ถึงเวลา…กำหนดมาตรฐาน AI ไทย แบบไหน ? ใช้งานได้ประโยชน์ !!

Loading

    เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมา ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน   เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมา ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และได้ถูกกล่าวถึงและถูกจับตาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา   โเดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาชอง “ChatGPT” ที่เป็น “กระแสร้อนแรง” จนสั่นสะเทือนวงการ เอไอ เพราะเป็นแชตบอตสุดล้ำ สามารถสร้างข้อความตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถามอะไรตอบได้หมด!! จนมีความใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นทุกที??   ต่อไป “ChatGPT” จะกลายเป็น Digital Disruption โลกใบนี้หรือไม่ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง!! ว่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของหลายอุตสาหกรรม!?!   การที่เอไอ มีการใช้งานแพร่หลายมาขึ้น ให้หลายประเทศทั่วโลก เร่งพัฒนามาตรฐาน และหลักธรรมาภิบาล ปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance) เพื่อมาใช้เป็นกรอบในการประยุกต์ใช้ AI เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับของสากล   แล้วประเทศไทยมีความพร้อมแค่ไหน? เมื่อทุกวันนี้ ก็เริ่มมีการนำเอไอมาใช้อย่างแพร่หลายเช่นกัน ซึ่งทาง ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Clinic หรือ AIGC)  สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์…

ส่องนโยบายใช้ ‘ChatGPT’ ช่วยทำงานในองค์กร

Loading

    ผมมีโอกาสได้เห็นเอกสารนโยบายการใช้ Generative AI อย่าง ChatGPT ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในต่างประเทศรายหนึ่งระบุว่า ห้ามพนักงานใช้โดยเด็ดขาด   โดยเฉพาะในการทำเอกสารหรือจดหมายเพื่อติดต่อกับลูกค้า หรือแม้แต่จะช่วยเขียนโค้ดในการพัฒนาโปรแกรม ทั้งนี้บริษัทอนุญาตให้ใช้เฉพาะเพื่อการทดลองหรือการศึกษา และการใช้งานส่วนตัวเท่านั้น   จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะในปัจจุบันหลายๆ บริษัทในต่างประเทศเริ่มที่จะออกนโยบายการใช้ Generative AI ในการช่วยทำงานของพนักงานหรือที่เรียกว่านโยบาย Generative AI Assistance (GAIA) และก็มีหลายบริษัทที่ประกาศห้ามการใช้งาน   ดังเช่น สถาบันการเงินต่างๆ อย่าง JPMorgan Chase,Bank of America, Goldman Sachs, Citigroup, Deutsche Bank และ Wells Fargo โดยเหตุผลหลักเป็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอ่อนไหวของลูกค้า   ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น Amazon, Verizon, และ Accenture ที่ออกนโยบายจำกัดการใช้งาน Generative AI ของพนักงานและให้ระมัดระวังการนำข้อมูลอ่อนไหวของบริษัทเข้าไปสู่ระบบ…

เดอะการ์เดียนเผยกล้องเสริม AI ของสหรัฐเป็นอันตรายกับผู้อพยพข้ามพรมแดน

Loading

  หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า กล้องถ่ายภาพที่เสริมสมรรถนะด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งติดตั้งในหอสังเกตการณ์บริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐนั้น สามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัยที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจผลักดันให้กลุ่มผู้อพยพต้องเดินทางลึกเข้าไปในทะเลทรายซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย   เดอะการ์เดียนรายงานโดยอ้างข้อมูลจากอิเล็กทรอนิก ฟรอนเทียร์ ฟาวเดชัน (Electronic Frontier Foundation) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล เสรีภาพในการพูด และนวัตกรรม ซึ่งระบุว่า แผนที่ฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่ามีหอสังเกตการณ์จำนวนมากกว่า 300 จุดตั้งอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก และยังมีหอสังเกตการณ์ที่มีแผนจะสร้างเพิ่มอีก 50 จุด   หอสังเกตการณ์เหล่านี้พัฒนาโดยบริษัทแอนดูริล (Anduril) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านกลาโหม โดยหอสังเกตการณ์ปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน และติดตั้งกล้องที่เสริมสมรรถนะด้วย AI ซึ่งสามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัย เช่น คนหรือยานพาหนะ นอกจากนี้ กล้องยังสามารถหมุนได้ 360 องศา และสามารถตรวจจับคนที่อยู่ห่างออกไปไกลถึง 1.7 ไมล์ หรือประมาณ 2.7 กิโลเมตร   กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐหลายสมัยนั้น ได้ผลักดันให้มีการอพยพผ่านทะเลทรายและภูเขา ซึ่งส่งผลให้ผู้อพยพเสียชีวิตหรือสูญหายจำนวนมาก   นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงควบคุมการไหลเข้าของผู้อพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อพยพผ่านพรมแดนกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก…

เป็นเรื่อง! พนักงาน Samsung Semiconductor เผลอทำ Source Code และข้อมูลสำคัญของบริษัทรั่วไหลใน ChatGPT

Loading

    เว็บไซต์ TechRadar รายงานว่า พนักงานในแผนกเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ได้ก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการปล่อยให้ข้อมูลความลับสำคัญของบริษัท ได้แก่ Source Code สำหรับโปรแกรมใหม่, รายงานการประชุมภายในของบริษัท และข้อมูลเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ รั่วไหลโดยบังเอิญ ระหว่างการใช้งานโปรแกรมแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ชื่อดัง ChatGPT   รายงานข่าวดังกล่าว ระบุว่า พนักงานของ Samsung ได้กรอกคำสั่งให้ ChatGPT ทำการทดสอบเพื่อตรวจจับข้อบกพร่องในชิป ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นความลับสูง เนื่องจากต้องการประหยัดเวลาและงบประมาณในการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการทดสอบและตรวจสอบโปรเซสเซอร์ของบริษัท   นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งกรณีที่พนักงานใช้งาน ChatGPT เพื่อแปลงบันทึกการประชุม ซึ่งบริษัทไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกเห็นเป็นพรีเซนเทชัน   ทันทีที่รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น Samsung ได้สั่งลงโทษพนักงานที่สร้างความผิดพลาด พร้อมออกประกาศคำเตือนถึงพนักงานที่เหลือของบริษัทในการใช้ ChatGPT และการรักษาความลับของบริษัทในทันที   ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ OpenAI ผ่าน ChatGPT จะไม่สามารถกู้หรือลบทิ้งได้ ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung   เว็บไซต์ The Economist รายงานว่า เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…

Microsoft เปิดตัว Security Copilot ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยวิเคราะห์การถูกโจมตีทางไซเบอร์

Loading

  ไมโครซอฟท์ เดินหน้าใช้เทคโนโลยีจากปัญญาประดิษฐ์เต็มสูบ เปิดตัวเครื่องมือใหม่ Security Copilot ใช้เอไอ ช่วยวิเคราะห์การถูกโจมตีทางไซเบอร์   ไมโครซอฟท์ เปิดเผยผ่านเว็บบล็อกอย่างเป็นทางการในหัวข้อที่มีชื่อว่า Introducing Microsoft Security Copilot: Empowering defenders at the speed of AI โดยเป็นการอธิบายของไมโครซอฟท์ เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานในแง่ของการวิเคราะห์ข้อมูลในกรณีที่เกิดการโจมตีทางไซเบอร์   ความน่าสนใจของเครื่องมือ Security Copilot อยู่ตรงที่ ไมโครซอฟท์ ได้รวมเอา GPT-4 เข้ามาผนวกด้วย แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่า โมเดลนี้ฝึกและพัฒนาอย่างไร   อย่างไรก็ดี ไมโครซอฟท์ ยืนยันว่า การพัฒนา Security Copilot ไม่ได้ถูกฝึกฝนหรือเรียนรู้จากการใช้ข้อมูลของลูกค้า   ชาร์ลี เบลล์ รองประธานบริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยของไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า การพัฒนาในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ก้าวหน้านั้น ต้องการทั้งเรื่องของคนและเทคโนโลยี การจับคู่ระหว่างความเฉลียวฉลาดของมนุษย์กับเครื่องมือขั้นสูง และ Security Copilot จะเป็นเทคโนโลยีในอนาคตที่ช่วยให้ทุกคนได้อยู่ในโลกที่ปลอดภัยขึ้น…

Elon Musk, Steve Wozniak และผู้นำเทคโนโลยี ลงนามขอให้หยุดฝึก AI ที่ทรงพลังกว่า GPT-4 เป็นเวลา 6 เดือน

Loading

  ผู้มีบทบาทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) , อีลอน มัสก์ (Elon Musk) , Steve Wozniak (สตีฟ วอซเนียก) และผู้นำเทคโนโลยีหลายร้อยคน ร่วมกันลงนามเกี่ยวกับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ริเริ่มโดยสถาบันฟิวเจอร์ ออฟ ไลฟ์ (Future of Life Institute) เพื่อขอให้ห้องปฏิบัติการเอไอหยุดฝึกระบบเอไอที่ทรงพลังกว่า จีพีทีโฟร์ (GPT-4) เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน   โดยในจดหมายผนึกกล่าวไว้ว่า ระบบ AI ที่มีความฉลาดแข่งขันกับมนุษย์สามารถก่อให้เกิดภัยร้ายแรงต่อสังคมและมนุษยชาติ AI ขั้นสูงสามารถเป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ เพราะเหตุนี้จึงควรได้รับการวางแผนและจัดการที่เหมาะสม   โดยการหยุดฝึก 6 เดือนนี้ เป็นการหยุดเพื่อพัฒนาและกำหนดกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ให้ AI มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น และการหยุดชั่วคราวนี้ควรเปิดเผยต่อสาธารณะและสามารถตรวจสอบได้ หากไม่สามารถประกาศใช้การหยุดชั่วคราวดังกล่าว รัฐบาลควรเข้ามาดำเนินการและควบคุมเรื่องนี้เช่นกัน   ดูจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มได้ที่ https://futureoflife.org/open-letter/pause-giant-ai-experiments/   ผู้ร่วมลงนามส่วนหนึ่งในจดหมายฉบับนี้   ยูวัล โนอาห์…