ถึงเวลา…กำหนดมาตรฐาน AI ไทย แบบไหน ? ใช้งานได้ประโยชน์ !!

Loading

    เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมา ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน   เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมา ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และได้ถูกกล่าวถึงและถูกจับตาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา   โเดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาชอง “ChatGPT” ที่เป็น “กระแสร้อนแรง” จนสั่นสะเทือนวงการ เอไอ เพราะเป็นแชตบอตสุดล้ำ สามารถสร้างข้อความตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถามอะไรตอบได้หมด!! จนมีความใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นทุกที??   ต่อไป “ChatGPT” จะกลายเป็น Digital Disruption โลกใบนี้หรือไม่ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง!! ว่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของหลายอุตสาหกรรม!?!   การที่เอไอ มีการใช้งานแพร่หลายมาขึ้น ให้หลายประเทศทั่วโลก เร่งพัฒนามาตรฐาน และหลักธรรมาภิบาล ปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance) เพื่อมาใช้เป็นกรอบในการประยุกต์ใช้ AI เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับของสากล   แล้วประเทศไทยมีความพร้อมแค่ไหน? เมื่อทุกวันนี้ ก็เริ่มมีการนำเอไอมาใช้อย่างแพร่หลายเช่นกัน ซึ่งทาง ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Clinic หรือ AIGC)  สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์…

แก๊งแรนซัมแวร์ ‘BianLian’ ขู่กรรโชกข้อมูลจากเหยื่อ

Loading

    สัปดาห์นี้ผมจะขอพูดถึงแรนซัมแวร์อีกหนึ่งตัวที่อยู่ในกระแสอย่าง “BianLian” ซึ่งเริ่มปฏิบัติการโดยการเปลี่ยนโฟกัสการโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อมาเป็นการเลือกเฉพาะข้อมูลที่พบบนเครือข่ายที่เข้าโจมตีและใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อขู่กรรโชกและเรียกค่าไถ่   โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชื่อดังได้เปิดเผยเกี่ยวกับการพัฒนาระบบของ BianLian ทำให้เห็นสัญญาณของกลุ่มภัยคุกคามที่พยายามขู่กรรโชกและเพิ่มแรงกดดันกับเหยื่อ เมื่อช่วงก.ค.ปีที่ผ่านมา   แก๊งแรนซัมแวร์นี้ได้ออกปฏิบัติการและสามารถเจาะระบบองค์กรที่มีชื่อเสียงหลายแห่งได้อย่างง่ายดาย โดยการติดตั้ง backdoor แบบ Go-based ที่กำหนดได้เองในการช่วยรีโมทเข้าไปยังอุปกรณ์ที่บุกรุก เมื่อปฏิบัติการเสร็จสิ้นจะแจ้งไปยังเหยื่อโดยให้เวลา 10 วัน สำหรับการจ่ายเงินค่าไถ่   เมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แก๊งแรนซัมแวร์ได้เปิดเผยชื่อองค์กรที่ตกเป็นเหยื่อรวมทั้งหมด 118 องค์กรผ่าน BianLian Portal โดยกว่า 71% ของเหยื่อคือบริษัทที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา   มีหนึ่งข้อสังเกตที่น่าสนใจจากการโจมตีครั้งล่าสุดคือ ความพยายามในการสร้างรายได้จากการละเมิดโดยไม่เข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อแต่ใช้วิธีการข่มขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลที่โจรกรรมมาให้รั่วไหล   แต่ในขณะเดียวกันแก๊งแรนซัมแวร์ก็ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยข้อมูลออกมาหรือแม้กระทั้งการเปิดเผยข้อเท็จจริงว่าองค์กรของเหยื่อถูกโจรกรรมข้อมูล หากเหยื่อยอมจ่ายเงินค่าไถ่ เพราะแก๊งเหล่านี้อ้างว่าชื่อเสียงขององค์กรมีผลต่อธุรกิจของเหยื่อ ดังนั้นหากภาพลักษณ์ของเหยื่อได้รับความเสียหาย พวกเขาก็จะเสียประโยชน์ด้วยเช่นกัน   ยิ่งไปกว่านั้น BianLian ได้หยิบยกประเด็นด้านกฏหมายและวิเคราะห์เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เหยื่ออาจต้องเผชิญหากมีการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าองค์กรนั้น ๆ กำลังประสบกับการถูกคุกคามและการละเมิด   ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่อาจทราบได้เลยว่าทำไม BianLian ถึงยอมทิ้งกลยุทธ์การเข้ารหัสเพื่อแฮ็กข้อมูลอาจจะเป็นเพราะ Avast ได้เปิดตัวอุปกรณ์ถอดรหัสฟรีในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา…

‘แฮ็กเกอร์’ระบาด ข้อมูลรั่ว..ใครรับผิดชอบ

Loading

  องค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ รวมไปถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่กุม “ความลับ” ของคน ลูกค้า ผู้ใช้บริการเอาไว้ ต้องไม่นิ่งนอนใจ หาทางรับมือป้องกันการรั่วไหล หรือการถูกโจมตีจากบรรดาแฮกเกอร์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะต้องทุ่มงบประมาณมากสักเท่าไหร่ในการรับมือ “ก็ต้องทำ   ประเทศไทยมีแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเชิงปริมาณและความรุนแรง   เหตุการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทวีความรุนแรงมากขึ้น รูปแบบการโจมตีมีแนวโน้มพัฒนาตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป   ภัยคุกคามเหล่านี้ ส่งผลต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยของสังคมเศรษฐกิจของประเทศ   ยิ่งเราต้องพึ่งพาเครื่องมือดิจิทัลในชีวิตประจำวันมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ สูญเสียข้อมูลที่มีความสำคัญ สูญเสียทรัพย์สินเงินทอง สูญเสียชื่อเสียง   ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นหนึ่งที่ยังวนเวียนอยู่ในสังคมไทย และเป็นประเด็นที่ทุกคนต้องตระหนักให้มาก คือ การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล จะทั้งข้อมูลอ่อนไหว หรือ ไม่อ่อนไหว ก็ไม่ควรหลุดออกมา สร้างความเสียหาย หวาดกลัวให้กับเจ้าของข้อมูล   องค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ รวมไปถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่กุม “ความลับ” ของคน ลูกค้า ผู้ใช้บริการเอาไว้ ต้องไม่นิ่งนอนใจ หาทางรับมือป้องกันการรั่วไหล หรือการถูกโจมตีจากบรรดาแฮกเกอร์ทั้งในประเทศ…

ทำความรู้จักทหารชั้นผู้น้อย ผู้เผยแพร่เอกสารลับสะเทือนอเมริกา ตั้งแต่อายุ 21 ปี

Loading

  ทางการสหรัฐฯ จับกุมทหารอากาศ สังกัดกองกำลังพิทักษ์ชาติ วัย 21 ปี ฐานเผยแพร่เอกสารลับ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา   ทหารนายนี้ คือ จ่าอากาศเอก แจ็ค เทเซรา (Jack Teixeira) เชื่อว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มแชทเกมออนไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เขานำเอกสารลับมาเผยแพร่   ภาพถ่ายทางอากาศ แสดงให้เห็น เจ้าหน้าที่สำนักสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ดำเนินการจับ เทเซรา จากบ้านของเขาในเมืองไดห์ตัน เมืองขนาดเล็กที่มีประชากรเพียง 8,000 คน และอยู่ห่างจากเมืองบอสตัน เพียงหนึ่งชั่วโมง โดยการเดินทางด้วยรถ   นอกเหนือจาก เจ้าหน้าที่เอฟบีไอพร้อมอาวุธครบมือ ตำรวจยังปิดถนนบริเวณโดยรอบผู้ต้องสงสัย โดยประชาชนในพื้นที่บอกกับรอยเตอร์ว่า “มีทหารพร้อมปืนไรเฟิล 6-8 คน เดินไปมา… แถบนี้เป็นชุมชนสงบ ๆ”   ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า เขาจะถูกตั้งข้อหาตามกฎหมาย “จารกรรม” ซึ่งเป็นข้อหาอาญาฐานเผยแพร่และส่งต่อ ข้อมูลลับด้านความมั่นคงของชาติ และมีกำหนดปรากฏตัวต่อศาลในเมืองบอสตัน วันนี้  …

สหรัฐฯ เสียหายขนาดไหน? ทหารวัย 21 ทำเอกสารข่าวกรองลับรั่วไหล

Loading

  กรณีข้อมูลข่าวกรองลับของสหรัฐฯ รั่วไหลครั้งล่าสุด ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนว่า มันจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ อย่างมากมายมหาศาล การจับกุมตัวนายแจ็ค เตเซรา ทหารหนุ่มวัย 21 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้โพสต์ข้อมูลลงบนโซเชียลมีเดีย ยิ่งตอกย้ำถึงความสะเพร่าและไร้ความสามารถของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการจัดการข้อมูลลับ ในขณะที่ความสามารถในการควบคุมข้อมูลลับของสหรัฐฯ กำลังถูกตั้งคำถาม การรั่วไหลครั้งนี้ก็สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในสายตาชาติพันธมิตรไปแล้ว   อดีตเจ้าหน้าที่กลาโหมและผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า กรณีเอกสารลับของสหรัฐฯ รั่วไหลสู่โลกอินเทอร์เน็ตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สร้างความอับอายแก่รัฐบาลของชาติมหาอำนาจทางทหารอันดับ 1 ของโลกแห่งนี้ ทำให้วิธีการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองของเพนตากอนตกอยู่ในอันตราย เปิดโปงยุทธศาสตร์ต่าง ๆ บ่อนทำลายความเชื่อใจของชาติพันธมิตร   ซ้ำร้ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตำรวจสหรัฐฯ จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นผู้นำข้อมูลลับเหล่านี้เข้าสู่อินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าคือนายแจ็ค เตเซรา นายทหารระดับล่างวัย 21 ปี สังกัดกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทางอากาศ (ANG) ในรัฐแมสซาชูเซตส์   การที่ผู้เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของข้อมูล ทำเกิดการตั้งคำถามเรื่องการควบคุมข้อมูลความลับที่สำคัญที่สุด หลังจากเคยเกิดกรณีของนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่เผยแพร่ข้อมูลลับจำนวนมหาศาลเมื่อทศวรรษก่อน   นายบิล ลีนน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมในยุครัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท…

สุดล้ำ EchoSpeech แว่นจับเสียงพูด แค่กระซิบเบา ๆ ก็ได้ยิน

Loading

  [กระซิบปลดรหัส] ปัจจุบันในหลาย ๆ อุปกรณ์หรือสมาร์ตโฟนนั้น ต่างก็มีฟีเจอร์รับคำสั่งผ่านเสียง ที่ผู้พูดสามารถเปิดใช้งานแอปฯ หรือค้นหาจากคีย์เวิร์ดที่อ่านออกเสียงได้เลย แต่หากใครไม่ถนัดออกเสียงจริง ๆ อยากแค่กระซิบเบา ๆ เป็นไปได้ไหม EchoSpeech อาจเป็นคำตอบ   Ruidong Zhang นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Cornell พร้อมทีม ได้เผยงานพัฒนาใหม่อย่าง EchoSpeech แว่นโซนาร์ที่ช่วยจับเสียงของผู้ใช้ขณะสวมแว่นได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องอ่านออกเสียงเลย เพียงกระซิบเบา ๆ เช่น สั่งให้ Play/Pause เพลงที่กำลังเล่น สั่งพิมพ์ข้อความแทนคียบอร์ดได้ และสั่งปลดล็อครหัสใน PC หรือสมาร์ตโฟนก็ยังได้     ในด้านเทคนิดนั้น ตัวแว่นจะรับคลื่นเสียงผ่านใบหน้าของผู้ใช้ และตรวจจับการเคลื่อนไหวของปากได้ โดยผ่านทางชุดไมโครโฟนขนาดย่อม จากนั้นก็ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์โปรไฟล์เสียงสะท้อนแบบเรียลไทม์ จนได้ความแม่นยำมาถึง 95% สร้างจากไฟล์ข้อมูล Text ที่แปลงมาจากเสียงของผู้ใช้ผ่านตัวแว่นนี้เอง   ทั้งนี้ยังพัฒนาในรูปแบบแว่นตา ช่วยให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมองกล้องหรือเอาไมค์จากสมาร์ทโฟนจ่อปาก แต่สามารถพูดกระซิบได้ที ผ่านตัวแว่นที่สวมอยู่นั้นเอง ซึ่งทำงานแบบไร้สายได้…