รวบแล้ว! 1 ผู้ต้องสงสัย ยิงถล่มผู้นำศาสนา

Loading

    เหตุวางระเบิด ยิงถล่มพรุ่นผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 ราย และรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว 2 ราย จากเหตุกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดแล้วใช้อาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิง​ นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี เป็นโต๊ะบิหลั่น ประจำมัสยิดควนลาแม และเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ต.บ้านโหนด อ.สะบ้ายอย จ.สงขลา เสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋งสวนตัว​ ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านพัก เหตุเกิดบนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง ม.4 ต.นาเกตุ​ อ.โคกโพธิ์​ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำวันที่​ 6 เมย.ที่ผ่านมา     คนร้ายลอบวางระเบิด ยิงถล่มซ้ำผู้นำศาสนาดับ! ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้ชุดตรวจพิสูจน์​หลักฐาน​ ชุด​เก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าตรวจหาหลักฐานอีกครั้ง​ บริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีการปิดเส้นทางดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนวันที่…

ตำรวจอเมริกันเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนเอเชียหลังอาชญากรรมจากความเกลียดชังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

Loading

    ตำรวจเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย มากกว่า 10 คน ร่วมเดินตรวจตราในย่านชุมชนชาวเอเชียในเมืองซานโฮเซ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องชุมชนชาวเอเชียสืบเนื่องจากความหวาดกลัวเรื่องอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่มุ่งเป้ามายังชุมชนคนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจย่านร้านค้าของชุมชนคนเชื้อสายเวียดนามและญี่ปุ่น ในเมืองซานโฮเซ่ เมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการชุมนุมต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติและสีผิว หลังเหตุการณ์กราดยิงที่ร้านนวดและสปาในนครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย เมื่อเดือนที่แล้ว แอนโธนี มาทา หัวหน้าตำรวจซานโฮเซ่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเกิดกระแสความหวาดกลัวและความไม่พอใจในหมู่คนเชื้อสายเอเชีย และเป็นสิ่งสำคัญที่ตำรวจต้องพูดคุยและมีส่วนร่วมมากขึ้นกับชุมชนเหล่านี้       เวลานี้ตำรวจในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ กำลังพยายามเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนชาวเอเชียหลังจากที่เกิดความรุนแรงต่อประชากรกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เกิดการระบาดของโคโรนาไวรัสเมื่อหนึ่งปีก่อน รายงานสำรวจของ Center for the Study of Hate and Extremism ที่มหาวิทยาลัย California State วิทยาเขตซานเบอร์นาดิโน ชี้ให้เห็นว่า แม้ตัวเลขการเกิดอาชญากรรมในอเมริกาลดลงเล็กน้อยเมื่อปีที่แล้ว แต่อาชญากรรมต่อกลุ่มประชากรเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิกกลับเพิ่มขึ้นราว 145% รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผู้สูงอายุชาวฟิลิปปินส์ถูกทำร้ายที่นครนิวยอร์ก และภาพวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ สร้างความตกใจและโกรธแค้นในกับชุมชนคนเอเชียจำนวนมาก นอกจากที่เมืองซานโฮเซ่แล้ว ตำรวจในนิวยอร์กและนครชิคาโก ต่างเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนชาวเอเชียมากขึ้นเช่นกัน รวมทั้งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปในย่านที่มีคนเอเชียหนาแน่นมากขึ้นด้วย   ———————————————————————————————————————————————————…

คุมตัว “ครูสาว” สอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนในยะลา อ้างเอี่ยวเหตุปล้นรถทำคาร์บอมบ์

Loading

      ยะลา – ฝ่ายความมั่นคงฯ ควบคุมตัว “ครูสาว” สอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา หลังมีเบาะแสเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นรถยนต์วางระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ สภ.รามัน จ.ยะลา มีรายงานจากจังหวัดยะลาว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ควบคุมตัว “ครูสาว” สอนภาษาอังกฤษรายหนึ่ง ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา ไปยังศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี หลังสืบทราบว่า ครูสาวคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้อง และให้ที่พักพิงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นรถยนต์ขนส่งเอกชน ก่อนนำไปก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์หลัง สภ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวครูสาวคนดังกล่าวไปทำการซักถามเพื่อตรวจสอบประวัติ และเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา มีตัวแทนจากคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางเข้าเยี่ยมครูสาวคนดังกล่าว โดยพบว่าครูสาวได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ และมีการดูแลอำนวยความสะดวกภายในสถานที่ซักถามเป็นอย่างดี อีกทั้งได้อนุญาตให้ญาติผู้ใกล้ชิดได้เข้าเยี่ยมได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นนั้นสาเหตุจากการควบคุมตัว สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้เบาะแส และหลักฐานที่พบว่าครูสาวคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ทั้งการให้ที่พักพิงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์มือถือ…

จอร์แดนกล่าวหา อดีตมกุฎราชกุมาร สมคบต่างชาติต่อต้านรัฐบาล

Loading

  รองนายกรัฐมนตรีจอร์แดนกล่าวหา เจ้าชายฮัมซาห์ อดีตมกุฎราชกุมาร สมคบรัฐบาลต่างชาติ พยายามทำลายเสถียรภาพของชาติ หลังรัฐบาลดำเนินการจับกุมบุคคลระดับสูงเมื่อวันเสาร์ สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า นายไอย์มาน ซาฟาดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจอร์แดน กล่าวในวันอาทิตย์ที่ 4 เม.ย. 2564 ว่า สำนักงานข่าวกรองสามารถสกัดแผนการร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ใน นายซาฟาดี อ้างด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่สายลับต่างชาติติดต่อกับพระชายาของเจ้าชายฮัมซาห์ และหารือกันเรื่องการเดินทางออกจากประเทศด้วยเครื่องบิน ซึ่งการสื่อสารทั้งหมดได้รับตรวจสอบแล้ว โดยจนถึงตอนนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับแผนการร้ายนี้แล้ว 15 คน รายล่าสุดคือนาย ยัสเซอร์ อัล-มาจาลี ผู้อำนวยการสำนักงานของเจ้าชายฮัมซาห์ ซึ่งญาติของนายมาจาลีระบุว่า เจ้าหน้าที่บุกใช้ปืนจี้จับกุมเขาถึงที่บ้าน “การสืบสวนเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมและความเคลื่อนไหวเหล่านี้ไปถึงขั้นที่ สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของประเทศโดยตรงแล้ว” นายซาฟาดีกล่าว “แต่สมเด็จพระราชาธิบดีตัดสินพระทัยว่า เป็นการดีที่สุดที่จะพูดคุยกับเจ้าชายฮัมซาห์โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาเป็นการภายในราชวงศ์เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้ประโยชน์”       บุคคลสำคัญที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์นี้รวมไปถึงนายบาสเซม อาวาดัลเลาะห์ อดีตที่ปรึกษาราชสำนักซึ่งมีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 และนายชาริฟ ฮัสซัน บิน ซาอิด สมาชิกรางวงศ์จอร์แดนและเป็นพระญาติห่างๆ ของคิงอับดุลเลาะห์ที่ 2…

‘เฟซบุ๊ก’ ทำข้อมูลรั่วกว่า 533 ล้านบัญชีทั่วโลก เผย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ไม่รอด

Loading

  เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เดลีเมลล์ รายงานว่า ชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัว รวมไปถึงบัญชีผู้ใช้ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊กก็เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกขโมย และถูกนำมาเผยแพร่ทางออนไลน์โดยฝีมือของแฮกเกอร์ รวมไปถึงข้อมูลของ คริส ฮิวจ์ส และดัสติน มอสโควิส ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊กด้วยเช่นกัน         อารอน กัล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ฮัดสัน ร็อก บริษัทข่าวกรองด้านการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ของอิสราเอล เปิดเผยว่า ฐานข้อมูลที่รั่วไหลออกมาดังกล่าว ดูเหมือนจะเป็นชุดเดียวกับหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับเฟซบุ๊ก ที่หมุนเวียนกันใช้ในกลุ่มแฮกเกอร์ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวถูกซื้อ-ขายในหมู่อาชญากรไซเบอร์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และในตอนนี้ข้อมูลการรั่วไหลดังกล่าวสามารถถูกเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ๆ กัลยังได้เปิดเผยอีกว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง เพราะว่าเขาสามารถตรวจสอบบางข้อมูลได้ ด้วยการเปรียบเทียบกับหมายเลขโทรศัพท์ของบางคนที่รู้จัก นอกจากนี้ยังมีความพยายามของสื่อบางแหล่งยังระบุว่าสามารถตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่รู้จักกับข้อมูลที่รั่วไหลออกมาได้       ทั้งนี้ข้อมูลที่รั่วไหลออกมานั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กกว่า 533 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นราว ๆ 1 ใน 4 ของผู้ใช้งานทั้งหมด จาก…

‘ลี เซียน หลุง’ เผยถูกแอบใช้โปรไฟล์ทวิตเตอร์

Loading

    นายกรัฐมนตรีลี เซียน หลุงของสิงคโปร์ เปิดเผยในวันศุกร์ (2 เม.ย.) ว่า โปรไฟล์ทวิตเตอร์ @leehsienloong ของเขาถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตบนแพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับผู้ใช้งานเพื่อซื้อและเก็งกำไรเงินคริปโตเคอเรนซี นายลีโพสต์ในเฟซบุ๊คว่า “ผมได้ส่งทวีตแบบเปิดไปยังผู้สร้างเว็บไซต์ดังกล่าวซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อขอให้ทำการลบชื่อและรูปภาพของผมออกจากเว็บไซต์ดังกล่าวในทันที เนื่องจากผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับแพลตฟอร์มนั้น” นายลีระบุว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวกำลังสร้างความเข้าใจผิด และกระทำการที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผม พร้อมกันนี้ นายลียังขอให้ทุกคนระมัดระวังในการติดต่อกับแพลตฟอร์มคริปโตเคอเรนซีต่างๆ เขาเตือนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับแพลตฟอร์มใดๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ (เอ็มเอเอส) เนื่องจากยังไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายในกรณีดังกล่าว “ก่อนทำการลงทุนใดๆ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ใช่แพลตฟอร์มปลอม และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง” นายลี กล่าว   ————————————————————————————————————————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ             / วันที่เผยแพร่  3 เม.ย.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/930700