เปิดโปง ‘ธนาคารสวิส’ ถูกใช้เป็นเส้นทางการเงินให้อาชญากรได้อย่างไร? ไทยแห่เปิดนับพันบัญชี

Loading

  ประเทศที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่สุดที่ใช้บริการเครดิตสวิสนั้นคือประเทศอย่างเวเนซุเอลาและประเทศอียิปต์ ซึ่งมีผู้เปิดบัญชีเครดิตสวิสประเทศละประมาณ 2,000 บัญชี และประเทศยูเครนกับประเทศไทย ที่มีผู้เปิดบัญชีอยู่ที่ประเทศละประมาณ 1,000 บัญชี สืบเนื่องจากที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานข่าวการเปิดโปงครั้งใหญ่อันเกี่ยวข้องกับธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของโลกอันได้แก่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) โดยการเปิดโปงดังกล่าวนั้นได้บอกเล่าถึงวิธีการที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยของธนาคารนั้นได้ดำเนินการปกปิดความมั่งคั่งของพวกเขา ซึ่งความมั่งคั่งดังกล่าวนั้นมีที่มาอันไม่ถูกกฎหมาย อาทิ มาจากการทรมาน การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการทุจริตเป็นต้น จากกรณีดังกล่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเอารายงานข่าวส่วนหนึ่งของสำนักข่าวการ์เดียน ซึ่งเป็นสำนักข่าวแรกๆที่รายงานการเปิดโปงนี้มานำเสนอมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การเปิดโปงข้อมูลบัญชีลูกค้าจำนวนกว่า 30,000 บัญชี ของธนาคารเครดิตสวัสจากทั่วโลกที่อยู่ในเอกสารที่รั่วไหลนั้นได้แสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านฟรังก์สวิส (3,538,151,085,000 บาท) ที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ในหนึ่งในสถาบันการเงินอันเป็นที่รู้จักดีที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และการเปิดโปงดังกล่าวนี้นั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความล้มเหลวในกระบวนการตรวจสอบของธนาคารเครดิตสวิส แม้ว่าจะมีการให้คำมั่นสัญญาจากทางธนาคารมาโดยตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาว่าจะขจัดลูกค้าและเงินทุนอันน่าสงสัยออกไป อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานของสำนักข่าวการ์เดี้ยนร่วมกับสำนักข่าวอื่นๆนั้นพบว่า เครดิตสวิสยังคงมีการคงบัญชีและเปิดบัญชีใหม่ให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงในด้านอาชญากรรมทั่วโลก ซึ่งอาชญากรรมที่ว่านี้ก็รวมไปถึงกรณีการค้ามนุษย์ในประเทศฟิลิปปินส์,ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงที่ต้องโทษจำคุกเพราะกรณีการจ่ายสินบน,มหาเศรษฐีผู้สั่งให้ฆาตกรรมแฟนสาป๊อปสตาร์ชาวเลบานอนที่ตอนนี้กำลังต้องต่อสู้ในหลายคดี,ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจน้ำมันของเวเนซูเอลา รวมไปถึงนักการเมืองผู้ทุจริตในยูเครนไปจนถึงอียิปต์ มีรายงานต่อไปด้วยว่า หนึ่งในบัญชีที่ถูกเปิดนั้น เจ้าของบัญชีเป็นผู้อยู่ในนครรัฐวาติกัน และยังพบด้วยว่าบัญชีนี้มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 350 ล้านปอนด์ (15,403,082,194 บาท) อันเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ไม่โปรงใสในอสังหาริมทรัพย์ที่กรุงลอนดอน ซึ่งจากการสืบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนี้นั้น ก็ทำให้เกิดกรณีการฟ้องร้องไปยังจำเลยหลายคนรวมไปถึงพระคาร์ดินัล อนึ่งที่ไปที่มาของการเปิดโปงข้อมูลจำนวนมหาศาลดังกล่าวนั้นมาจากผู้เปิดโปงอันไม่ระบุนามที่ได้ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์สัญชาติเยอรมนีชื่อว่า Süddeutsche Zeitung ซึ่งทางด้านของผู้เปิดโปงได้กล่าวว่า ตัวเขาเชื่อว่ากฎระเบียบเรื่องความลับของธนาคารสวิสนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศีลธรรมและข้ออ้างในเรื่องของการปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงินนั้นแท้จริงแล้วเป็นการปกปิดบทบาทของธนาคารสวิสในการทำงานร่วมกันกับผู้หลีกเลี่ยงภาษี…

ห่วงคนไทยในยูเครน นายกฯ สั่งเตรียมพร้อมเครื่องบินเช่าเหมาลำหากต้องอพยพ

Loading

“บิ๊กตู่” ห่วงใยคนไทยในยูเครน สั่งเตรียมพร้อมจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำหากเกิดเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องอพยพ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ได้กำหนดแผนอพยพคนไทยไว้พร้อมแล้ว หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินสืบเนื่องจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่หากมีการปิดน่านฟ้าจะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานถึงสถานการณ์ในยูเครนเป็นระยะๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยคนไทยที่อยู่ในยูเครน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุจำเป็น รวมทั้งสอบถามความเป็นอยู่ของชาวไทยและให้เตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้กำหนดแผนการว่าจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำอพยพคนไทยจากยูเครนโดยตรง ส่วนกรณีน่านฟ้าปิด จะอพยพคนไทยมารวมกันเพื่อเดินทางข้ามแดนโดยรถต่อไปยังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย และกรณีสุดท้ายคือ ทางการไทยจะจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนไทยที่ยูเครน หรือ กรุงวอร์ซอ ซึ่งการบินไทยและกองทัพอากาศร่วมเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ทั้งนี้ คนไทยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หมายเลข +48-696-642-348 (24 ชม.) หรือ E-mail : thaiconsularwarsaw@thaiemb.pl     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    /   วันที่เผยแพร่ 24 ก.พ.65 Link :…

ด่วน ‘ปูติน’ เปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ระเบิดสนั่นหลายเมือง

Loading

เปิดศึกแล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี เสียงระเบิดดังสนั่นทันทีในกรุงเคียฟและอีกหลายเมือง ยูเครนสั่งปิดน่านฟ้า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนจะมีคนล้มตายจำนวนมากมาย แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย (Photo by Ramil SITDIKOV / SPUTNIK / AFP)   เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศผ่านโทรทัศน์อย่างไม่มีวี่แววล่วงหน้าในเวลา 06.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ตามเวลามอสโก ซึ่งตรงกับเวลา 10.00 น. ของไทยว่า เขาตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางทหาร โดยอ้างว่าต้องการทำให้ยูเครน “ปลอดการทหาร” แต่ไม่คิดยึดครอง และเรียกร้องให้ทหารยูเครนยอมวางอาวุธ พร้อมให้คำมั่นว่าทหารยูเครนสามารถออกจากสนามรบได้โดยจะไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ปูตินอ้างเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจของเขาว่าเกิดการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงนโยบายก้าวร้าวที่นาโตมีต่อรัสเซีย “สำหรับสิ่งนี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ให้การทำให้ยูเครนปลอดทหารและขจัดลัทธินาซี” พร้อมให้คำมั่นว่า จะนำพวกที่ก่ออาชญากรรมมากมาย พวกที่รับผิดชอบต่อการนองเลือดของพลเรือน รวมถึงพลเมืองรัสเซีย มาขึ้นศาล ประธานาธิบดีรัสเซียที่เคยยืนกรานว่า…

ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉิน-แจ้งพลเมืองกลับประเทศ ผวารัสเซียจู่โจมเต็มรูปแบบ

Loading

ยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันพุธ (23 ก.พ.) และแจ้งให้พลเมืองที่อยู่ในรัสเซียเดินทางกลับมาตุภูมิทันที หลังจากมอสโกเริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ในสถานทูตประจำกรุงเคียฟ ในสัญญาณลางร้ายล่าสุดสำหรับชาวยูเครนที่หวั่นเกรงว่ารัสเซียอาจเปิดปฏิบัติการโจมตีเต็มรูปแบบ เหตุยิงระเบิดโจมตีกันไปมาตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เมื่อวันอังคาร (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพิ่งประกาศรับรองเอกราชของ 2 เขตกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย และสั่งให้กองกำลังมอสโกเข้าประจำการในดินแดนดังกล่าวในฐานะ “กองกำลังรักษาสันติภาพ” ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ขบวนยุทโธปกรณ์ทางทหาร ในนั้นรวมถึงรถถัง 9 คัน ได้เคลื่อนจากชายแดนของรัสเซีย เข้าสู่เมืองโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ปูติน จะลงมือโจมตีครั้งใหญ่เล่นงานยูเครนหรือไม่ แม้ระดมกองกำลังมากกว่า 100,000 นายตามแนวชายแดนติดกับยูเครน ในขณะที่เจ้าหน้าที่กลาโหมรายหนึ่งของสหรัฐฯ เชื่อว่ากองกำลังรัสเซียพร้อมแล้วสำหรับการลงมือโจมตี “ให้คาดเดาว่าก้าวย่างต่อไปของรัสเซียคืออะไร ให้เดาการตัดสินใจของพวกแบ่งแยกดินแดนหรือการตัดสินใจส่วนตัวของประธานาธิบดีรัสเซีย ผมไม่อาจล่วงรู้ได้” ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ โซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าว ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วันผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในวันพุธ (23 ก.พ.) โดยมีเป้าหมายช่วยหล่อหลอมแนวทางตอบสนองต่อภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซีย มาตรการที่ได้รับความเห็นชอบอย่างท่วมท้นนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มอสโกเริ่มต้นอพยพบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตในกรุงเคียฟ และวอชิงตันยกระดับคำเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่รัสเซียจะลงมือโจมตีเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะเปิดทางให้รัฐบาลเขตต่างๆ ของยูเครน บังคับใช้มาตรการความมั่นคงขั้นสูงสุด ไล่ตั้งแต่ค้นเอกสารสำคัญประจำตัวของประชาชนและตรวจค้นยานพาหนะเข้มข้นขึ้น…

เปิดภาพวงจรปิด 2 คนร้ายปา “ไปป์บอมบ์” ถล่มจุดตรวจสายบุรี

Loading

  ตำรวจได้หลักฐานกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ 2 คนร้ายควบมอเตอร์ไซค์ขว้าง “ไปป์บอมบ์” ใส่จุดตรวจบ้านใต้ เทศบาลตะลุบัน สายบุรี ปัตตานี โชคดีระเบิดตกพลาดเป้า ไร้เจ็บ สั่งล่ามือบึ้ม สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 13.30 น.วันพุธที่ 23 ก.พ.65 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพ็ชรกาศ ผู้กำกับการ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นยานพาหนะ ขับขี่ไปขว้างระเบิดใส่จุดตรวจบ้านใต้ ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จนเกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิดบริเวณแท่นซีเมนต์ที่กั้นจุดตรวจ โดยแท่นซีเมนต์แตกหักเล็กน้อย มีเศษตะปูซึ่งเป็นสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน แต่จุดที่ระเบิดตกไม่มีบุคคลหรือทรัพย์สินของทางราชการตั้งอยู่ จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ     ต่อมา ผู้กำกับการ สภ.สายบุรี ได้สั่งตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณหน้าจุดตรวจ พบว่าสามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยที่เป็นผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยผู้ก่อเหตุมี 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง เป็นพาหนะ คนขับใส่กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ต…

สหรัฐพบ “Emotet” มัลแวร์ขโมยข้อมูลระบาดทั่วโลกผ่านทางอีเมล

Loading

  พรูฟพอยต์ อิงค์ (Proofpoint Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยข้อมูลของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พบผู้เสียหายจากมัลแวร์ Emotet (อีโมเท็ต) มากกว่า 2.7 ล้านรายทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Emotet ได้ถูกกำจัดไปแล้วก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า Emotet ซึ่งถือว่าเป็นมัลแวร์อันตรายที่สุดในโลกนั้น ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2557 โดยมัลแวร์ดังกล่าวสามารถขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน และติดตั้งโปรแกรมควบคุมระยะไกลโดยส่งมัลแวร์ผ่านทางอีเมลปลอมที่ส่งเป็นข้อความตอบกลับจากลูกค้าและเพื่อน พรูฟพอยต์รายงานว่า Emotet มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วสู่คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ผ่านไฟล์แนบในอีเมลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายที่ได้รับการยืนยัน 90,000 รายในเดือน พ.ย. 2564 และมากกว่า 1.07 ล้านรายในเดือน ม.ค. 2565 จากนั้นในช่วงต้นเดือน ก.พ.ปีนี้ ก็ตรวจพบอีกมากกว่า 1.25 ล้านราย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ตั้งข้อสงสัยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่รอดจากการปราบปรามทั่วโลกเมื่อเดือน ม.ค. 2564 นั้น ได้เริ่มแพร่กระจาย Emotet เมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ หน่วยงานใน…