แผ่นดินไหว วันที่ 9 พ.ค. 2568 เวลา 15:37 น. ประเทศเมียนมา ขนาด 5.3 ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 257 กม.

Loading

เมื่อเวลา 15:37 น. ของวันนี้ (9 พฤษภาคม 2568) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.3 มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา ละติจูด 20.807 องศาเหนือ ลองจิจูด 96.109 องศาตะวันออก มีความลึกจากผิวดิน 10 กิโลเมตรสำหรับผลกระทบต่อประเทศไทย จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นระยะทางประมาณ 257 กิโลเมตร

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา

Loading

เกิดเหตุ”แผ่นดินไหว”หลายครั้ง บริเวณประเทศเมียนมาและประเทศไทยโดยวันที่ 28 เมษายน 2568 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาและบริเวณใกล้เคียงหลายครั้งตลอดช่วงเช้าวันนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

วุ่น! แก๊งคอลฯแอฟริกัน 275 ชีวิต ประท้วงขอข้ามแดนตาก หลังถูกกักตัวในเมียนมานาน

Loading

13 เม.ย. เกิดเหตุวุ่นวายบริเวณชายแดนด้านตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อชาวต่างชาติจำนวน 275 คน ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นชาวเอธิโอเปียและชาติอื่นๆ จากทวีปแอฟริกา ที่ถูกควบคุมตัวในเขตอิทธิพลของกลุ่มกะเหรี่ยง DKBA ในพื้นที่จีนเทา ไท่ซาง 1 จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ได้รวมตัวประท้วงเพื่อพยายามออกจากพื้นที่ควบคุม

เปิดวิชั่น WatchGuard ภัยคุกคามไซเบอร์ไทยยุคหลังแผ่นดินไหวยังไม่เปลี่ยน

Loading

หตุแผ่นดินไหวมีนาคม 2568 ยังไม่มีผลกับสถานการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ในประเทศไทย พบแรนซัมแวร์หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ยังเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของไทยโดยเฉพาะภาคการผลิต ชี้แม้ปริมาณการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์จะลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแต่ผลกระทบยังคงสูง ล่าสุดผู้โจมตีมีการใช้ “แรนซัมแวร์แบบบริการ” ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะก็สามารถเช่าบริการและโจมตีเป้าหมายได้ ส่งผลให้องค์กรขนาดเล็กตกเป็นเหยื่อมากขึ้น

เชื่อมโยงสู่ความมั่นคง: บทบาทของไทยในเอเชีย ยุคแห่งความท้าทาย

Loading

ในยุคที่เศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ผันแปรอย่างรวดเร็ว การเสริมสร้างความเชื่อมโยงในเอเชียจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความท้าทายนานัปการ ประเทศไทยควรก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการผลักดันวิสัยทัศน์นี้ โดยมองอนาคตผ่านเลนส์ของการร่วมมือและการประสานพลัง

เส้นทางของประเทศไทยในบริบทโลกไร้คาร์บอน

Loading

ความพยายามของประเทศไทยที่จะร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังและเข้มแข็ง จากแผนที่นำทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ พ.ศ.2564-2573 สู่การจัดทำแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกรายสาขา อันประกอบด้วย (1) สาขาพลังงาน โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก (2) สาขาขนส่ง โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก (3) สาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ รวมถึงน้ำเสียอุตสาหกรรม โดยมีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก และ (4) สาขาการจัดการของเสียชุมชน โดยมีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก