ไต้หวันเผยหน่วยงานรัฐไม่ควรใช้ AI ของ DeepSeek
กระทรวงกิจการดิจิทัลของไต้หวันเผยว่าหน่วยงานของรัฐบาลไม่ควรใช้บริการ AI ของ DeepSeek เจ้าของแชตบอตในชื่อเดียวกันที่มาจากจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงในด้านความมั่นคง
กระทรวงกิจการดิจิทัลของไต้หวันเผยว่าหน่วยงานของรัฐบาลไม่ควรใช้บริการ AI ของ DeepSeek เจ้าของแชตบอตในชื่อเดียวกันที่มาจากจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงในด้านความมั่นคง
วิซ (Wiz) บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในนิวยอร์กเปิดเผยว่า บริษัทพบข้อมูลที่สำคัญจำนวนมากจาก DeepSeek บริษัทสตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน ซึ่งถูกเปิดเผยต่อโลกออนไลน์โดยไม่ได้ตั้งใจ
การผงาดขึ้นมาของ DeepSeek AI จีนที่เป็นกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในตอนนี้ ไม่เพียงทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนทั่วโลก แต่ยังมาในจังหวะที่สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนรัฐบาลพอดี เสมือนเป็นการ ‘สะบัดหาง’ ครั้งสำคัญของปีงูเล็กเลยกว่าว่าได้ และอาจมีผลกระทบในวงกว้างอีกด้วย
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบนัยด้านความมั่นคงแห่งชาติของ DeepSeek แอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์สัญชาติจีน จากการเปิดเผยของแคโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวในวันอังคาร (28 ม.ค.) ขณะที่ซาร์คลิปโตฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งอีเมลแจ้งเตือน “เพื่อนทหารเรือ” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ม.ค.) โดยระบุว่าไม่อนุญาตให้ใช้ AI ของ DeepSeek “ในทุกกรณี” เนื่องจากมี “ข้อกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม ทั้งในแง่แหล่งที่มาและการนำโมเดลไปใช้งาน”
เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเครื่องมือ AI ตัวหนึ่งได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวมีชื่อว่า “DeepSeek” สตาร์ทอัพสัญชาติจีน ผู้พัฒนาโมเดล AI ส่งผลให้คนในแวดวงเทคโนโลยีออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามเกี่ยวกับความสำเร็จของบริษัทนี้และผลกระทบต่อสถานะของ AI ในปัจจุบัน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว