-
AI Agent คือก้าวสำคัญขององค์กรในการยกระดับความปลอดภัย
-
ขององค์กรไทยในการนำ AI Agent มาใช้อย่างปลอดภัย
-
ผู้นำด้านความปลอดภัยไอทีในไทย 100% เห็นพ้องว่า AI Agent สามารถช่วยยกระดับความปลอดภัยขององค์กรได้
-
ความท้าทายสำคัญคือ ความกังวลเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล และความไม่มั่นใจในแนวทางการกำกับดูแล
-
การจะใช้ AI Agent ให้ได้ประสิทธิภาพและปลอดภัย องค์กรจำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่ง คือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้, การกำกับดูแลที่เหมาะสม และการลงทุนด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
-
การสร้างความเชื่อมั่นเป็นกลไกสำคัญสู่ความสำเร็จ
ยุคที่การใช้งาน AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน…
งานวิจัยล่าสุดโดย “เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce)” ผู้ให้บริการด้านระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระดับโลกเผย ระบบข้อมูลที่แข็งแกร่งและการกำกับดูแลที่เหมาะสม คือหัวใจสำคัญขององค์กรไทยในการนำ AI Agent มาใช้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลจากรายงานวิจัย “State of IT: Security Report” โดยเซลส์ฟอร์ซระบุว่า ผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีในประเทศไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI Agent แต่หลายองค์กรยังขาดความพร้อมในการนำมาตรการป้องกันที่เหมาะสมมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลระบุว่า ผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีในไทยถึง 89% ตระหนักว่าองค์กรจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด
ขณะที่ 100% เห็นพ้องกันว่าเจ้าหน้าที่ AI Agent สามารถช่วยยกระดับความปลอดภัยขององค์กรได้ในอย่างน้อยหนึ่งด้าน
อย่างไรก็ตาม ได้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญในการนำ AI Agent ไปใช้งานจริงในอนาคต 43% ของผู้ตอบแบบสอบถามในไทยมีความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลในองค์กร ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน Agentic AI อย่างมีประสิทธิภาพ และเกือบครึ่ง (49%) ยังไม่มั่นใจว่าจะมีแนวทางกำกับดูแลที่รัดกุมพอในการใช้งาน AI Agent อย่างปลอดภัย
‘AI Agent’ ก้าวสำคัญองค์กร
รบส สุวรรณมาศ ผู้นำการเผยแพร่เทคโนโลยี เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า AI Agent คือก้าวสำคัญขององค์กรในการยกระดับความปลอดภัย แต่การจะใช้งานได้อย่างมั่นใจองค์กรจำเป็นต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นรากฐาน

การลงทุนในด้านความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการรักษาความโปร่งใส ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรไทยในระยะยาว
เพื่อให้การใช้งาน AI Agent มีประสิทธิภาพ องค์กรจำเป็นต้องมีโครงสร้างข้อมูลที่แข็งแรงและแนวทางกำกับดูแลที่เหมาะสม เพราะวันนี้ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการเจาะเข้าถึงระบบต่างก็หันมาใช้ AI เป็นเครื่องมือมากขึ้นเช่นกัน
วันนี้สิ่งที่องค์กรต้องเผชิญมีทั้งภัยคุกคามด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ มัลแวร์ และการโจมตีแบบฟิชชิงที่ยังมีอยู่ ขณะเดียวกันเกิดภัยคุกคามรูปแบบใหม่อย่างการใส่ข้อมูลผิดๆ ในชุดข้อมูลฝึกสอน AI (data poisoning) ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่หลายองค์กรให้ความสำคัญมากขึ้น
ผลสำรวจพบว่า งบประมาณด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาเทคโนโลยี โดย 87% ขององค์กรไทยคาดว่าจะเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 75%
‘ความเชื่อมั่น’ กลไกความสำเร็จ
พบด้วยว่า สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ซับซ้อน ทำให้การใช้งาน AI มีความท้าทายยิ่งขึ้น แม้ผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีในไทยถึง 95% จะมองว่า AI Agent สามารถช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น การช่วยให้องค์กรสอดคล้องกับกฎหมายความเป็นส่วนตัวระดับโลกได้ดีขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน 94% ก็เห็นว่าการใช้ AI Agent เองก็ยังมีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบอยู่ไม่น้อย มีเพียง 67% ที่มั่นใจว่าองค์กรของตนสามารถใช้ AI Agent ได้อย่างสอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานสากล ขณะที่องค์กรกว่า 84% ยังไม่ได้ทำให้กระบวนการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ
แม้ว่า ความเชื่อมั่นคือกลไกของความสำเร็จในยุค AI แต่ยังต้องเสริมสร้างความเชื่อมั่นอีกมาก จากผลการวิจัยผู้บริโภคทั่วโลกล่าสุดพบว่า ความไว้วางใจในตัวองค์กรต่างๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย 60% เห็นพ้องกันว่าความก้าวหน้าของ AI ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
นอกจากนี้ มีเพียง 42% ของผู้บริโภคที่เชื่อมั่นว่าองค์กรจะใช้ AI อย่างมีจริยธรรม ซึ่งลดลงจากเมื่อปี 2566 ที่เชื่อมั่นถึง 58% ขณะที่ผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีในไทยเห็นว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความไว้วางใจ
โดย 43% ของผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทียังไม่มั่นใจในความแม่นยำหรือความโปร่งใสของผลลัพธ์จาก AI, 52% ระบุว่าองค์กรยังไม่สามารถแสดงความโปร่งใสอย่างเต็มที่เกี่ยวกับวิธีการนำข้อมูลลูกค้าไปป้อนให้ AI, 46% มองว่าองค์กรยังไม่มีแนวปฏิบัติด้านจริยธรรมที่ชัดเจนสำหรับการใช้ AI และ 57% เชื่อว่าผู้บริโภคในไทยยังลังเลต่อการใช้งานบริการ AI เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
‘การจัดการข้อมูล’ กุญแจสำคัญ
เซลส์ฟอร์ซระบุว่า การบริหารจัดการข้อมูล คือกุญแจสู่การใช้งาน Agentic AI อย่างเต็มศักยภาพ ทว่าเกือบครึ่งของผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีในไทยยังไม่แน่ใจว่าองค์กรของตนมีข้อมูลที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับรองรับการทำงานของ AI Agent หรือมีแนวทางที่เหมาะสมภายใต้สิทธิ์การเข้าถึง นโยบาย และแนวทางควบคุมที่ถูกต้อง แต่ก็มีสัญญาณที่ดี
กว่า 56% ยังมองว่าการดำเนินการด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งาน AI Agent อย่างเต็มรูปแบบ มากกว่าครึ่งยอมรับว่าองค์กรของตนยังต้องยกระดับแนวทางการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ได้มาตรฐาน
ผลสำรวจกลุ่มประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ ล่าสุด พบว่าองค์กรต่างๆ จัดสรรงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการข้อมูลมากกว่า AI ถึง 4 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหลายองค์กรกำลังเร่งวางรากฐานอย่างรอบคอบเพื่อรองรับการขยายการใช้งาน AI ในอนาคต
ที่น่าสนใจพบว่า 73% ของทีมดูแลด้านความปลอดภัยระบบไอทีในประเทศไทยได้นำ AI Agent มาใช้ในกระบวนการทำงานประจำวันแล้ว ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ 41% และมีแนวโน้มว่าจะมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ 90% ขององค์กรในไทยคาดว่าจะใช้ AI Agent ภายใน 2 ปีข้างหน้า ผู้นำด้านความปลอดภัยระบบไอทีมองว่า AI Agent จะก่อให้เกิดประโยชน์หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจจับภัยคุกคามไปจนถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของโมเดล AI อย่างละเอียดและแม่นยำ
การสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของผู้บริหารด้านความปลอดภัยไอทีจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกกว่า 2,000 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริหารจากประเทศไทย 63 คน