เพราะอะไรการโจมตีแบบ ‘Zero-click’ ถึงอันตราย(1)

Loading

  แอปรับส่งข้อความต่างๆ มักตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี   การโจมตีแบบ Zero-click มีความแตกต่างจากการโจมตีทางไซเบอร์ในรูปแบบอื่นๆ เพราะไม่ต้องการการโต้ตอบใดๆ จากผู้ใช้งานที่ถูกกำหนดเป้าหมาย เช่น การคลิกลิงก์ การเปิดใช้มาโคร หรือการเปิดตัวโปรแกรมสั่งการ มักใช้ในการโจรกรรมทางอินเทอร์เน็ต และร่องรอยที่ทิ้งไว้มีน้อยมาก   จุดนี้เองที่ทำให้เป็นอันตราย เป้าหมายของการโจมตีแบบ Zero-click สามารถเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแม้แต่อุปกรณ์ไอโอที   เมื่ออุปกรณ์ของเหยื่อถูกโจมตี เหล่าบรรดาแฮกเกอร์สามารถเลือกที่จะติดตั้งซอฟต์แวร์ หรือการเข้ารหัสไฟล์และเก็บไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ โดยทั่วไปแล้ว เหยื่อจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า อุปกรณ์นั้นถูกแฮกเมื่อไหร่และอย่างไร ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานแทบไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย   การโจมตีแบบ Zero-click มีเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และสปายแวร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งคือ Pegasus ของ NSO Group ซึ่งใช้ในการเฝ้าติดตามนักข่าว นักเคลื่อนไหว ผู้นำระดับโลก และผู้บริหารของบริษัท   แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าเหยื่อแต่ละรายตกเป็นเป้าหมายได้อย่างไร และแอพรับส่งข้อความต่างๆ มักตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีแบบนี้ เนื่องจากแอพเหล่านี้ได้รับข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งที่ไม่รู้จักโดยไม่ต้องดำเนินการใดๆ จากเจ้าของอุปกรณ์   ส่วนใหญ่แล้ว ผู้โจมตีจะใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องในวิธีการตรวจสอบหรือประมวลผลข้อมูลโดยการโจมตีมักอาศัยช่องโหว่ Zero-days ที่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ไม่รู้จัก โดยไม่ทราบว่ามีอยู่จริง ผู้ผลิตจึงไม่สามารถออกแพตช์ (patches)…

ห้องเรียนออนไลน์ไม่ปลอดภัย EdTech ขายข้อมูลเด็ก

Loading

  ห้องเรียนออนไลน์ไม่ปลอดภัย เมื่อกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) แอบติดตามข้อมูลเด็กโดยมิชอบ และขายให้กับอุตสาหกรรมโฆษณา   กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อฮิวแมนไรท์วอท์ช (Human Rights Watch) องค์กรรณรงค์ระหว่างประเทศได้เผยแพร่ผลการสอบสวนบริการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) ที่มีนักเรียนหลายล้านคนเข้าร่วมการเรียนรู้เสมือนจริงเพราะไม่สามารถไปโรงเรียนได้ในช่วงของการระบาดใหญ่โควิด-19 ซึ่งดำเนินการสอบสวนในช่วง มี.ค. – ส.ค. 2021 พบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลและพฤติกรรมออนไลน์ของนักเรียนถูกติดตามผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์เพื่อการศึกษาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา และในหลายกรณีมีการแชร์ข้อมูลให้กับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อการโฆษณาด้วย   พบว่า EdTech กว่า 146 ผลิตภัณฑ์ จาก 164 บริการ หรือกว่า 89% ใน 49 ประเทศที่ถูกตรวจสอบ มีส่วนร่วมในแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลที่ “ละเมิดสิทธิเด็ก” หรือ “มีความเสี่ยง” ต่อการเฝ้าติดตามและรวบรวมการใช้ข้อมูลของเด็กโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว หรือผู้ปกครอง เช่น ตัวตน ตำแหน่ง กิจกรรม และพฤติกรรมออนไลน์ของพวกเขา รวมถึงข้อมูลเด็ก ครอบครัว และเพื่อน   ฮึน จังฮัน (Hye…

เผยฐานลับทัพโดรนอิหร่าน ซ่อนตัวในถ้ำภูเขาลึกหลายร้อยเมตร

Loading

  สื่อของรัฐบาลอิหร่าน อวดฐานโดรนใต้ดิน แต่ไม่ยอมเปิดเผยตั้งว่าอเยู่แห่งใด   สำนักข่าวรอยเตอร์ – กองทัพอิหร่านได้ให้รายละเอียดบางอย่าง (แต่ไม่ใช่ตำแหน่งที่แน่นอน) ของฐานทัพใต้ดินที่เก็บรักษาโดรนทางทหาร สื่อของรัฐรายงานเมื่อวันเสาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เดือดพล่านในอ่าวเปอร์เซีย   สถานีโทรทัศน์ของทางการ ระบุว่า โดรน 100 ลำถูกเก็บไว้ใจกลางเทือกเขาซากรอส (Zagros mountains) รวมถึงโดรนรุ่น Ababil-5 ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธ Qaem-9 ซึ่งเป็นโดรนที่ผลิตในอิหร่านแบบเดียวกับโดรนรุ่น Hellfire ที่โจตีจากอากาศสูพื้นดินของสหรัฐ   “ไม่ต้องสงสัยเลย โดรนของกองกำลังติดอาวุธของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคือกองกำลังที่มีอำนาจมากที่สุดในภูมิภาค” พล.ต.อับดุลราฮิม มูซาวี ผู้บัญชาการกองทัพ กล่าว “ความสามารถของเราในการอัพเกรดโดรนนั้นไม่สามารถหยุดยั้งได้” เขากล่าวเสริม   ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านกล่าวว่าเขาได้บินไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์เป็นเวลา 45 นาทีในวันพฤหัสบดีจากเมืองเคอร์มันชาห์ (Kermanshah) ทางตะวันตกของอิหร่านไปยังไซต์โดรนลับใต้ดิน เขาได้รับอนุญาตให้ถอดผ้าปิดตาเมื่อมาถึงฐานลับแล้วเท่านั้น   ภาพโทรทัศน์แสดงให้เห็นแถวของโดรนติดขีปนาวุธในอุโมงค์ ซึ่งพวกเขากล่าวว่าอยู่ลึกในใต้ดินหลายร้อยเมตร   รายงานทางโทรทัศน์มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติกรีก 2 ลำในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบโต้ต่อการยึดน้ำมันอิหร่านโดยสหรัฐฯ จากเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งกรีซ   เมื่อเดือนที่แล้ว ทางการกรีกได้ยึดเรือ…

“PDPA” 1 มิ.ย.65 กรณีติด “กล้องวงจรปิด” “กล้องหน้ารถ” ใช้แบบไหนผิดกฎหมาย?

Loading

  เริ่มแล้ว! “PDPA” หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บังคับใช้วันนี้วันแรก (1 มิ.ย.65) แต่ยังมีหลายกรณีที่ประชาชนสับสน หนึ่งในนั้นคือกรณี “กล้องวงจรปิด” และ “กล้องหน้ารถ” หากถ่ายติดภาพผู้อื่นโดยไม่ยินยอม จะผิด “กฎหมาย PDPA” หรือไม่? แม้ว่าก่อนหน้านี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม จะออกมาชี้แจงแล้วว่า เจตนาของการบังคับใช้ “กฎหมาย PDPA” มุ่งคุ้มครองข้อมูล-สิทธิ์ ประชาชน ไม่ใช่การนำมาจับผิด หากมีการถ่ายรูป-โพสต์รูป แล้วติดใบหน้าผู้อื่นมา หากไม่เกิดความเสียหายต่อเจ้าตัว ก็สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ประชาชนยังมีข้อสงสัย นั่นคือ กรณีติด “กล้องวงจรปิด” และ “กล้องหน้ารถ” หากมีการถ่ายติดผู้อื่นมาโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม จะผิดกฎหมาย PDPA หรือไม่? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนไปหาคำตอบเรื่องนี้พร้อมกัน PDPA คืออะไร เป็นข้อมูลแบบไหน? PDPA ย่อมาจาก Personal Data Protection Act ซึ่งหมายถึง พ.ร.บ.…

สรุปชัด ‘ถ่ายรูปติดคนอื่น – โพสต์รูปติดคนอื่น’ ผิด พ.ร.บ. ‘PDPA’ ไหม?

Loading

  คลายข้อสงสัย พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ก่อนบังคับใช้จริง 1 มิ.ย. “ถ่ายรูป – แชร์ภาพ” ที่ติดคนอื่นโดยไม่ขออนุญาต ผิดกฎหมาย PDPA หรือไม่? เคลียร์ให้ชัดอีกครั้ง ก่อนที่กฎหมาย PDPA หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลบังคับใช้ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลวันที่ 1 มิ.ย.65 นี้ โดยยังมีข้อกำหนดบางข้อที่สร้างความสับสนโดยเฉพาะข้อ “การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” ที่ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน “PDPA” ย่อมาจาก “Personal Data Protection Act” หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่มีขึ้นเพื่อให้ภาคเอกชน และภาครัฐที่เก็บรวบรวมใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอน “ข้อมูลส่วนบุคคล” ในไทย ให้เป็นไปตามมาตรการปกป้องข้อมูลของผู้อื่นจากการถูกละเมิดสิทธิส่วนตัว โดยต้องขอความยินยอมจาก “เจ้าของข้อมูล” ก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยข้อมูลส่วนบุคคล ณ ที่นี้…

4 สิ่งที่ต้องทำก่อนขายคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก

Loading

  4 สิ่งที่ต้องทำก่อนขายคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก โดยการขายพีซีที่ใช้แล้วให้คนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณอาจต้องตรวจให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนตัวของเราไม่ถูกให้คนอื่นไปด้วย ดังนั้นการตรวจสอบก่อนขายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ปล่อยข้อมูลตัวเองให้หลุดไปพร้อมกับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กให้กับคนอื่น บทความนี้จึงบอกแนวทางเพื่อช่วยให้คุณขายคอมเก่าให้คนอื่นได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวล และได้ราคาที่ยุติธรรมด้วย 1. สำรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากคุณจะต้องลบข้อมูลส่วนตัวออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณก่อนขาย คุณควรสร้างข้อมูลสำรองของไฟล์ของคุณก่อน ซึ่งคุณสามารถกู้คืนไปยังอุปกรณ์เครื่องใหม่ได้ อย่าพึ่งพาการสำรองข้อมูลในเครื่องเนื่องจากเราจะต้องรีเซ็ตพีซี Windows ของคุณเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ที่จะล้างข้อมูลสำรองในเครื่องที่คุณมี ดังนั้น หากคุณสำรองข้อมูลไว้ในไดรฟ์เดียวกันกับที่ติดตั้ง Windows ไว้ คุณควรย้ายข้อมูลสำรองไปที่ระบบคลาวด์หรือ Harddisk 2. รีเซ็ตพีซี Windows ของคุณเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน การรีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงานจะคืนค่าคอมพิวเตอร์ของคุณกลับสู่สถานะเดิมโดยลบข้อมูลทั้งหมดออกจากฮาร์ดไดรฟ์ของคุณ ทางที่ดีควรรีเซ็ตอุปกรณ์เพื่อลบทุกอย่างในไดรฟ์ คุณสามารถรีเซ็ตพีซีหรือแล็ปท็อป Windows ของคุณโดยทำตามขั้นตอนด้านล่าง: 1. คลิกขวาที่ ปุ่ม Start ของ Windows แล้วเลือก Settings 2. ไปที่ Update & Security 3. ในแถบด้านซ้าย เลือกเมนู Recovery 4. ภายใต้ ตัวเลือก Reset This…