หลังเกิดการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณพื้นที่ “ช่องบก” หรือ “สามเหลี่ยมมรกต” เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา จนบานปลายสู่การที่กัมพูชาพยายามลากไทยขึ้น “ศาลโลก” แทนการเจรจาในวงประชุม การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2568 เพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมเจบีซี พบว่าตามด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเราจะสรุปให้ดังนี้
ด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ด่านช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ ด้านฝ่ายความมั่นคง ยังคงเข้มงวดในการตรวจตราการผ่านเข้า-ออก ทั้งบุคคลและยานพาหนะ ซึ่งด่านจะเปิดเฉพาะวันจันทร์, พุธ และศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ขณะที่ฝั่งกัมพูชา จะเปิดด่านในเวลา 09.00 – 16.00 น.
โดยบรรยากาศที่ด่านช่องสะงำนี้ พบว่า การท่องเที่ยวมีการชะลอตามมาตรการของทั้งสองฝ่าย การขนส่งสินค้าบางรายการหยุดชะงัก ขณะที่ผู้ค้าทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ยังติดต่อซื้อขายกันได้อยู่
ขณะที่การเดินทางกลับของแรงงานกัมพูชาในแต่ละวันพบว่ามีจำนวนไม่มาก เนื่องจากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำจะเป็นพื้นที่ที่ใช้ติดต่อซื้อขายสินค้าระหว่างไทยและกัมพูชามากกว่า นอกจากนี้ ชาวกัมพูชาที่มักข้ามแดนเข้ามา ก็จะมาใช้บริการด้านรักษาสุขภาพในโรงพยาบาลของประเทศไทย
ด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
สำหรับจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังไทยมีมาตรการตอบโต้กัมพูชา โดยจะมีการเปิดด่านสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์, พุธ และ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ขณะที่ฝั่งกัมพูชา จะเปิดด่านในเวลา 09.00 – 16.00 น.
ซึ่งสถานการณ์ที่ช่องจอมนี้ ล่าสุดพบว่าแรงงานชาวกัมพูชายังมีการขออนุญาตข้ามแดนมาทำงานในไทย ส่วนคนไทยพบว่ามีการข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชาลดลงมาก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้มีการตรวจตรารถยนต์ และกระเป๋าสัมภาระของชาวกัมพูชา ที่เดินทางข้ามแดนกลับประเทศอย่างเข้มงวด เนื่องจากทางกัมพูชาห้ามนำเข้าผลไม้ไทย พืชผัก ของสด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ และอาหารทะเลต่างๆ
ขณะที่รถบรรทุกสินค้า รถบรรทุกไอศกรีม รถบรรทุกน้ำแข็ง และรถบรรทุกมันสัมปะหลัง ยังคงทะลักไปกัมพูชาจำนวนมากเช่นเดิม ขณะที่ไทยยังไม่มีกฎข้อห้ามใดๆ เกี่ยวกับการนำเข้าของกัมพูชา ห้ามเพียงบุคคลเข้าไปเล่นพนันในบ่อนกาสิโน
จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ภายหลังทางการไทยมีคำสั่งเข้มงวด “ห้ามนักพนัน นักท่องเที่ยว และพนักงานสถานบันเทิง” เดินทางข้ามไปยังประเทศกัมพูชาโดยเด็ดขาด ส่งผลให้บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจพบว่ากลุ่มที่เคยเป็นที่จับตาอย่าง “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ก็หายไปจากพื้นที่ด่านคลองลึก ไม่ปรากฏตัวเหมือนเช่นเคย ไม่มีการเข้าแถว ไม่มีการรวมตัวบริเวณหน้าด่านแต่อย่างใด สร้างความผิดสังเกตให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่
ด่านถาวรบ้านแหลม / ด่านถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
บรรยากาศทั่วไปที่บริเวณด่านถาวรบ้านแหลม และด่านถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน พบว่า ยังคงมีแรงงานกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนทำงานในไทยอย่างถูกกฎหมาย ข้ามแดนเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหลายคนก็เริ่มเข้าใจ และเชื่อมั่นว่าทางการไทยจะไม่มีการจับกุม หรือผลักดันแรงงานที่ถูกกฎหมายกลับประเทศ ตามที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้
ขณะที่การค้าขายระหว่างประเทศยังทำได้ตามปกติ แต่กัมพูชาหามนำเข้าผัก ผลไม้ อาหารสดจากไทย
ด่านบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย. 68) ที่จังหวัดเกาะกง เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาขอยุติการใช้ไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าคลองใหญ่ จังหวัดตราด โดยสาเหตุเบื้องต้นมาจากรถเครนภายในพื้นที่เกิดเกี่ยวสายไฟฟ้าขาดทำให้ไฟฟ้าดับ ทางกัมพูชานึกว่าทางไทยตัดไฟ จึงประกาศไม่ใช้ไฟจากฝั่งไทย พร้อมสลับไฟไปใช้กระแสไฟจากเขื่อนตาไต จังหวัดเกาะกงแทน
ขณะที่บรรยากาศการค้าชายแดน บริเวณบ้านหาดเล็ก พบว่าหลายร้านปิดให้บริการ เนื่องจากพ่อค้า แม่ค้า และแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาขายสินค้าในไทยต่างเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ซึ่งที่ด่านนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งด่านที่ทางกัมพูชามีการตรวจเข้มห้ามรถนำเข้าผัก ผลไม้ และอาหารสดจากไทย
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 17 มิถุนายน 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/local/2865231