บริษัทญี่ปุ่นกังวลพนักงานใช้ ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว เตรียมออกกฎป้องกัน

Loading

    บริษัทญี่ปุ่นนำโดย SoftBank Hitachi ได้เริ่มตั้งกฎจำกัดการใช้งานเทคโนโลยี AI ที่สามารถโต้ตอบได้อย่างเช่น ChatGPT ในการดำเนินธุรกิจ ห่วงข้อมูลรั่วไหล สั่งห้ามพนักงานป้อนข้อมูลสำคัญ   ความนิยมของ ChatGPT ความน่าทึ่งในศักยภาพของมัน และมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต ทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีเริ่มนำ AI เข้ามาใช้ช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการตอบข้อความ ร่างอีเมล สรุปประชุม และถามตอบข้อสงสัย อย่างไรก็ตามการใช้งานเทคโนโลยีนี้ยังคงทิ้งข้อกังวลไว้ให้ธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล ซึ่งล่าสุดบริษัทในญี่ปุ่นเริ่มขยับตัวออกมาตรการควบคุมป้องกัน   บริษัทญี่ปุ่นจำกัดการใช้งาน ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว   เมื่อเดือนที่แล้ว SoftBank ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และแอปพลิเคชันทางธุรกิจอื่น ๆ โดยห้ามพนักงานป้อนข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลใด ๆ ที่จะระบุถึงบริษัท และหลังจากนี้บริษัทจะสร้างกฎระเบียบขึ้นมาระบุว่าภาคส่วนใดบ้างในองค์กรที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีได้ รวมถึงระบุประเภทแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้ใช้   ด้าน Hitachi พิจารณากำหนดกฎจริยธรรมใหม่สำหรับการใช้งาน AI แบบโต้ตอบ เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยีของ Fujitsu ก็ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และบริการ AI…

T-Mobile ยอมจ่ายชดเชย 12,800 ลบ. ให้ลูกค้าโทรคมนาคม หลังถูกแฮ็กพาข้อมูลรั่ว

Loading

T-Mobile ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในสหรัฐฯ ยอมจ่ายชดเชย 12,800 ลบ. ให้ลูกค้า หลังถูกแฮ็กพาข้อมูลของกว่า 76 ล้านคน รั่ว T-Mobile ยอมจ่ายเงิน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 12,800 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินชดเชยในการยุติคดีจากลูกค้าที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่บริษัทปล่อยให้ข้อมูลของตนเองรั่วไหลออกมา ราว 76.6 ล้านคน พร้อมกับลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5,400 ล้านบาท ในระบบความปลอดภัยไซเบอร์ โดยในการฟ้องร้อง T-Mobile ให้การปฎิเสธว่า ตนเองละเลยการปกป้องข้อมูลของลูกค้าและปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทมีระบบความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ จากรายงานของ T-Mobile ระบุว่า มีการเจาะเข้าระบบฐานข้อมูลของบริษัท เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่ง ณ ขณะนั้นระบุว่ามีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลไปประมาณ 47 ล้านราย แต่ยอดข้อมูลของลูกค้าที่รั่วไหลออกไปกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 50 ล้านคน และในเดือนพฤศจิกายน บริษัทก็รายงานตัวเลขอีก 26 ล้านคน ที่ถูกโจรกรรมข้อมูลไป T-Mobile ได้กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวรวมถึงชื่อ ที่อยู่ วันเกิด…

ห้ามใช้ อินเดียแบน VPN หวั่นคลาวด์ทำข้อมูลรั่ว

Loading

  เกิดอะไรขึ้น รัฐบาลอินเดียออกประกาศบังคับไม่ให้พนักงานของรัฐใช้งาน VPN และคลาวด์ จากผู้ให้บริการรายอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อให้ผู้ให้บริการ VPN รายย่อยที่ให้บริการอยู่ในอินเดียปัจจุบันเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Nord VPN , Surfshark , ExpressVPN หรือ TOR ออกมาหยุดให้บริการทันทีหลังมีประกาศออกมาเพียงไม่กี่วัน Economic Times ยังได้ให้ข้อมูลว่า กฎข้อปฏิบัติใหม่ของอินเดีย ได้เพิ่มข้อจำกัดในการจัดเก็บเอกสารและข้อมูลสำคัญไว้บนคลาวด์ ไม่เว้นแม้แต่บริการที่ได้รับความนิยม อย่าง Google Drive และ Dropbox รวมไปถึงห้ามเจลเบรกสมาร์ทโฟนเพื่อลงแอปที่มีความเสี่ยงอีกด้วย รวมถึงห้ามใช้งานแอปพลิเคชั่นสัญชาติจีนที่เป็นอันตราย เช่น CamScanner ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายแอปที่อินเดียแบน เพื่อสแกนเอกสารภายในของรัฐบาล โดยข้อบังคับนี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ สาเหตุที่รัฐบาลอินเดียต้องตัดสินใจแบนบริการดังกล่าว ก็เพื่อสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ที่เป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหลาย ๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสำคัญอย่าง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ไม่เพียงเท่านั้น อินเดียยังเริ่มส่งสัญญาณต่อต้านการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น บริการส่งข้อความที่เข้ารหัสแบบ end-to-end…

กมธ.ความมั่นคงฯแฉเหตุ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ระบาด “ข้อมูลรั่ว-คนร้ายอยู่ต่างประเทศ-แจ้งความยาก-ระงับโอนช้า”

Loading

  วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 เวลา 13.15 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองประธานคณะ กมธ. คนที่สาม พร้อมคณะ แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ. เพื่อพิจารณาเรื่อง ปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” (Call Center) ที่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีของประชาชน โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมประชุมเพื่อรับทราบสภาพปัญหาในประเด็นต่าง ๆ   อาทิ ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ สถิติ จำนวน รูปแบบ วิธีการกระทำการหลอกลวงทางโทรศัพท์ และผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวนโยบาย แนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของหน่วยงาน และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านนโยบาย กฎหมาย กฎ ระเบียบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในอนาคต  …

ข้อมูลรั่วเปิดโปง เครดิตสวิส เป็นแหล่งซุกซ่อนความมั่งคั่งของผู้พัวพันอาชญากรรม

Loading

  เครดิตสวิส ผู้ให้บริการด้านการเงินการธนาคารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ปฏิเสธการกระทำผิด หลังเกิดกรณีข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ที่เผยให้เห็นว่าลูกค้าหลายรายที่พัวพันการกระทำผิดกฎหมายได้ใช้สถาบันการเงินแห่งนี้เป็นแหล่งซุกซ่อนความมั่งคั่ง ผู้แจ้งเบาะแสนิรนามได้ส่งข้อมูลของผู้ฝากเงินไว้กับเครดิตสวิส กว่า 18,000 บัญชี ซึ่งมีทรัพย์สินรวมกันกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่หนังสือพิมพ์สัญชาติเยอรมัน Süddeutsche Zeitung บัญชีเหล่านี้มีทั้งบัญชีส่วนบุคคลและบัญชีนิติบุคคล รวมทั้งผู้ที่เปิดบัญชีมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1940 แต่ส่วนใหญ่เป็นบัญชีที่เปิดขึ้นตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา Organized Crime and Corruption Reporting Project (OCCRP) เครือข่ายผู้สื่อข่าวไม่แสวงหาผลกำไร ที่รายงานเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมและการทุจริต ได้แบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ให้แก่องค์กรสื่อเกือบ 50 ราย อาทิ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน และนิวยอร์กไทมส์ ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูล และพบหลักฐานบ่งชี้ว่า เครดิตสวิสได้เปิดหรือเก็บรักษาบัญชีของลูกค้าความเสี่ยงสูงที่มีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมร้ายแรงหลายราย เช่น การฟอกเงิน การค้ายาเสพติด และการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม เครดิตสวิสได้ออกแถลงการณ์เมื่อ 20 ก.พ. โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาและการอนุมานใด ๆ เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจโดยมิชอบของธนาคาร เครดิตสวิส ระบุว่า ข่าวที่สื่อนำเสนอครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ในบางกรณีย้อนหลังไปถึงช่วงทศวรรษที่ 1940…