ความลับไม่มีในโลก(บล็อกเชน) จริงหรือ?

Loading

  โดยข้อมูลที่ถูกส่งไปเก็บใน Blockchain นั้นจะอยู่ในรูปแบบของ Transaction ซึ่ง Transaction ทั้งหมด ก่อนที่จะถูกบันทึกลงไปบน Blockchain จะต้องถูกยืนยันความถูกต้องด้วย Node ต่าง ๆ ที่เป็นหน่วยประมวลผลแบบกระจายศูนย์ที่ทำงานเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย แต่มันเป็นเรื่องที่เหมาะสมรึเปล่า ที่จะเอาข้อมูลต่างๆลงไปเก็บอยู่บน Blockchain ? ถ้าถามถึงการประยุกต์ใช้งาน Blockchain ในวงการต่าง ๆ เช่น ในวงการแพทย์ มักจะมีคนยกตัวอย่างเคส การใช้ Blockchain ในการเก็บข้อมูลประวัติการรักษาของคนไข้ โดยอ้างถึงข้อดีของ Blockchain ว่าข้อมูลประวัติการรักษาไม่มีการสูญหาย สามารถแชร์กันระหว่างโรงพยาบาลได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินโดยที่ไม่ต้องส่งเรื่องไปขอข้อมูลที่โรงพยาบาลที่คนไข้ไปตรวจอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าเหตุไม่ฉุกเฉินล่ะ ? คนไข้ของโรงพยาบาลแต่ละคนโอเคมั้ยกับการเก็บข้อมูลประวัติการรักษาบนระบบ Blockchain ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ข้อมูลในการรักษาบางอย่างควรจะถูกเก็บเป็นความลับ คงไม่มีใครอยากจะเปิดเผยว่าเป็นโรคอะไรอยู่บ้างกับสาธารณะถูกมั้ย ? ถ้าไม่โอเค เราจะมีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะเก็บข้อมูลบน Blockchain โดยได้ทั้งความคงทนถาวรของข้อมูล และการไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัวไป วันนี้ทาง Token X ในฐานะผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกิจโทเคนดิจิทัลแบบครบวงจร และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Blockchain ได้รวบรวมวิธีต่าง…

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขของญี่ปุ่น

Loading

  โลกในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันทางการค้าสูง การเข้าถึงและครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญเพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดความได้เปรียบเชิงธุรกิจได้   แต่ในขณะเดียวกัน การดำเนินการดังกล่าวโดยปราศจากการควบคุมย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลได้ ดังนั้นแล้ว การตรากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญยิ่ง   ประเทศไทยได้มีการตราพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพและเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ   เนื่องจากในปัจจุบันเราจะพบปัญหาการละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ หรือโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอันส่งผลให้เกิดความเสียหายกับบุคคลจำนวนมาก   กฎหมายดังกล่าวจะมีกำหนดบังคับใช้ทั้งฉบับในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2565 อันส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงหน่วยงานของรัฐต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้   สำหรับผู้ประกอบการที่มีคู่ค้าเป็นชาวต่างชาติ นอกจากจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยแล้ว ก็จำต้องศึกษากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศคู่ค้าด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดกรณีการทำผิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศนั้นๆ   ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญของผู้ประกอบการไทย และเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของเอเชียที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล   ญี่ปุ่นได้ตรากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (個人情報保護法 – Act on Protection of Personal Information – APPI) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 และมีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการทั้งหมด ที่เสนอขายสินค้าและบริการที่มีการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น   ไม่ว่าจะมีที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นหรือไม่ก็ตาม และหลังจากที่ได้มีการบังคับใช้ ก็ได้มีการตรากฎระเบียบอื่น…

‘เธียรชัย’ ยัน ‘1 มิ.ย.’ ไทยบังคับใช้ ‘ก.ม. PDPA’

Loading

  ประธาน คกก.คุ้มครองส่วนบุคคล ยัน 1 มิ.ย.ไทยจะประกาศใช้กฎหมาย PDPA เป็นประเทศที่ 3 ของอาเซียน ดึงงานวิจัยจุฬาเป็นวิธีการปฎิบัติ ไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย สร้างการรับรู้ให้องค์กรเตรียมตัว ย้ำประกาศล่าช้าตัดโอกาสประเทศ ยกระดับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลองค์กรไทยสู่มาตรฐานสากล   นายเธียรชัย ณ นคร ประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” และสื่อในเครือเนชั่น ว่า ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ โดยไม่เลื่อนการบังคับใช้ ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เสนอ เนื่องจากขณะนี้มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา   ขณะเดียวกัน ยังมองว่าการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิพื้นฐาน และจะกลายระเบียบใหม่ของโลก ที่ขณะนี้มีประเทศในกลุ่มอียู และกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่อียู 50 ประเทศ การบังคับใช้ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีมาตรฐานไม่น้อยกว่า…

วิธีป้องกันโดนขโมยพัสดุ โดนโกง จากการรับสินค้าที่ซื้อทางออนไลน์

Loading

    วิธีป้องกันโดนขโมยพัสดุ โดนโกง จากการรับสินค้าที่ซื้อทางออนไลน์ เชื่อว่าทุกท่านต้องเคยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มาแล้วเช่นเดียวกับที่ต่างประเทศก็นิยมสั่งซื้อของออนไลน์เช่นกัน และสิ่งที่ตามมาคือการโกงพัสดุ ซึ่งไม่ได้แค่เกิดขึ้นแค่ในไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วยเช่นกัน คุณจะป้องกันจากการโกง หรือโดนขโมยอย่างไร บทความนี้รวบรวมวิธีป้องกันโดนโกง โดนพัสดุในไทย ทั้งที่เกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ ให้เหมาะสมกับผู้ซื้อของออนไลน์   การเพิ่มขึ้นของการโจรกรรมพัสดุ Safewise ระบุว่า 64.1% ของชาวอเมริกันเคยถูกขโมยพัสดุภัณฑ์ในปี 2020 จากการขโมยพัสดุภัณฑ์ประมาณ 210 ล้านชิ้นในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว และแต่ละแพ็คเกจมีมูลค่าประมาณ 50-200 ดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายในการขโมยบรรจุภัณฑ์มีมูลค่ารวมกันประมาณ 2.625 พันล้านดอลลาร์ต่อปี กับ 75% ของชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่เจอเหตุการณ์ถูกขโมยพัสดุภัณฑ์   วิธีป้องกันโดนขโมยพัสดุ โดนโกง จากการซื้อของออนไลน์   การป้องกันการถูกโจรกรรมพัสดุนั้น น่าเสียดายที่การขโมยบรรจุภัณฑ์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่นอกบ้านของคุณเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดส่ง ในครั้งล่าสุดและเกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ อาจมีกรณีการขโมยบรรจุภัณฑ์เกิดขึ้นภายในคลังสินค้าหรือระหว่างการจัดส่ง ด้วยเหตุผลนี้ การป้องกันตัวเองจากการโจรกรรมบรรจุภัณฑ์ตลอดทุกขั้นตอนของกระบวนการซื้อของออนไลน์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด 1. สมัครประกันพัสดุ   iT24Hrs-S   แม้ว่าผู้ค้าปลีกทุกรายจะไม่ได้เสนอประกันแพ็คเกจ แต่บริการจัดส่งจำนวนมากก็มีให้ หากคุณกำลังซื้อสินค้าราคาแพง คุณอาจต้องการพิจารณาขอบริษัทจัดส่งให้ทำประกันพัสดุภัณฑ์ไว้…

No-Fly Zone! ปัญหาและทางเลือก

Loading

  “เขตห้ามบิน ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องยูเครนเท่านั้น แต่จะช่วยคุ้มครองประเทศในกลุ่มพันธมิตรแอตแลนติกจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียอีกด้วย”   ประธานาธิบดีเซเลนสกี     “ถ้าเรา [นาโต] กระทำ [ตามคำขอของประธานาธิบดีเซเลนสกี] เราจะจบลงด้วยการเกิดของสงครามเต็มรูปในยุโรป… นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยความเจ็บปวด”   เจนส์ สโตลเต็นเบิร์ก (เลขาธิการนาโต)     จากถ้อยแถลงที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของประธานาธิบดีเซเลนสกี และเกิดอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนับตั้งแต่กองทัพรัสเซียตัดสินใจยาตราทัพเข้าสู่ดินแดนของยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คือคำขอให้สหรัฐอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กำหนดให้น่านฟ้าของยูเครนเป็น “เขตห้ามบิน” (no-fly zone)   แต่จะเห็นได้ชัดว่าแม้กองทัพรัสเซียจะโจมตียูเครนหนักเพียงใดก็ตาม รัฐบาลตะวันตกก็ไม่ยอมตอบรับคำร้องขอของผู้นำยูเครนแต่อย่างใด จนทำให้คนบางส่วนมีความรู้สึกว่า ในสถานการณ์สงครามที่กำลังเกิดขึ้นนั้น เสมือนกับการที่ตะวันตกทิ้งยูเครนให้ต้องเผชิญกับการโจมตีของรัสเซียอย่างโดดเดี่ยว   ดังนั้น บทความนี้จะนำเสนออย่างสังเขปถึงแนวคิดด้านความมั่นคงที่เรียกว่า “เขตห้ามบิน” คืออะไร หากมีการประกาศใช้แล้ว จะเกิดผลอะไรตามมา และถ้าไม่ประกาศใช้แล้ว ฝ่ายตะวันตกจะมีอะไรเป็นทางเลือก?     นิยาม แนวคิดเรื่องการประกาศ “เขตห้ามบิน” เป็นเรื่องใหม่ในทางการเมืองระหว่างประเทศ และเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในยุคหลังสงครามเย็น และหากย้อนกลับไปในยุคสงครามเย็น เราจะไม่เห็นแนวคิดนี้มาก่อน ดังนั้น…

ผู้เชี่ยวชาญไฟฟ้า สภาวิศวกร แนะ “ปิดสวิซต์-ปลดทุกปลั๊ก” พร้อมเช็ค 10 เครื่องใช้ไฟฟ้าสุ่มเสี่ยง ก่อนทิ้งบ้านยาว

Loading

  กรุงเทพฯ 12 เมษายน 2565 – ผู้เชี่ยวชาญไฟฟ้า สภาวิศวกร แนะ “ปิดสวิซต์-ปลดทุกปลั๊กไฟ” พร้อมเช็ค 10 เครื่องใช้ไฟฟ้าสุ่มเสี่ยงก่อนทิ้งบ้านยาว อาทิ โทรทัศน์ พัดลม คอมพิวเตอร์ เต้ารับพ่วง โดยหากจำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟไว้ควรตรวจสอบคุณภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ได้มาตรฐาน และปลอดภัยอยู่เสมอ อาทิ สายไฟจะต้องติดตั้งได้มาตรฐานไม่มีรอยฉีกขาดและหมดสภาพการใช้งาน เต้ารับจะต้องใช้ชนิดที่ได้มาตรฐานแบบมีสายดินและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ติดตามข่าวสารและความรู้ใกล้ตัวเกี่ยวกับงานวิศวกรรม ตลอดจนความเคลื่อนไหวของสภาวิศวกรและวิศวกรอาสาที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า ความเสียหายเชิงโครงสร้างของอาคารและการเกิดอัคคีภัยจากไฟฟ้า ฯลฯ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก https://web.facebook.com/coethailand     นายกิตติพงษ์ วีระโพธิ์ประสิทธิ์ อุปนายกสภาวิศวกร คนที่ 1 สภาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เผยว่า ทุกช่วงเทศกาลหรือช่วงที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ยาวหลายวันต่อเนื่องประชาชนมักจะมีแผนเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนหย่อนใจคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานเป็นเวลานานจนอาจจะหลงลืมไปว่ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่จำเป็นต้อง ‘ปิด(สวิซต์)’ หรือ ‘ปลด(ปลั๊กไฟ)’ เมื่อไม่ได้ใช้งาน   ในนาม ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า’ จากสภาวิศวกร จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงย้ำเตือนภาคประชาชนถึงการปฏิบัติดังกล่าว พร้อมเช็ค10 เครื่องใช้ไฟฟ้าสุ่มเสี่ยงก่อนทิ้งบ้านยาว เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ ทั้งไฟรั่ว ไฟช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร และกระแสฟ้าผ่ามาตามสายไฟฟ้า…