เกาหลีใต้ จับพลเรือน-ร้อยเอก ใช้อุปกรณ์ให้ โสมแดง ล้วงความลับทหาร

Loading

  วันที่ 28 เม.ย. บีบีซี รายงานว่า ตำรวจใน เกาหลีใต้ จับกุม 2 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาแพร่งพรายความลับทางทหารแก่คนที่เชื่อว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ ถือเป็นกรณีแรกที่พบว่าเจ้าหน้าที่ประจำการและพลเรือนภายใต้คำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือสมรู้ร่วมคิดและสืบหาความลับทางทหาร   ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี และนายทหาร ซึ่งเปิดเผยรายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับหน่วยบัญชาการทหารร่วมของ เกาหลีใต้ และทั้งสองถูกกล่าวหาได้รับได้รับเงินจำนวนมหาศาลเป็นการแลกเปลี่ยน   ทั้งสองถูกจับเมื่อต้นเดือนเม.ย. 65 ซึ่งใช้นาฬิกากล้องถ่ายภาพ และอุปกรณ์ยูเอสบี เพื่อให้สายลับเข้าถึงข้อมูลระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. 65 ส่วนที่อยู่และตัวตนของสายลับเกาหลีเหนือคนดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน     อัยการและตำรวจเกาหลีใต้ประกาศการจับกุมเจ้าของบริษัทคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีชื่อเพียง “นายลี” และนายทหาร “ร้อยเอกบี” ในวันพฤหัสบดี 28 เม.ย. ทั้งสองถูกตั้งข้อหาละเมิดรัฐบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติของประเทศ   เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวหานายลีได้รับการติดต่อครั้งแรกในเดือนก.ค. 64 เพื่อพยายาม “จ้างเจ้าหน้าที่ประจำการเพื่อตรวจสอบความลับทางการทหาร”   เดือนต่อมาคือ ส.ค. 64 นายอีเข้าหาร้อยเอกบี โดยสัญญาจะจ่ายบิตคอยน์แก่ร้อยโทบี เพื่อแลกกับความลับทางทหาร ตามคำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือ…

สื่ออเมริกันรายงาน “ปูติน” สั่งกักบริเวณ “สายลับ FSB แผนกที่ 5 คนสำคัญ” รับผิดชอบสอดแนมยูเครน ส่อไม่ไว้ใจเพิ่มขึ้น

Loading

  เอเจนซีส์ – มีรายงานผู้นำรัสเซียสั่งกัก พลเอกอาวุโสเซอร์เก เบเซดา (Colonel-General Sergei Beseda) และผู้ช่วยของเขาของหน่วยงานที่ 5 ภายในสำนักงานความมั่นคงกลางรัสเซีย FSB รับผิดชอบคอยสอดแนมดินแดนเก่าภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตทั้งหมด   ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานวันจันทร์ (21 มี.ค.) ว่า “แผนกที่ 5” (Fifth Service) ซึ่งเป็นหน่วยภายในสำนักงานความมั่นคงกลางรัสเซีย FSB มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลและแทรกแซงทางการเมืองในดินแดนที่เคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตทั้งหมด   ทั้งนี้ มีรายงานว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งกักบริเวณเจ้าหน้าที่สายลับระดับสูง FSB จำนวน 2 คน ที่รับผิดชอบเตรียมความพร้อมสำหรับการบุกยูเครนของรัสเซียที่มีการเปิดเผยคือ พลเอกอาวุโส เซอร์เก เบเซดา ( Colonel-General Sergei Beseda) และผู้ช่วยของเขา ด้วยเหตุผลว่าทั้งคู่อาจกระทำสิ่งผิดพลาดลงไปหรือเป็นแพะสำหรับปฏิบัติการบุกยูเครนที่ไม่คืบหน้า   ซึ่งฝ่ายรัสเซียตั้งความหวังที่จะได้เห็นดอกไม้และการต้อนรับจากชาวยูเครนต่อกองกำลังรัสเซียเมื่อเดินทางเข้าไปถึง และทำให้เป็นคำถามเกิดขึ้นตามมาว่า งบที่ให้สำหรับปฏิบัติการไปหายไปไหน เงินถูกใช้ไปอย่างไม่เหมาะสมหรือมีคนแอบยักยอกโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ   อันเดร โซลดาตอฟ…

นักสเก็ตน้ำแข็งหญิงทีมชาติสหรัฐฯ เชื้อสายจีนและบิดา เผยตกเป็นเป้าสอดแนมของจีน

Loading

FILE – Alysa Liu, of the United States, competes in the women’s free skate program during the figure skating competition at the 2022 Winter Olympics, in Beijing, China, Feb. 17, 2022.   อาลีสา หลิว นักสเก็ตน้ำแข็งหญิงทีมชาติสหรัฐฯ ซึ่งลงแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว และคุณพ่อของเธอ อาร์เธอร์ หลิว อดีตผู้ลี้ภัยทางการเมือง กำลังถูกจับตามองจากทางการสหรัฐฯ ในคดีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเป็นปฏิบัติการสอดแนมที่มีรัฐบาลจีนอยู่เบื้องหลัง   อาร์เธอร์ หลิว กล่าวกับสำนักข่าวเอพีเมื่อวันพุธว่า ตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพื่อเตือนเกี่ยวกับการสอดแนมจากทางการจีน ในขณะที่บุตรสาววัย 16 ปีของเขากำลังจะคัดตัวเพื่อลงแข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในเดือนกุมภาพันธ์…

หัวเว่ย ปฏิเสธข่าว เทคโนโลยีหัวเว่ยสอดแนมระบบสื่อสารออสเตรเลีย

Loading

  สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยในการสอดแนมระบบการสื่อสารของประเทศออสเตรเลียตามข่าวนั้น หัวเว่ย ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ!!! รายงานจากสำนักข่าว Bloomberg เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็นการบิดเบือนประเด็นข่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือไม่ได้ ทั้งยังอ้างว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกเก็บเป็นความลับมานานเกือบสิบปี ส่งผลให้เกิดการคาดเดาจนนำไปสู่ความเข้าใจผิด อีกทั้งยังไม่ได้แถลงข่าวพร้อมกับ “หลักฐาน” ที่เชื่อถือได้ หัวเว่ย ดำเนินธุรกิจในประเทศออสเตรเลียมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ รับทราบถึงประเด็นที่เป็นข่าวนี้ โดยผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมของออสเตรเลียทั้งสองรายอย่าง Optus และ TPG ต่างก็ออกมาปฏิเสธต่อสาธารณะว่าไม่ทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นรายงานดังกล่าวยังระบุถึงภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนเชิงเทคนิคเป็นอย่างมาก แต่กลับอ้างอิงถึงความคิดเห็นของนักการเมืองและอดีตเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น จึงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทำไมสำนักข่าว Bloomberg จึงไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะรวมบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านความมั่นคงที่น่าเชื่อถือลงไปในบทความชิ้นนี้ด้วย ข้อเท็จจริงเป็นไปดังนี้ : ประการแรก อุปกรณ์ของหัวเว่ยไม่ได้มีโปรแกรมจำพวกมัลแวร์ โดย NCSC ซึ่งเป็นองค์กรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของสหราชอาณาจักรซึ่งมีความเข้มงวดที่สุดในโลก ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าไม่พบความผิดปกติในอุปกรณ์ของหัวเว่ย และไม่ได้มีการแทรกแซงจากรัฐบาลจีน หัวเว่ยได้พยายามอย่างยิ่งยวดในการป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีแทรกแซงระบบความปลอดภัยในอุปกรณ์ของบริษัทฯ แพ็คเกจซอฟต์แวร์ของหัวเว่ยประกอบไปด้วยชุดกลไกการทำงานที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการดัดแปลงจากการอัพเดทซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์นั้นจะไม่สามารถถูกอัปโหลดหรือติดตั้งได้ ประการที่สอง โครงข่ายถือเป็นกรรมสิทธิ์และบริหารโดยผู้ประกอบการโทรคมนาคม หัวเว่ยเป็นเพียงหนึ่งในผู้จัดหาอุปกรณ์ที่มีจำนวนมากมายในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าถึงโครงข่ายของผู้ประกอบการโทรคมนาคมได้โดยปราศจากคำร้องขออย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ประกอบการโทรคมนาคมยังมีกระบวนการระบุตัวตนเพื่อความปลอดภัยที่เข้มงวดในการติดตั้งซอฟต์แวร์และระบบต่าง ๆ ซึ่งหัวเว่ยต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเหล่านี้เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่น…

บลูมเบิร์กเผยจีนใช้อุปกรณ์หัวเว่ยสอดแนมระบบสื่อสารออสเตรเลีย

Loading

  สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานการพบหลักฐานครั้งใหม่ที่บ่งชี้ว่า สายลับของจีนได้ใช้เทคโนโลยีของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีเพื่อแฮกข้อมูลลับด้านการสื่อสารของออสเตรเลีย รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของออสเตรเลียได้แจ้งให้หน่วยข่าวของสหรัฐฯ ทราบในปี 2555 ว่า ออสเตรเลียได้ตรวจพบการใช้เทคโนโลยีที่สามารถบุกรุกเข้าไปในระบบการสื่อสารของออสเตรเลีย โดยในเบื้องต้นตรวจพบการอัพเดตซอฟต์แวร์จากหัวเว่ยที่ถูกดาวน์โหลดด้วยรหัสที่น่าสงสัย และน่าจะมีเจตนาร้าย การบุกรุกเพื่อแฮกข้อมูลข่าวกรองและนำไปแชร์ต่อนั้น ได้รับการยืนยันโดยอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของออสเตรเลียกว่า 20 คน ซึ่งได้รับข้อมูลดังกล่าวจากทั้งหน่วยงานของออสเตรเลียและสหรัฐฯ ระหว่างปี 2555 – 2562 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยว่า จีนได้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเป็นช่องทางในการจารกรรมข้อมูล แต่ก็ไม่เคยมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการบุกรุกดังกล่าว รายงานข่าวได้ช่วยคลายความสงสัยว่าเพราะเหตุใดบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง จึงช่วงชิงการเป็นผู้นำในการสร้างโครงข่าย 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับประชาชนทั่วโลก ขณะที่ข้อมูลระบุว่า บริษัทหัวเว่ยครองมูลค่าตลาดอุปกรณ์ด้านการสื่อสารทั่วโลกเป็นวงเงินสูงกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์ และพยายามแข่งขันกับบริษัทอีริคสันของสวีเดน และบริษัทโนเกียของฟินแลนด์ อย่างไรก็ดี สหรัฐ , ออสเตรเลีย , สวีเดน และสหราชอาณาจักร ต่างก็พากันแบนหัวเว่ยไม่ให้มีส่วนร่วมในโครงข่าย 5จี ขณะที่กว่า 60 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามในโครงการของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ของจีนในระบบการสื่อสารของประเทศ ซึ่งความพยายามดังกล่าวซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อหัวเว่ยนั้น ส่งผลให้การเติบโตของหัวเว่ยชะลอลง และทำให้ความสัมพันธ์กับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้น “ไมค์…

รัสเซียพัฒนา “หินสายลับ” อุปกรณ์ดักฟัง อังกฤษเคยใช้สอดแนมมอสโก

Loading

  รัสเซียพัฒนา – มิร์เรอร์ รายงานวันที่ 28 พ.ย. ว่า สถานีโทรทัศน์รัสเซียนำเสนอ “หินหุ่นยนต์” ที่สามารถควบคุมได้ด้วยสัญญาณวิทยุจากผู้ควบคุมที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 1 ไมล์ และสามารถเคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งได้ เมื่อศัตรูไม่ได้ทันดู รัสเซียกำลังดำเนินการทดลองกับ “หินสอดแนม” ที่แปลกประหลาด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดักฟังที่ครั้งหนึ่งหน่วยข่าวกรองอังกฤษเคยใช้ในกรุงมอสโก     สถานีโทรทัศน์สเวียซดา กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แพร่ภาพหินปลอมที่ออกแบบโดยนักวิจัยทางทหารของกรุงมอสโกเพื่อใช้กับศัตรูของชาติ. “เนื่องจากการปลอมตัวและความสามารถที่จะเปลี่ยนตำแหน่ง หินจึงมีประโยชน์มนสงครามสนามเพลาะ” หินหุ่นยนต์สามารถควบคุมได้จากสัญญาณวิทยุจากผู้ควบคุมที่อยู่ห่างออกไปมากกว่าหนึ่งไมล์ และเคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งเมื่อศัตรูไม่ได้เฝ้าดู     นักออกแบบหินสอดแนม ที่สถาบันกองทัพอากาศจากเมืองโวโรเนจ ภายใต้การการแนะนำของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งกองบัญชาการหลักการฝึกรบของกองทัพบกรัสเซีย ระบุว่า หินสอดแนมมีกล้องและความสามารถในการดักฟัง หินดังกล่าวเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการว่า “ศูนย์สังเกตการณ์” ด้วยดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ที่ยกขึ้นเหมือนกล้องปริทรรศน์ ส่วนสถานีโทรทัศน์ทหารรัสเซียขนานนามว่า “สายลับหิน” และในปัจจุบันไม่มีอุปกรณ์ใกล้เคียงกันที่กองทัพรัสเซียใช้ นีโคไล เยเมตส์ นักออกแบบคนหนึ่ง สาธิตหินหุ่นยนต์ทางโทรทัศน์ ซึ่งอธิบายว่า “ปัญหาหลักคือการนำอุปกรณ์ทั้งหมดที่เราต้องการมาทำเป็นหินก้อนเล็กๆ” ไอเดียดังกล่าวน่าจะนำมาจากหินสอดแนมซับซ้อนสัญชาติอังกฤษ ซึ่งเคยถูกหน่วยข่าวกรองลับรัสเซียพบในสวนสาธารณะกรุงมอสโก และพบคนรัสเซียที่เป็นกบฏคนหนึ่งเดินใกล้หินก้อนดังกล่าว และต่อมาถูกกล่าวหาว่าส่งข้อมูลที่เป็นความลับแก่หินสอดแนมก้อนนี้ ถูกพบว่าหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษ (เอ็มไอ 6) เป็นคนฝังดิน…