เจ้าหน้าที่ดูหนังโป๊ในเวลางาน ทำเครือข่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ติดไวรัส

Loading

ในตอนนี้ ระบบเน็ตเวิร์คของรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกมัลแวร์จู่โจมอย่างหนัก เนื่องจากข้าราชการคนหนึ่ง ดูหนังโป๊ระหว่างทำงาน ตามที่เจ้าหน้าที่สืบสวนรายงาน คณะกรรมการตรวจสอบ จากกระทรวงกิจการภายในประจำประเทศสหรัฐฯ พบว่าเครือข่ายของ U.S. Geological Survey (USGS) ณ ศูนย์ Earth Resources Observation and Science (EROS) Center ในรัฐ South Dakota ติดมัลแวร์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้เข้าเว็บไซต์ลามกที่บรรจุมัลแวร์ไว้ภายในกว่าพันครั้ง มัลแวร์จำนวนได้ถูกดาวน์โหลดเข้าสู่คอมพิวเตอร์ประจำการของเขา และทำลายเครือข่ายของ USGS อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่สืบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพวกเขาพบหลักฐานเป็นรูปโป๊จำนวนมาก ซึ่งถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำ USB ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กร รูปเหล่านั้นยังถูกเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนของพนักงานคนดังกล่าวด้วย จากการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม สมาร์ทโฟนของข้าราชการคนนั้นเต็มไปด้วยมัลแวร์จากเว็บโป๊ และเป็นต้นเหตุของการระบาดของมัลแวร์เข้าสู่เครือข่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ตามข้อมูลใน รายงาน ของคณะกรรมการตรวจสอบ ช่องโหว่ขององค์กร USGS คือ การอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ท่องเว็บไซต์ได้อย่างอิสระภายในเวลางาน และการละเลยการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ USB ต่าง ๆ ภายในพื้นที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม ถือว่าประเทศสหรัฐฯ ยังโชคดีอยู่ เนื่องจาก USGS ไม่มีข้อมูลสำคัญเก็บไว้ จึงไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ กระทรวงกิจการภายในประจำประเทศสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า USGS ต้องตั้งนโยบายสร้างบัญชี Blacklist…

สุดแสบ! FBI รวบอดีตวิศวกร ‘แอปเปิล’ ฉกข้อมูลลับโครงการ ‘รถยนต์ไร้คนขับ’ ก่อนชิ่งไปซบบริษัทจีน

Loading

เอเจนซีส์ – ทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตวิศวกรซึ่งขโมยข้อมูลลับในโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ (self-driving car) ของ ‘แอปเปิล อิงค์’ ก่อนจะยื่นใบลาออกเพื่อไปทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัปของจีน จาง เสี่ยวหลาง (Xiaolang Zhang) ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) จับกุมข้อหาขโมยความลับทางการค้าในโครงการของแอปเปิล ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับอีกไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ซึ่งมีฐานอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียยืนยันกับเอเอฟพีว่า “แอปเปิล ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับ” “เราได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในประเด็นนี้ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลคนนี้และคนอื่นๆ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องถูกนำตัวมารับผิดชอบในสิ่งที่พวกเขาทำ” เอกสารคำฟ้องที่เอฟบีไอยื่นต่อศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า จาง ได้รับการว่าจ้างเมื่อปี 2015 ให้เข้าร่วมทีมพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งถือเป็นโครงการ “ลับสุดยอด” ของ แอปเปิล เมื่อเดือน เม.ย. เขาได้ใช้สิทธิ์ยื่นใบลาในฐานะบิดาเพื่อดูแลภรรยาหลังคลอดบุตร (paternity leave) และพาครอบครัวเดินทางกลับจีน เมื่อกลับเข้าทำงานกับอีกครั้งในช่วงปลายเดือน เม.ย. จาง ก็บอกกับเจ้านายที่ แอปเปิล ว่าต้องการลาออกเพื่อกลับไปดูแลมารดาที่ป่วย โดยมีแผนจะสมัครงานกับ เสี่ยวเผิง มอเตอร์ส…

สองชาวอังกฤษถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังสัมผัส “สารปริศนา” ใกล้เมืองที่สายลับรัสเซียถูกวางยาพิษ

Loading

เอเอฟพี – ตำรวจอังกฤษ ระบุในวันนี้ (4) มีคนสองคนกำลังอยู่ในอาการสาหัสในโรงพยาบาลเมืองซอลส์บรีหลังจากสัมผัสกับ “สารปริศนา” ไม่ไกลจากที่ๆ อดีตสายลับรัสเซีย เซียร์เกย์ สกริปัล และลูกสาวของเขาถูกวางยาพิษ “ผู้ป่วยสองคนกำลังรับการรักษาหลังจากสัมผัสกับสารปริศนาที่โรงพยาบาลเขตซอลส์บรี” ตำรวจวิลต์เชอร์ ระบุ “พวกเขาทั้งคู่อยู่ในอาการสาหัส” ตำรวจ กล่าว และเสริมว่า พวกเขาพิจารณาว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็น “เหตุการณ์ร้ายแรง” คนทั้งสองเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งอายุราว 40 กว่าๆ ถูกพบหมดสติเมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านอเมสบรี ซึ่งอยู่ห่างจากซอลส์บรีประมาณสิบกว่ากิโลเมตร เซียร์เกย์และยูเลีย สกริปัล ถูกพบหมดสติบนม้านั่งในเมืองแห่งนี้ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษซึ่งอดีตสายลับสองหน้ารายนี้อาศัยอยู่ในเดือนมีนาคม เป็นชนวนวิกฤตทางการทูตอันขมขื่นระหว่างมอสโกและลอนดอนที่ระบุว่า สารทำลายประสาทสมัยโซเวียตชื่อว่า โนวิชอค ถูกใช้กับพวกเขาทั้งสอง ตำรวจวิลต์เชอร์ ระบุว่า เบื้องต้นพวกเขาสงสัยว่า ทั้งสองคนป่วยหลังจากใช้เฮโรอีนหรือโคเคนผงจากจากกลุ่มยาเสพติดปนเปื้อน” “อย่างไรก็ตาม กำลังมีการการทดสอบเพิ่มเติมอยู่ในตอนนี้เพื่อตรวจสอบว่าสารชนิดใดที่ทำให้ผู้ป่วยสองคนนี้ล้มป่วย และเรายังคงพิจารณาสภาพการณ์แวดล้อมเหตุการณ์นี้ด้วย” พวกเขา กล่าว เทปคำเตือนการรักษาความปลอดภัยถูกติดตั้งล้อมพื้นที่ที่พวกเขาไปมาก่อนที่จะล้มป่วย ตำรวจระบุ และมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในทั้งอเมสบรีและซอลส์บรี โฆษกสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England : PHE) ระบุว่า “ไม่น่าจะมีความเสี่ยงด้านสุขภาพต่อสาธารณะชนวงกว้าง”…