“กสทช.”เตือนอย่าหลงเชื่อกรอกข้อมูลแอบอ้างช่วยขยายเวลาทดลองออกอากาศวิทยุ

Loading

    สำนักงาน กสทช. เผยไม่เคยให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทะเบียนขยายเวลาทดลองออกอากาศวิทยุชุมชน และไม่เคยขอให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ลงทะเบียน ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ   พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ  กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับการลงทะเบียน ขอขยายเวลาการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ในระบบเอฟเอ็ม โดยมีการอ้างอิงประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ในระบบเอฟเอ็ม และกำหนดให้มีการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งมีการนำเสนอข้อมูลที่มีการพาดพิงถึงสำนักงาน กสทช. ในกลุ่มไลน์  นั้น  ขอชี้แจ้งว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กสทช. และสำนักงาน กสทช. แต่อย่างใด   ทั้งนี้การทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็มนั้น กสทช. ยังคงมีนโยบายที่จะเร่งรัดปรับปรุงหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับให้มีการออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงแก่ผู้ที่ประสงค์ จะดำเนินกิจการวิทยุกระจายเสียงต่อไป ให้มีความต่อเนื่องกับการยุติการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม ในวันที่ 31 ธ.ค. 67   “กสทช. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม เพื่อให้ผู้ทดลอง…

แนวทางในการคัดเลือก เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

Loading

  เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer:DPO) ถือเป็นบุคคลสำคัญในการกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร   พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงได้กำหนดหน้าที่ในการจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ โดยให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องจัดให้มี DPO ในกรณีดังต่อไปนี้   (1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นหน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด หรือ   (2) การดำเนินกิจกรรมของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบบอย่างสม่ำเสมอโดยเหตุที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมากตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด หรือ   (3) “กิจกรรมหลัก” ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26   ในปัจจุบัน คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่ได้มีการออกประกาศตามข้อ (1) และ (2) ดังกล่าวข้างต้น   ในส่วนของบุคคลที่จะทำหน้าที่ DPO กฎหมายกำหนดว่าอาจเป็นพนักงานของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นผู้รับจ้างให้บริการตามสัญญาก็ได้เช่นกัน   หน้าที่หลัก ๆ ของ DPO คือ การให้คำแนะนำและตรวจสอบองค์กรนั้น ๆ ในการปฏิบัติและดำเนินการให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ…

กฎหมาย PDPA ที่หลายหน่วยงาน ยังไม่มีความตระหนัก

Loading

  พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศมาตั้งแต่เดือนพ.ค. พ.ศ. 2562 และเลื่อนการบังคับใช้มาหลายรอบ จนกระทั่งเริ่มบังคับใช้กันอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ปีที่ผ่านมา แม้หลายหน่วยงาน โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่จะเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง และตระหนักต่อกฎหมาย PDPA นี้   วันหนึ่งนิติบุคคลของหมู่บ้านแจ้งในไลน์กลุ่มว่า ขณะนี้นิติบุคคลได้เปลี่ยนบริษัทที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ซึ่งไม่เพียงแต่เก็บบัตรประชาชนของผู้มาติดต่อไว้ชั่วคราวในการแลกบัตรเข้าออกหมู่บ้าน แต่จะเพิ่มมาตรการให้มีระบบถ่ายรูปทะเบียนรถพร้อมบัตรประชาชนผู้ที่มาติดต่ออีกด้วย   เมื่อเห็นข้อความเช่นนี้ ผมก็ตกใจเพราะเพียงแค่เก็บบัตรประชาชนไว้ชั่วคราวโดยไม่ได้มีการขออนุญาตก็ถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) แล้ว แต่ยังจะถ่ายรูปเก็บไว้อีกด้วย ซึ่งเมื่อติงไปว่าอาจผิดกฎหมาย PDPA คำตอบที่ได้รับคือ ที่อื่น ๆ ก็ทำกัน ข้อสำคัญเราแค่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์   ความเห็นคนในหมู่บ้านในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างจะหลากหลาย แต่ส่วนหนึ่งก็คิดว่าต้องการจะเก็บข้อมูลเพื่อเอาไว้ตรวจสอบผู้มาติดต่อในหมู่บ้าน ไม่น่าจะมีปัญหาว่าขัดต่อกฎหมาย เพราะหลายหมู่บ้านก็ทำกัน   เช่นกันกับการเข้าออกอาคารสำนักงานต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็ต้องแลกบัตร รวมทั้งบางคนก็มองว่ากฎหมาย PDPA น่าจะหมายถึงการห้ามนำข้อมูลคนอื่นมาทำให้เกิดความเสียหายหรือก่อความรำคาญแก่เจ้าของข้อมูล และคิดว่าการเก็บข้อมูลเพื่อความปลอดภัยและตรวจสอบน่าจะทำได้   พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศมาตั้งแต่เดือน พ.ค. พ.ศ. 2562 และเลื่อนการบังคับใช้มาหลายรอบ จนกระทั่งเริ่มบังคับใช้กันอย่างจริงจังเมื่อวันที่…

อื้ออึง! นิวยอร์กไทม์สแฉ “เครื่องสแกนไบโอเมตริก” เร่ขายบน eBay ราคาไม่ถึง $200 ซุกข้อมูลอ่อนไหวกองทัพสหรัฐฯ จำนวนมาก

Loading

  เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์ชื่อดังสหรัฐฯ รายงานเครื่องสแกนไบโอเมตริกที่ขายผ่าน eBay ปรากฏพบข้อมูลสำคัญที่อ่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯ จำนวนมากอยู่ในเมมโมรีการ์ด ทั้งชื่อบุคคล ภาพถ่าย ลายพิมพ์นิ้วมือ ส่วนใหญ่จากอิรักและอัฟกานิสถาน พบตอลิบานมีเครื่องแบบนี้เหมือนกัน   Engadget สื่อเชี่ยวชาญอุปกรณ์ไฮเทคของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค) ว่า นักวิจัยชาวเยอรมัน ที่ได้ซื้อเครื่องสแกนไบโอเมตริก (Biometric) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลทางชีวภาพ เป็นต้นว่า ลายนิ้วมือ หรือม่านตา จากเว็บไซต์ eBay ชื่อดัง แต่ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในเมมโมรีการ์ดมีข้อมูลสำคัญที่อ่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯ ถูกเก็บอยู่ในนั้น อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานครั้งแรกในวันอังคาร (27)   ข้อมูลอ่อนไหวที่ถูกพบเป็นต้นว่า ชื่อบุคคล คำอธิบายเกี่ยวกับบุคคลนั้น ภาพถ่าย ลายพิมพ์นิ้วมือ ม่านตา ส่วนใหญ่มาจากอิรักและอัฟกานิสถาน และมีเป็นจำนวนมากทำงานให้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อเล่นงานได้หากว่าข้อมูลตกอยู่ในมือคนร้าย อ้างอิงจากรายงาน   กลุ่มนักวิจัยเยอรมนีชื่อ Chaos Computer Club ภายใต้การนำ มาตเทียส มาร์กซ์ (Matthias Marx)…

อุปกรณ์ไบโอเมทริกซ์ที่ขายอยู่บน eBay มีข้อมูลทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ

Loading

  กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนีที่ใช้ชื่อว่า Chaos Computer Club นำโดย มัตเทียส มาร์กซ์ (Mathias Marx) พบว่าอุปกรณ์รับข้อมูลไบโอเมทริกซ์ที่ซื้อมาจาก eBay มีข้อมูลละเอียดอ่อนทางทหารของสหรัฐอเมริกาอยู่ในนั้นด้วย   Chaos Computer Club ซื้ออุปกรณ์ในลักษณะนี้มา 6 ชิ้น ส่วนใหญ่มีราคาไม่ถึง 200 เหรียญ (ราว 6,925 บาท) เหตุที่ทางกลุ่มซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาก็เนื่องจากมีรายงานของ The Intercept ที่ระบุว่ากลุ่มตาลีบันยึดอุปกรณ์เหล่านี้ได้จากกองทัพสหรัฐฯ   ข้อมูลที่ Chaos Computer Club พบในอุปกรณืนี้มีทั้งข้อมูลลายนิ้วมือ ผลสแกนม่านตา รูปถ่าย ชื่อ และรายละเอียดของบุคคลที่ส่วนใหญ่มาจากอิรักและอัฟกานิสถาน มีจำนวนถึง 2,632 ราย ในจำนวนนี้หลายคนทำงานให้กับกองทัพบกสหรัฐฯ   เมื่อวิเคราะห์ลงไปยังพบอีกว่าอุปกรณ์เหล่านี้ถูกนำไปใช้ในหลายพื้นที่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ กันดะฮาร์ ในอัฟกานิสถาน และจอร์แดน ในระหว่างช่วงปี 2012 – 2013  …

บริษัทแม่ TikTok เผย มีพนักงานแอบเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของนักข่าวอเมริกัน

Loading

FILE PHOTO: Illustration shows TikTok app logo   บริษัทจีน “ไบต์เเดนซ์” (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทเเม่ของแอป TikTok กล่าววันพฤหัสบดีว่าพนักงานจำนวน 4 คนของบริษัท เข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของนักข่าวสหรัฐฯ 2 ราย และเจ้าหน้าที่เหล่านั้นถูกไล่ออกในเวลาต่อมา ตามรายงานของรอยเตอร์   การกระทำอันไม่เหมาะสมนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสืบข้อมูลที่รั่วไหลของบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุความเชื่อมโยงของนักข่าว 2 รายกับพนักงานของบริษัท   อย่างไรก็ตาม การสืบสวนดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ ตามข้อมูลของผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของ “ไบต์เเดนซ์” อิริช แอนเดอร์เซน   นิวยอร์กไทมส์คือสื่อฉบับเเรก ๆ ที่รายงานการเปิดเผยครั้งนี้ โดยเหตุการณ์นี้อาจสร้างแรงกดดันต่อเนื่องสำหรับ TikTok ซึ่งกำลังโดนรัฐบาลอเมริกันและนักการเมืองในสภาสหรัฐฯ เพ่งเล็งเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ TikTok ในอเมริกา ที่มีอยู่กว่า 100 ล้านคน   รอยเตอร์อ้างเเหล่งข่าวที่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ที่กล่าวว่าพนักงานไบต์แดนซ์ 4 คน ถูกไล่ออกเนื่องจากเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอยู่ในอเมริกา 2…