ชาวปาเลสไตน์เผชิญกับเดือนรอมฎอนที่หมองหม่น ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และฮามาส ขณะที่กรุงเยรูซาเล็มยกระดับความปลอดภัยเข้มงวด เพื่อให้การถือศีลอดของชาวมุสลิม และการสวดภาวนาในมัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์เป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัย
ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายกรัฐมนตรีอาเล็กซันเดอร์ เดอ โกร ของเบลเยียมว่า เบลเยียมประกาศห้ามชาวอิสราเอล ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ที่เคยมีประวัติทางคดีทำร้ายชาวปาเลสไตน์เดินทางเข้าประเทศ มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายคนเข้าเมืองในทำนองเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศเมื่อวันอังคาร
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่โอเชี่ยน ทาวเวอร์ ซอยวัฒนา แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวปาเลสไตน์ และสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันชุมนุมเชิงสัญลักษณ์กว่า 300 คน หน้าสถานทูตอิสราเอล
ในระยะนี้ หากติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสงครามและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์กลุ่มหัวรุนแรง อาจจะพอคุ้นกับคำว่า “คิบบุตซ์” (Kibbutz) ซึ่งเป็นสถานที่ในเขตอิสราเอล ที่โดนกลุ่มฮามาสโจมตีหลายแห่ง คิบบุตซ์ ในภาษาฮีบรู หมายถึง การรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เป็นลักษณะเฉพาะของชุมชนชาวยิวที่มีพื้นฐานมาจากชุมชนเกษตรกร
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ในเมืองอาร์ราสทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรชาวยิวและมุสลิมจำนวนมาก ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยคือ โมฮัมเหม็ด โมกุชคอฟ จากนั้น ฝรั่งเศสได้ประกาศเตือนภัยระดับสูงและเตรียมประจำการทหาร 7,000 นายทั่วประเทศ
สถานทูตฯ ออกประกาศเตือนคนไทยใน 3 ประเทศ ‘โมร็อกโก ตูนิเซีย และมอริเตเนีย’ อาจมีการชุมนุมประท้วงจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล-ปาเลสไตน์ วอนหลีกเลี่ยงพื้นที่ผู้คนหนาแน่น อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต จึงขอแจ้งเตือนให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านโปรดใช้ความระมัดระวังเสมอขณะอยู่ภายนอกบ้านเรือน และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว