มีข้อความแปลกแจ้งเตือนในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสน และอาจมีการแนบลิงก์แฝงมาด้วย   หากเผลอกดลิงก์ อาจทำให้ถูกควบคุมเครื่องมือสื่อสารจากระยะไกล หรือหลอกกรอกข้อมูลเพื่อดูดข้อมูลในอุปกรณ์ดังกล่าว ไปจนถึงขั้นโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคารได้   ตำรวจไซเบอร์จึงขอเตือนภัย ห้ามกดลิงก์แฝงที่แนบมากับการแจ้งเตือนดังกล่าว และควรถอนการติดตั้ง (Uninstall) แอปพลิเคชันดังกล่าวออกจากเครื่องมือสื่อสาร จนกว่าจะแก้ไขระบบเรียบร้อย   ทั้งนี้ หากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือ โทรปรึกษาสายด่วน 1441       ขอบคุณ เพจ ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.   ———————————————————————————————————————————————————————-   ที่มา : สยามรัฐ   …

ตำรวจไซเบอร์ เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี

Loading

  โฆษก บช.สอท. เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000- 100,000 บาท   วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ได้นำหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของตนไปตรวจสอบในระบบ หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ พบว่า หมายเลขบัตรประชาชนของตนได้ถูกนำไปเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 30 หมายเลข โดยที่ตนไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการแต่อย่างใดนั้น ว่า   ในปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสอบข้อมูล ขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยสะดวก รวมไปถึงการเปิดใช้งานลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ มาแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย   การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “นำบัตร หรือใบรับหรือใบแทนใบรับของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526…