การปกป้องข้อมูลด้วยการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัม ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ได้จริงไหม

Loading

  รู้จัก การกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมและการรับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ด้วย QKD เหตุใด “โตชิบา” จึงลงทุนวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับ QKD และวิทยาศาสตร์ควอนตัมเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการป้องกันภัยทางไซเบอร์ วิกฤตโรคระบาดกำลังทำให้แรนซัมแวร์ในลักษณะ Double-threat , การโจรกรรมข้อมูล และการโจมตีด้วยเทคนิค Supply-chain attack ที่ซับซ้อนเพิ่มสูงขึ้น โชคยังดีที่อาชญากรทางไซเบอร์ถูกขัดขวางไว้ด้วยการเข้ารหัสในระดับองค์กร ซึ่งไม่อาจถูกเจาะเข้าไปได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ด้วยการมาถึงของการประมวลผลควอนตัม แม้แต่การปกป้องข้อมูลด้วยวิธีนี้ก็ตกอยู่ในอันตราย เมื่อขุมพลังในการประมวลผลอันทรงพลังอยู่ใกล้แค่เอื้อม อาชญากรทางไซเบอร์จะสามารถหาทางเจาะผ่านอัลกอริทึมการเข้ารหัสได้ งานวิจัยที่เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยได้แสดงให้เห็นแล้วถึงการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมในวิทยาการเข้ารหัส และอาชญากรทางไซเบอร์ก็กำลังจับตามองการพัฒนาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด นี่คือเหตุผลที่เรายกระดับงานวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับควอนตัมของโตชิบาเพื่อให้เท่าทันต่อผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ SpeQtral บริษัทด้านเทคโนโลยีควอนตัมที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเสนอโซลูชันด้านการสื่อสารที่ปลอดภัยในเชิงควอนตัมที่ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัม (QKD) ของโตชิบา การกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมคืออะไร การกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัม (QKD) ใช้ในการกระจายรหัสลับดิจิทัลที่สำคัญเพื่อปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูงที่จำเป็นอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมหลายภาคส่วน ข้อมูลที่ปลดล็อกจะเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อรหัสดิจิทัลที่ถูกต้องอยู่ในมือของผู้รับแล้วเท่านั้น แต่ปัญหาคือรหัสดิจิทัลอาจถูกขโมยหรือถูกใช้ในทางที่ผิดได้ แฮกเกอร์ทางไซเบอร์สามารถปลดล็อกข้อมูลที่ขโมยมาได้โดยใช้รหัสที่มีความปลอดภัยบกพร่องได้ ส่วนสำคัญของการรักษาความปลอดภัยด้วย QKD ขึ้นอยู่กับการเข้ารหัสแต่ละบิตผ่านโฟตอน (อนุภาคของแสง) แต่ละตัวที่ถูกส่งออกมา ตัวอย่างเช่น ผ่านเส้นใยแก้วนำแสงทั่วไป เนื่องจากความพยายามในการอ่านโฟตอนจะเปลี่ยนการเข้ารหัสที่ทำไว้ จึงทำให้การรักษาความลับของรหัสแต่ละตัวสามารถได้รับการทดสอบและยืนยันได้ นอกจากนี้ QKD ยังคงมีความปลอดภัยแม้จะมีความก้าวหน้าทางด้านคณิตศาสตร์และการประมวลผลในอนาคต รวมถึงพลังในการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์ควอนตัมอีกด้วย ซึ่งไม่เหมือนกับโซลูชันด้านความปลอดภัยอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยี QKD ข้อมูลที่เข้ารหัสไม่เพียงแต่จะปลอดภัยจากการปลดล็อก แต่ความพยายามใดๆ ในการแฮ็กรหัสดิจิทัลยังถูกตรวจจับได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลและข้อความต่างๆ จะเข้าถึงได้โดยผู้รับที่ตั้งใจไว้เท่านั้น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเเห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) กำลังดำเนินการเพื่อให้เทคโนโลยี QKD ใช้งานได้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในอุตสาหกรรมเพื่อบ่มเพาะ “ตัวเข้ารหัสที่ทนต่อควอนตัม” ประเภทใหม่ลงในบริการด้านการเงิน ภาครัฐ และธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพที่ทำงานร่วมกับข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูง นอกจากนี้ ประเทศไทยก็มีการค้นคว้าวิจัยด้านวิทยาการเข้ารหัสที่เข้มข้น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ร่วมมือกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ในการศึกษาระบบการดักจับอะตอมเดี่ยว นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยอื่นที่กำลังศึกษาเทคโนโลยีควอนตัม เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ รวมถึงกิจการเพื่อสังคมอย่าง บริษัท ควอนตัมเทคโนโลยีฟาวเดชั่น (ประเทศไทย) จำกัด…

มายังไง!? Google Maps ถ่ายติดเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit Stealth Bomber

Loading

  ตั้งแต่มี Google Maps ให้เราได้ใช้กันมา ก็เคยมีเหตุการณ์ที่ภาพถ่ายจากดาวเทียมถ่ายติดภาพแปลก ๆ ออกมาให้่เราได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ แต่รอบนี้ก็ไม่ธรรมดาอีกแล้วครับ ถึงขนาดถ่ายติดเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน ‘B-2 Spirit Stealth Bomber’ ที่ยากต่อการตรวจจับได้เลยทีเดียว ผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ‘Hippowned’ ตาดี เจอเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit Stealth Bomber ในภาพถ่ายดาวเทียมของ Google Maps ขณะที่กำลังบินอยู่เหนือทุ่งนาในรัฐมิสซูรี ห่างประมาณ 50 ไมล์ทางตะวันออกจากเมืองแคนซัสซิตี   ซึ่งถ้าใครอยากดูพิกัดใน Google Maps ก็สามารถตามไปดูไปเลยครับตามพิกัดนี้เลยครับ 39°01’18.5”,-93°35’40.5” ประวัติ B-2 Spirit Stealth Bomber คือเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนที่ผลิตในสมัยสงครามเย็น โดยบริษัท นอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) พร้อมเทคโนโลยีอำพลางขั้นสูงที่ยากต่อการตรวจจับด้วยระบบป้องกันทางอากาศยาน สามารถบรรทุกระเบิดได้ถึง 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 18,000 กิโลกรัม) รวมไปถึงอาวุธนิวเคลีย…

Cybersecurity ปราการด่านหน้าของโลกดิจิทัล

Loading

  ทุกวันนี้หลายบริษัท ทำงานหรือทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้น ธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity จึงเป็นที่สนใจ และคาดว่าจะเติบโตสูงมากในอนาคต หลังจากเกิดการแพร่ระบาดในปี 2020 เป็นต้นมา โลกเข้าสู่ยุคแห่ง Digital อย่างเต็มรูปแบบ การใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากการทำงานที่ออฟฟิศกลับกลายเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน พฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกรรมทางการเงินถูกทำผ่านระบบ Digital Banking มากขึ้น การพบแพทย์ทางไกลผ่านแอพพลิเคชั่นก็เป็นที่นิยมมากขึ้นในชั่วพริบตา ส่งผลให้ข้อมูลสำคัญจำนวนมากมาย ถูกส่งผ่านบนโลกออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะมีบทบาทสำคัญและน่าจะเติบโตไปพร้อมกับโลก Digital โลกเข้าสู่ยุค Digital ในทุกอุตสาหกรรม ข้อมูลสำคัญอาจเป็นเป้าหมายของอาชญากรทางไซเบอร์ ปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าทุกอิริยาบถในการดำเนินชีวิตขับเคลื่อนอยู่บนโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ธุรกรรมทางการเงิน การซื้อสินค้า การศึกษา หรือแม้กระทั่งการพบแพทย์ ซึ่งถ้าหากแนวโน้มนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องก็จะยิ่งทำให้ข้อมูลสำคัญต่างๆ อาทิ ข้อมูลความลับทางธุรกิจ ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ถูกถ่ายโอนเข้าไปสู่โลกดิจิทัลเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเผินๆ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลสำคัญเหล่านั้นอาจกำลังตกเป็นเป้าของอาชญากรทางไซเบอร์ ซึ่งจะนำไปสู่การถูกโจรกรรมข้อมูล และสร้างความเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาลก็เป็นได้   Cybersecurity เชื่อมโยงกับทุกอุตสาหกรรม   การถูกโจรกรรมทางไซเบอร์พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และความเสียหายมีมูลค่าสูงขึ้น…

ครบรอบ 17 ปี นักวิจัย ห่วงการรับมือสึนามิ ยังขาดความตื่นตัว-อพยพไม่ทัน

Loading

  จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศลาวและส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ จนเกิดกระแสในโลกโซเชียลติดอันดับ 2 ของทวิตเตอร์ประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าชุดโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวมีหลายรูปแบบ บางแบบจะไม่สามารถเตือนภัยได้ แต่บางรูปแบบอาจจะเตือนภัยได้แต่ก็เพียงไม่กี่สิบวินาทีก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง ในกรณีภาคเหนือของประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งส่งผลรุนแรงในระยะใกล้จุดศูนย์กลาง จึงเป็นแผ่นดินไหวในรูปแบบที่ไม่สามารถเตือนภัยได้  ส่วนกรณีของกรุงเทพมหานคร การสั่นสะเทือนจะเกิดจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่มีศูนย์กลางห่างไกลออกไปนับร้อยกิโลเมตร ในกรณีเช่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว ซี่งอาจจะเตือนได้เพียง 10-20 วินาทีก่อนที่คลื่นแผ่นดินไหวจะวิ่งมาถึงกรุงเทพฯ ระยะเวลาเตือนภัยสั้น ๆ นี้จึงอาจไม่เพียงพอที่จะอพยพผู้คนออกจากอาคาร แต่อาจช่วยให้หลบเข้าที่ปลอดภัยได้ หรืออาจนำมาใช้ในการชะลอความเร็วของรถไฟความเร็วสูงที่จะมีในอนาคต เพื่อให้รถวิ่งช้าลงและไม่ตกรางจนเกิดอันตราย แนะวิธีป้องกันประชาชนต้องมีความพร้อม อพยพอยู่เสมอ สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นมีหลายรูปแบบ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมืองโกเบเมื่อหลายสิบปีก่อน และแผ่นดินไหวที่จังหวัดคุมาโมโตะ เป็นแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางใกล้ตัวเมืองมาก จึงไม่สามารถเตือนภัยได้ เพราะคลื่นแผ่นดินไหววิ่งเร็วมากด้วยความเร็วประมาณ 3-6 กิโลเมตร/วินาที ทำให้คลื่นแผ่นดินไหววิ่งมาถึงตัวเมืองในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นมีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาก ๆ ในทะเลที่อยู่ห่างจากชายฝั่งหลายร้อยกิโลเมตร กรณีเช่นนี้คลื่นแผ่นดินไหวจำเป็นต้องใช้เวลาหลายสิบวินาที หรืออาจมากกว่า 1…

ครบรอบ 17 ปี เหตุสึนามิถล่ม ตามส่องหอเตือนภัย-อาคารหลบภัยยังใช้งานได้

Loading

  ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.47 คลื่นยักษ์สึนามิถล่มจังหวัดชายฝั่งอันดามันของไทย มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000 คน ตามส่องหอเตือนภัยสินามิ-อาคารหลบภัย ในพื้นที่อันดามันยังใช้งานได้จริงหรือ ถ้านับย้อนไปจากวันนี้ (26 ธ.ค.) ปี 2547 รวมระยะเวลา 17 ปี ซึ่งเป็นวันที่คนทั่วโลกต่างก็รู้สึกถึงความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ซัดถล่มเข้าชายฝั่งของหลายประเทศ รวมทั้ง 6 จังหวัดอันดามันของประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์การครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง ถูกคลื่นถล่มราบเป็นหน้ากลอง มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไม่น้อยกว่า 5,000 ราย ยากที่หลายคนจะทำใจได้ แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนในพื้นที่หากเกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความสูญเสียชีวิตลงได้ นั่นคือการสร้างหอเตือนภัยทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน รวมทั้งการสร้างอาคารหลบภัยในพื้นที่ ซึ่งจนถึงวันนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าหอเตือนภัยทั้งหมดจะยังสามารถใช้การและส่งสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 16 ซึ่งดูแลพื้นที่อันดามันระบุว่า ในส่วนของหอเตือนภัยทั้งหมดในทุกพื้นที่ยังสามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้ตามปกติทุกหอ เนื่องจากมีการทดสอบทุกวันพุธเวลา 08.00 น. ขณะที่ นางสำเนียง มณีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง กล่าวว่า…

Google: การฟ้องคดีเพื่อหยุดมัลแวร์

Loading

        Google ได้ยื่นฟ้องต่อศาล District Court ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำเขต Southern District of New York เป็นคดีแรกที่ Google เอาเรื่องกับ botnet และเป็นคดีสำคัญที่จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์       เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา Google ได้ยื่นฟ้องแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย 2 คนและบุคคลไม่ทราบชื่ออีก 17 คนเป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันใช้ botnet เข้าไปก่อภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยใช้มัลแวร์ชื่อ Glupteba โดยถูกปล่อยไว้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้ดาวน์โหลดฟรี ในเว็บที่ดูภาพยนต์ streaming รวมทั้งเว็บ YouTube ปลอม เป็นต้น       Glupteba เป็นมัลแวร์ที่เมื่อแฝงตัวเข้าไปในคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็จะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์นั้นให้ทำหน้าที่เป็น botnet คือ เป็นตัวที่แพร่กระจายมัลแวร์ต่อไปได้ Botnet ของ…