บึ้มรร.สอนศาสนาปากีสถาน ดับอย่างน้อย7ศพ-บาดเจ็บระนาว

Loading

27 ต.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ของปากีสถานวันนี้ (27 ต.ค.) เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 80 คน ตำรวจเมืองเปชวาร์ เมืองเอกของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาเผยว่า มีบุคคลนิรนามนำระเบิดใส่ถุงพลาสติกมาวางไว้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเผยว่า ได้รับศพผู้เคราะห์ร้าย 7 คน บาดเจ็บ 70 คน ส่วนใหญ่เป็นแผลไหม้จากระเบิด ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 4 คน ชาวเมืองคนหนึ่งเผยว่า โรงเรียนดังกล่าวสอนผู้ใหญ่เป็นส่วนใหญ่ ขณะเกิดเหตุมีคนกำลังเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก ญาติวัย 27 ปีของเขาที่เป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายเล่าว่า ระเบิดดังสนั่นขณะกำลังเรียน นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่านของปากีสถาน ทวีตข้อความแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หลังเกิดระเบิดในโรงเรียนศาสนาแห่งหนึ่งในเมืองเปชาวาร์ทางภาคเหนือของประเทศเมื่อเช้าวันนี้ มีคนเสียชีวิต 8 ราย มีผู้บาดเจ็บ 123 คน พร้อมกำชับให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร็ว เหตุระเบิดมีขึ้นขณะเปิดสอนชั่วโมงแรกประจำวันนี้ เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ ส่วนสาเหตุของเหตุระเบิด นายวาการ์ อาซีม ตำรวจระดับสูงของเมืองเปชาวาร์ ระบุว่าเบื้องต้น ตำรวจพบระเบิดแสวงเครื่องขนาด 5-6 กก.บรรจุอยู่ในถุงใบหนึ่งที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้ในโรงเรียน ระบุว่า…

อินเดีย – สหรัฐฯ เตรียมลงนามแชร์ข้อมูลสำคัญจากดาวเทียมทางทหาร

Loading

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า อินเดียจะลงนามกับสหรัฐฯ เพื่อแบ่งปันข้อมูลสำคัญจากดาวเทียมทางการทหารระหว่างกัน ขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังจัดการประชุมเจรจาระดับสูงที่กรุงนิวเดลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาร์ค เอสเปอร์ เดินทางไปยังกรุงนิวเดลีในวันจันทร์ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียเรื่องการต้านทานอำนาจทางทหารของจีน ในช่วงที่อินเดียกำลังมีความตึงเครียดกับจีนตรงบริเวณพรมแดนของสองประเทศในแถบเทือกเขาหิมาลัย ก่อนหน้าการเจรจาอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีเอสเปอร์ได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย ราชนาธ ซิงห์ เรื่องข้อตกลงความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลจากดาวเทียมระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์ (BECA) ระหว่างกัน ซึ่งพร้อมที่จะลงนามโดยทั้งสองฝ่ายแล้ว ตามการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอินเดีย ข้อตกลงที่ว่านี้จะทำให้อินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการระบุตำแหน่งเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้สหรัฐฯ จัดหาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าด้านการระบุตำแหน่งและการบินเพื่อติดตั้งในเครื่องบินทหารที่สหรัฐฯ ขายให้แก่อินเดียด้วย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 บริษัทอเมริกันได้ขายอาวุธต่าง ๆ ให้แก่อินเดีย เป็นมูลค่ากว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ และทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ในอุปกรณ์ทางการทหารที่มีความทันสมัยสูงอีกด้วย รัฐมนตรีเอสเปอร์ยังได้แสดงความยินดีที่ออสเตรเลียจะเข้าร่วมในการซ้อมรบทางทะเลบริเวณอ่าวเบงกอลในเดือนหน้า ระหว่าง 3 ประเทศ คือ สหรัฐฯ อินเดีย และญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ จีนได้คัดค้านการซ้อมรบดังกล่าวซึ่งจีนมองว่าเป็นความพยายามต้านทานอิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งอินเดียมีท่าทีโอนอ่อนตามจีนจนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างสองประเทศบริเวณเทือกเขาหิมาลัยเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา —————————————————– ที่มา…

จีนยกเครื่องกองทัพ ปฏิรูประบบการศึกษาทหารมุ่งสร้างกองทัพระดับโลก

Loading

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง อนุมัติแนวทางการศึกษาทางทหารซึ่งจะปฏิรูประบบใหม่เพื่อฝึกฝนบุคลากรให้มีความสามารถมากขึ้นสำหรับกองทัพที่ทันสมัย การยกเครื่องทหารเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัยซึ่งเป็นโครงการที่ผลักดันมาตั้งแต่ปี 2017 ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างกองทัพระดับโลกที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดแข็งภายในปี 2035 เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจีนทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารและจัดให้มีการฝึกซ้อมมากขึ้นเพื่อเพิ่มความพร้อมในการต่อสู้ โดยสีจิ้นผิงเน้นย้ำให้กองทัพพร้อมรบซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับสหรัฐรวมถึงเกาะไต้หวันและทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรง และย้ำถึงความสำคัญของการมีทหารที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี โดยกล่าวว่าสถาบันการศึกษาของกองทัพก่อตั้งขึ้นเพื่อศึกษาวิธีการต่อสู้และชัยชนะจึงจำเป็นต้องเน้นการปฏิบัติจริงเพื่อให้มีความรู้และความสามารถพร้อมรบในสถานการณ์จริง อย่างไรก็ตามระบบการศึกษาทางทหารของจีนไม่ได้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในกองทัพ ทหารไม่สามารถมีความรู้ทางทฤษฎีเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีทักษะในทางปฏิบัติด้วย โจว เฉินหมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากปักกิ่งเผยว่า “ระบบการศึกษาทางทหารของจีนล้มเหลวในการฝึกอบรมบุคลากรสำหรับกองทัพที่สมัย เนื่องจากมหาวิทยาลัยบางแห่งกำลังสอนวิชาความรู้ทั่วไปโดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การทหาร การศึกษาบางส่วนวิชาการเกินไปเสมือนเป็นการฝึกให้ทหารกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ซึ่งพวกเขาจะไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของกองกำลังต่อสู้ในปัจจุบัน” ทั้งนี้ จีนมีมหาวิทยาลัยทหารสองแห่งคือ มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศแห่งชาติ PLA และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ นอกจากนี้ยังมีองค์กรการศึกษาอื่นๆ อีกหลายสิบแห่งที่มุ่งเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น เรือดำน้ำ และรถหุ้มเกราะ นอกจากนี้กองทัพจันยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยเป่ยหังเพื่อฝึกอบรมบุคลากรทางทหารตั้งแต่นักบินรบไปจนถึงผู้บังคับบัญชา Photo by Noel Celis / AFP ———————————————— ที่มา :  โพสต์ทูเดย์ / 23 ตุลาคม 2563 Link : https://www.posttoday.com/world/636280

ข่าวกรองสหรัฐฯ โบ้ยรัสเซียและอิหร่านแทรกแซงศึกเลือกตั้ง หลังพบอีเมลข่มขู่ให้เลือกทรัมป์

Loading

จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ดีเอ็นไอ) แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (21 ต.ค.) ว่ารัสเซียและอิหร่านต่างพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา 2020 หลังพบอีเมลส่งถึงบรรดาสมาชิกเดโมแครต ข่มขู่ให้หันมาเลือกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน แรตคลิฟฟ์ กล่าวอ้างดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่มีการตระเตรียมอย่างเร่งรีบ และร่วมด้วย คริสโตเฟอร์ เรย์ อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) การแถลงข่าวครั้งนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง และแสดงให้เห็นถึงระดับความกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าตัวแสดงต่างชาติอาจกำลังหาทางบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของอเมริกันต่อความซื่อสัตย์ของศึกเลือกตั้ง และแพร่ข้อมูลข่าวเท็จในความพยายามเบี่ยงผลการลงคะแนน “เรายืนยันว่าอิหร่านและรัสเซียมีข้อมูลทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วน” แม้ข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไป แต่ แรตคลิฟฟ์ บอกว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลเห็นอิหร่านส่งเมลที่แอบอ้างอีเมลแอดเดรสของผู้อื่น (spoofed emails) ข่มขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปลุกปั่นความไม่สงบทางสังคมและก่อความเสียหายแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ อ้างถึงอีเมลที่ถูกส่งออกมาเมื่อวันพุธ (21 ต.ค.) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ดูเหมือนส่งออกจากมาจากพวก Proud Boys กลุ่มลัทธิชาตินิยมคนผิวขาว ที่เกลียดชังผู้หญิงและเกลียดกลัวอิสลามที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนหน้านี้บรรดาหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เคยเตือนว่าอิหร่านอาจแทรกแซงเพื่อบ่อนทำลายทรัมป์ ส่วนรัสเซียกำลังพยายามช่วยเหลือทรัมป์ในศึกเลือกตั้ง ผู้สันทัดกรณีในวงนอก มองว่าหากข้อสันนิษฐานของแรตคลิฟฟ์นั้นถูกต้อง…

‘อังกฤษ’ แฉ ‘รัสเซีย’ เล็งโจมตีทางไซเบอร์ 2 อีเวนท์ใหญ่ใน ‘ญี่ปุ่น’

Loading

“อังกฤษ” แฉ และประณามการกระทำ “รัสเซีย” เล็งเป้าโจมตีทางไซเบอร์ในงานโตเกียวโอลิมปิก-พาราลิมปิก ส่อสร้างสถานการณ์รุนแรงป่วน รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซีย(GRU) ได้ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์โดยมีเป้าหมายไปที่การแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ รายงานระบุว่า GRU มีส่วนในกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตรายก่อนญี่ปุ่นตัดสินใจในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาที่จะเลื่อนการแข่งกีฬาโอลิมปิกออกไปเป็นปีหน้า อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลอังกฤษระบุว่า การสอดแนมทางไซเบอร์มีเป้าหมายโจมตีองค์กรที่จัดงาน บริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ และบริการด้านโลจิสติกส์ โดยในขณะนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียดของการโจมตีทางไซเบอร์ และยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีทางไซเบอร์สร้างความเสียหายอย่างแท้จริงกับเป้าหมายดังกล่าวหรือไม่ รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นแคมเปญล่าสุดของกิจกรรมทางไซเบอร์ที่อันตรายของรัสเซียที่มีต่อการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเรียกการโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียว่าเป็น การเหยียดหยามและการไม่ยั้งคิด และอังกฤษขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรงที่สุด นายร้าบ  ระบุเสริมด้วยว่า อังกฤษจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเรียกร้องและตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ในอนาคต สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โตเกียวโอลิมปิกได้ถูกเลื่อนไปจัดในระหว่างวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค.ในฤดูร้อนปีหน้า ตามด้วยการแข่งพาราลิมปิกในวันที่ 24 ส.ค. ถึง 5 ก.ย. ———————————————- ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / 20 ตุลาคม 2563 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/903545

การบ่อนทำลายสู่การใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร

Loading

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552 ให้ความหมายคำว่า “การบ่อนทำลาย” (subversion) คือ การกระทำใด ๆ ที่มุ่งก่อให้เกิดความแตกแยก ความปั่นป่วน ความกระด้างกระเดื่อง อันจะนำไปสู่ความไม่สงบ หรือความอ่อนแอภายในชาติ หรือต่อสภาพทางการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา หรือทางใดทางหนึ่ง โดยวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง หรือล้มล้างสถาบันการปกครองของประเทศ หรือเพื่อทำลายความจงรักภักดีของประชาชนในชาติต่อสถาบันของชาติ หรือเพื่อประโยชน์แก่รัฐต่างประเทศ  การบ่อนทำลายนับเป็นกลวิธีที่สามารถนำมาใช้กับเป้าหมายพื้นฐานทุกกลุ่มของประเทศได้  โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อทำลายความเป็นรัฐ หรือให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือทำลายสถาบันแห่งชาติ เดิมการบ่อนทำลายเป็นยุทธวิธีที่ต้องดำเนินการอย่างปิดบังในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายที่ตกเป็นเป้าหมาย การบ่อนทำลายจึงเป็นการดำเนินการที่จะมีเพียงผู้ให้การสนับสนุนกับผู้ปฏิบัติที่ได้ทราบถึงภารกิจ  เพราะเป็นภารกิจที่เสี่ยงภัยอันตรายจนอาจถึงชีวิตของผู้ปฏิบัติ ซึ่งต้องจำกัดการรับทราบได้เท่าที่จำเป็น  เนื่องจากการแฝงเข้าไปค้นหาจุดอ่อนของฝ่ายที่ตกเป็นเป้าหมาย ทั้งที่ฝ่ายที่ตกเป็นเป้าหมายอาจมีความเข้มแข็งเท่าเทียมกันหรือสูงกว่า ต่อเมื่อการเข้าไปสร้างความอ่อนแอ แตกแยกจนประสบผลแล้ว จึงจะดำเนินการทำลายอำนาจของฝ่ายที่ตกเป็นเป้าหมายให้สูญสลาย  วิธีการบ่อนทำลายนี้อาจไม่ทำลายหรือส่งผลกระทบต่อทรัพย์สิน สิ่งก่อสร้าง หรือทำให้สูญเสียชีวิต เช่น วิธีการต่อสู้อื่นเหมือนอย่างการก่อวินาศกรรม หรือการก่อการร้าย หรือการทำสงครามสู้รบ การบ่อนทำลายเป็นวิธีที่ยากต่อการป้องกันหรือแม้แต่การวางมาตรการป้องปราม เพราะเป็นการสร้างหรือนำอคติของมนุษย์ที่มีต่อกันมาเป็นแนวทางในการทำลายหรือทำร้ายระหว่างกัน  ซึ่งเป็นกลวิธีที่ใช้มานับแต่สมัยพุทธกาล จะเห็นได้จากคำสอนเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ซึ่งเล่าถึงกลวิธีเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม  เริ่มจากความต้องการขยายดินแดนและนำไปสู่การสู้รบระหว่างแคว้นโบราณ 2 แคว้นในอินเดีย คือ แคว้นมคธกับแคว้นวัชชี ที่ต่างไม่ประสบผลแพ้-ชนะต่อกัน  ฝ่ายแคว้นมคธจึงใช้วิธีบ่อนทำลายแคว้นวัชชี ด้วยการทำอุบายส่งวัสสการพราหมณ์ ปุโรหิตแห่งแคว้นมคธ เข้าไปยุยงให้กลุ่มกษัตริย์ลิจฉวีแห่งแคว้นวัชชี แตกความสามัคคีจนแคว้นวัชชีอ่อนแอลง  แคว้นมคธจึงส่งกองทัพเข้ายึดครองได้สำเร็จ การทำการบ่อนทำลายจำเป็นต้องอาสัยสภาพพื้นฐานที่เอื้อต่อการดำเนินการ  เริ่มจากสภาพทางการเมืองภายในประเทศ…