หนุ่มญี่ปุ่นโดนไล่ออก หลัง ‘ทุจริต’ สมัครงาน โกหกจบแค่ม.ปลาย ทั้งที่จบมหาลัย

Loading

  เจ้าหน้าที่เทคนิคญี่ปุ่นโดนไล่ออก หลัง ‘ทุจริต’ สมัครงานของคนที่จบวุฒิม.ปลาย ทั้งที่ตัวเองจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อ้าง ‘กลัวทำข้อสอบไม่ผ่าน’ ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัย โดยการให้ ‘ออกจากงาน’ กับเจ้าหน้าที่เทคนิคชาย วัย 44 ปีรายหนึ่ง ของสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าเขาได้รับการว่าจ้าง หลังจากที่ผ่านการทดสอบการคัดเลือกงานด้านแรงงาน ที่มีคุณสมบัติจำกัด เฉพาะผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น แต่ชายรายนี้กลับจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ตามประกาศได้ระบุว่าชายคนนี้ได้สอบผ่าน และผ่านการคัดเลือกพนักงานในปี 2543 โดยเขาได้โกหกว่าตนนั้นจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น ก่อนจะกลายเป็นลูกจ้างของเมืองในปี 2544 จนกระทั่งมีการพบข้อมูลการโกหก และบิดเบือนข้อมูลภูมิหลังทางการศึกษาของพนักงานชายคนดังกล่าว ว่าข้อมูลนั้นเป็น ‘ข้อมูลเท็จ’     โดยชายรายนี้ได้ให้เหตุที่เขาโกหกเรื่องวุฒิการศึกษานั้นก็เพราะว่า ‘กลัวทำข้อสอบการรับเข้าทำงานของระดับปริญญาตรีไม่ผ่าน’ ทั้งนี้เนื้อหาในการสอบขณะนั้นจะประกอบไปด้วยการศึกษาทั่วไปการทดสอบสมรรถภาพทางกาย องค์ประกอบ การสัมภาษณ์ และการตรวจร่างกาย โดยในขณะนั้นชายคนนี้มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น ซึ่งภูมิหลังทางการศึกษาจะอยู่ในขั้นสุดท้ายของการรายงานตัว จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เห็นว่า ประเทศญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับการ ‘ทุจริต’ เป็นอย่างมาก เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นมีเจตนาปิดบังข้อมูล…

หน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นพบข้อมูลรั่วไหล หลังมีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

Loading

  ศูนย์ความพร้อมรับมือและยุทธศาสตร์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติของญี่ปุ่น (NISC) และกระทรวงอีก 2 แห่งของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พบการเข้าถึงเครื่องมือที่ใช้ในการแชร์ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้ข้อมูลรั่วไหล โดยเครื่องมือดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัทฟูจิตสึ ซึ่งได้ทำสัญญาเป็นผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงคมนาคมซึ่งได้รับผลกระทบในครั้งนี้ระบุว่า ข้อมูลที่รั่วไหลเป็นอีเมลอย่างน้อย 76,000 รายการของเจ้าหน้าที่รัฐบาลและหน่วยงานภายนอก เช่น สมาชิกคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ และเอกสารการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างรัฐบาลดิจิทัล NISC ระบุว่า ชื่ออุปกรณ์และกำหนดการซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนั้น ได้รั่วไหลไปสู่บุคคลภายนอก อย่างไรก็ดี หน่วยงานรัฐบาลทั้งสามแห่งระบุว่า ระบบภายในขององค์กรยังคงทำงานได้ตามปกติ ทางด้านนายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในฐานะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ และกล่าวว่า “คาดว่าจะมีการโจมตีระบบโครงข่ายเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก”   ——————————————————————————————————————————————————— ที่มา :  สำนักข่าวอินโฟเควสท์       / วันที่เผยแพร่  27 พ.ค. 64 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/91007

เอาล่ะสิ… 1.7 ล้านคนข้อมูลส่วนตัวรั่ว หลังแอพพ์หาคู่ยอดนิยมของญี่ปุ่น “ถูกแฮกข้อมูล”!!!

Loading

  เอเอฟพี รายงานว่า บริษัท Net Marketing Co ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นหาคู่โอมิไอ (Omiai) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นหาคู่ยอดนิยมของญี่ปุ่น ออกมาเตือนว่า มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการราว 1.7 ล้านรายถูกแฮก โดยบริษัทตรวจพบการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลสมาชิก “เรารับทราบมาว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางรายมีการรั่วไหลออกไป เนื่องจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว “บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ ซึ่งระบุว่ารูปถ่ายในใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และรูปถ่ายในหนังสือเดินทางที่บรรดาสมาชิกถูกขอให้ส่งเพื่อตรวจสอบอายุเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20-26 เมษายน อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีระบบประมวลผลแยกกัน ผ่านสถาบันทางการเงิน เอเอฟพี รายงานว่า แถลงการณ์ของบริษัท Net Marketing Co ที่มีออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคมส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลง 19.34 % อนึ่ง โอมิไอ (Omiai) มีความหมายในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการจับคู่ เป็นหนึ่งในแอพพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเน้นความสัมพันธ์ที่จริงจัง และจากข้อมูลเมื่อเดือนเมษายนพบว่ามีสมาชิกราว 6.89 ล้านคน   ——————————————————————————————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์     / วันที่เผยแพร่ …

ส่องานเข้า คนขับรถไฟชิงกันเซ็งแวบเข้าห้องน้ำ ปล่อยรถวิ่ง 150 กม./ชม.

Loading

  คนขับรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นอาจถูกลงโทษ หลังเขาออกไปเข้าห้องน้ำนานหลายนาที ในขณะที่รถไฟวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ว่า บริษัท ‘เซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์’ หรือ ‘เจอาร์ เซ็นทรัล’ ผู้ให้บริการรถไฟออกมาแสดงความขอโทษ หลังจากคนขับรถไฟความเร็วสูงของพวกเขา ลุกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. แล้วให้พนักงานซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถไฟควบคุมรถแทน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนรถไฟชิงกันเซ็งสายฮิคาริ หมายเลข 633 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. ซึ่งในเวลานั้นบรรทุกผู้โดยสาร 160 คน โดย เจอาร์ เซ็นทรัล เผยว่า ขณะที่รถไฟกำลังเดินทางในจังหวัดชิซุโอกะ จู่ๆ คนขับรถไฟวัย 36 ปี ก็ปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำโดยด่วน เขาจึงเรียกพนักงานรถไฟคนหนึ่งเข้ามาในห้อง แล้วออกไปเข้าห้องน้ำนานประมาณ 3 นาที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของรถไฟสายฮิคาริ หมายเลข 633 อย่างไรก็ตาม เจอาร์…

ญี่ปุ่นเผยถูกสายลับ “กองทัพจีน” เจาะระบบคอมพิวเตอร์

Loading

  ตำรวจญี่ปุ่นสืบสวนกรณีการโจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยงานและบริษัทเกือบ 200 แห่งในญี่ปุ่น โดยสงสัยว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวพันกับกองทัพจีน หน่วยงานสำคัญของญี่ปุ่นที่ถูกแฮกเกอร์ที่คาดว่าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนเจาะข้อมูล เช่น สำนักงานสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ จั๊กซ่า, บริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ซึ่งมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ, มหาวิทยาลัยเคโอ รวมทั้งสถาบันวิจัยชั้นสูงหลายแห่งของแดนอาทิตย์อุทัย สำนักงานสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่นยอมรับว่า ระบบคอมพิวเตอร์ถูกลักลอบเจาะในปี 2559 แต่ไม่เปิดเผยว่ามีข้อมูลรั่วไหลหรือถูกดัดแปลงแก้ไข ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์นี้ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Tick ซึ่งอยู่ใต้การบังคับบัญชาโดยตรงของกองทัพจีน     ตำรวจญี่ปุ่นระบุตัว วิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวจีนคนหนึ่งที่ใช้รหัสประจำตัวปลอม เพื่อเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรหลายแห่งในญี่ปุ่น ชายในวัย 30 ปีผู้นี้ต้องสงสัยว่าเคยลักลอบเข้าใช้เซิร์ฟเวอร์หลายแห่งโดยใช้ชื่อปลอมต่าง ๆ กัน และส่งข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นไปยังกลุ่มแฮกเกอร์ “Tick” นอกจากนี้ ยังพบว่ามีนักศึกษาชาวจีนอีกคนหนึ่งที่เช่าเซิร์ฟเวอร์หลายเซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่น โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อแสดงตัวตน และจากการสืบสวนพบว่านักศึกษารายนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ขณะนี้ วิศวกรชายและนักศึกษารายนี้ได้เดินทางออกจากญี่ปุ่นแล้ว     กองทัพจีนมีหน่วยที่ใช้รหัสว่า 61419 มีฐานที่เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง คาดว่าเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการโจมตีทางไซเบอร์ต่อประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นายคัตสีโนบุ คาโต เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น พูดถึงเรื่องนี้โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของใครว่า “การโจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยราชการและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มีการจัดองค์กรและมีความล้ำหน้ามากขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญเพื่อรับมือการโจมตีเหล่านี้”.…

รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติห้ามใช้ Line ส่งข้อมูลลับ หวั่นรั่วไหลถึงจีน

Loading

  นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติห้ามการใช้แอปพลิเคชัน Line ส่งข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเป็นการชั่วคราว การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทในเครือของ Line ที่ตั้งในจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อของผู้ใช้บริการ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลแอดเดรส “รัฐบาลจะระงับการใช้ Line เมื่อมีการส่งข้อมูลที่มีความอ่อนไหว และจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อออกแนวปฏิบัติในไม่ช้า” นายคาโตะกล่าวในการแถลงข่าว ทั้งนี้ Line ถือเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมในโลกออนไลน์ โดยมีผู้ใช้บริการกว่า 86 ล้านรายในญี่ปุ่น รวมทั้งมีผู้ใช้บริการจำนวนมากในไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย   ———————————————————————————————————————————————————- ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์      วันที่เผยแพร่ 30 มี.ค.64 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/74209