ฝรั่งเศสยืนยัน คุมสถานการณ์จลาจลที่เมืองหลวงนิวแคลิโดเนียได้แล้ว
ฝรั่งเศสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมกรุงนูเมอาได้แล้ว หลังเกิดจลาจลต่อต้านรัฐบาลปารีส เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
ฝรั่งเศสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมกรุงนูเมอาได้แล้ว หลังเกิดจลาจลต่อต้านรัฐบาลปารีส เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
นสพ.Al-Ahram สื่อท้องถิ่นในอียิปต์ เสนอข่าวว่า ทางการอียิปต์ได้ปฏิเสธไม่ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาผ่านทางแยกราฟาห์ (Rafah) ที่เชื่อมระหว่างพรมแดนอิยิปต์ทางตะวันออกเฉียงเหนือกับทางใต้ของดินแดนฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ เว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงส่งความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
นายพลกองทัพไนเจอร์ประกาศตัวเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศ หลังกระทำรัฐประหาร นายพลผู้ทรงอำนาจชาวไนเจอร์ซึ่งก่อการรัฐประหารประกาศตนเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศ และเตือนว่าการแทรกแซงทางทหารของต่างชาติจะนำไปสู่ความโกลาหล เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า จากกรณีการก่อรัฐประหารในประเทศไนเจอร์โดยฝีมือของกองทัพ และมีการควบคุมตัวประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูมไว้แล้วนั้น ล่าสุด กองทัพได้ยึดอำนาจและส่งนายพลระดับสูงเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของประเทศเรียบร้อยแล้ว พลเอกอับดุลราห์มาน ทะเชียอานี ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2554 ได้ปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ และประกาศตัวว่าเป็น “ประธานสภาแห่งชาติเพื่อการปกป้องมาตุภูมิ” นายพลวัย 50 ปี เป็นผู้เสนอการทำรัฐประหารเพื่อแก้ไข “ความเสื่อมโทรมของสถานการณ์ความมั่นคง” ที่เชื่อมโยงกรณีการต่อสู้นองเลือดกับนักรบญิฮาดซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธแบ่งเเยกดินเเดนชาวมุสลิม แม้จะเผชิญกับการประณามจากนานาชาติสำหรับการยึดอำนาจจากประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่กองทัพที่ทำรัฐประหารก็ส่งเสียงเตือนถึงความโกลาหลที่จะเกิดขึ้นจากการแทรกแซงทางทหารของต่างชาติ ในวันที่สามนับตั้งแต่ประธานาธิบดีถูกควบคุมตัว อดีตเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสได้ออกมาเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูรัฐบาลประชาธิปไตยกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด และประกาศยอมรับสถานะผู้นำประเทศของประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูม คนเดียวเท่านั้น การรัฐประหารในไนเจอร์ก่อให้เกิดความกังวลในประชาชาติแอฟริกา ซึ่งบรรดาผู้นำแอฟริกาตะวันตกจะประชุมกันในวันอาทิตย์ในกรุงอาบูจา เมืองหลวงของไนจีเรีย เพื่อหารือเกี่ยวกับความไม่สงบดังกล่าว “ECOWAS และประชาคมระหว่างประเทศจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและรับประกันว่าการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยจะยังคงหยั่งรากอย่างมั่นคงในภูมิภาคนี้” โบลา อาเหม็ด ทินูบู ซึ่งเป็นประธานประชาคมเศรษฐกิจแห่งแอฟริกาตะวันตก…
ชาวอเมริกันหลายร้อยคนเดินทางออกจากซูดานผ่านทางท่าเรือเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นพลเมืองอเมริกันชุดแรกที่อพยพออกจากซูดานโดยความช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากเกิดการสู้รบกลางเมืองในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหาร เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ของสหรัฐฯ เฝ้าจับตาและคุ้มกันการอพยพประชาชนอเมริกันจำนวน 200-300 คนดังกล่าว ซึ่งเริ่มต้นจากการเดินทางด้วยขบวนรถโดยสารเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตรไปยังพอร์ตซูดาน เพื่อขึ้นเรือโดยสารข้ามทะเลแดงมุ่งหน้าไปยังซาอุดิอาระเบียที่ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่การทูตของรัฐบาลสหรัฐฯ รอให้ความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของชาวอเมริกันที่ติดอยู่ในซูดานวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่ไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังซูดานเพื่อช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันออกมา โดยคาดว่ามีชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในซูดานราว 16,000 คนที่ต้องการลี้ภัยหนีสงครามกลางเมือง เมื่อวันที่ 22 เมษายน กองกำลังพิเศษของอเมริกาเดินทางไปยังกรุงคาร์ทูมเพื่อช่วยเหลือนำบรรดาเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันออกจากซูดานไปล่วงหน้าแล้ว พร้อมสั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในซูดาน แต่ยังมีพลเมืองอเมริกันจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในซูดาน จนถึงขณะนี้ มากกว่าสิบประเทศ ได้นำตัวพลเมืองของตนออกมาจากซูดานแล้ว โดยใช้หลายวิธีด้วยกัน รวมถึงขบวนรถโดยสาร เครื่องบินทหาร เรือของกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน รวมทั้งประเทศไทยที่ได้ส่งเครื่องบินไปรับตัวพลเมืองชาวไทยออกจากซูดานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสู้รบของกองทัพบกซูดานและกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน สหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนพลเมืองของตนให้หาทางหนีออกมาจากซูดาน รวมทั้งพยายามติดต่อไปยังประเทศอื่นเพื่อช่วยเหลือในการอพยพชาวอเมริกันออกจากพื้นที่สู้รบ ก่อนที่จะตัดสินใจจัดขบวนรถโดยสารไปรับพบเมืองอเมริกันกลับบ้าน…
จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย รวมทั้งหลายประเทศในยุโรปและตะวันออกกลาง ต่างพยายามนำพลเมืองและนักการทูตของตนออกจากซูดานในวันจันทร์ ท่ามกลางการสู้รบอย่างหนักระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหาร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา การต่อสู้ระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 427 คน สร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาลและหน่วยงานหลายแห่ง และทำให้เขตที่อยู่อาศัยหลายแห่งกลายเป็นพื้นที่สงคราม ในวันจันทร์ การต่อสู้ในกรุงคาร์ทูมปะทุขึ้นอีกครั้ง ควันไฟลอยขึ้นจากสนามบินระหว่างประเทศในเมืองหลวงของซูดาน ซึ่งติดกับที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพบก ขณะที่มีเสียงปืนและปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสู้รบบรรเทาลงในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ และอังกฤษ อพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากซูดาน นำไปสู่การแห่อพยพครั้งใหญ่ของเจ้าหน้าที่การทูตของอีกหลายประเทศในวันจันทร์ กองทัพบกซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร อาร์เอสเอฟ ผนึกกำลังกันก่อรัฐประหารเมื่อปี 2021 แต่ผู้นำทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้เรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาลพลเรือน นำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความกังวลว่าหลายฝ่ายอาจถูกดึงเข้าสู่สงครามกลางเมืองครั้งนี้ด้วย เนื่องจากซูดานอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 7 ประเทศ และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ระหว่างอียิปต์ และทะเลแดง กองกำลังทั้งสองฝ่ายปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่กังวลความปลอดภัยต่อพลเมืองของตน หลายประเทศ รวมทั้ง…
เมื่อวันที่ 19 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมอพยพพลเมืองของตนเองออกจากประเทศซูดาน ที่ยังคงเต็มไปด้วยการปะทะสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารอย่างรุนแรงต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 นับเป็นชาติแรกที่ประกาศแผนจะอพยพพลเมืองของตนออกจากประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งนี้ นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นราว 60 คนที่อยู่ในประเทศซูดานขณะนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานทูตญี่ปุ่นด้วย และระบุว่า กระทรวงกลาโหมได้เริ่มเตรียมการที่จำเป็นสำหรับการอพยพแล้ว โดยสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้กำลังเลวร้ายลง ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในต่างประเทศ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองที่พำนักอยู่ในประเทศซูดาน ติดต่อแจ้งชื่อและรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับทางสถานทูตของตนเองเอาไว้ โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูม ได้เริ่มรวบรวมรายละเอียดข้อมูลของพลเมืองชาวอเมริกัน พร้อมขอให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ภายในอาคารและอยู่ให้ห่างจากหน้าต่าง “เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ไม่แน่นอนในกรุงคาร์ทูมและการปิดสนามบิน ยังไม่มีแผนสำหรับการอพยพที่มีการประสานกับรัฐบาลสหรัฐ” สถานทูตสหรัฐประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ ขณะที่นานาชาติเรียกร้องให้ยุติท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันในซูดาน โดยที่ประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี 7) ได้เรียกร้องในวันอังคาร (18 เม.ย.) ให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในทันที ขณะที่ในวันพุธ (19 เม.ย.) มีรายงานว่าประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงคาร์ทูม…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
องค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน
We firmly believe that the internet should be available and accessible to anyone, and are committed to providing a website that is accessible to the widest possible audience, regardless of circumstance and ability.
To fulfill this, we aim to adhere as strictly as possible to the World Wide Web Consortium’s (W3C) Web Content Accessibility Guidelines 2.1 (WCAG 2.1) at the AA level. These guidelines explain how to make web content accessible to people with a wide array of disabilities. Complying with those guidelines helps us ensure that the website is accessible to all people: blind people, people with motor impairments, visual impairment, cognitive disabilities, and more.
This website utilizes various technologies that are meant to make it as accessible as possible at all times. We utilize an accessibility interface that allows persons with specific disabilities to adjust the website’s UI (user interface) and design it to their personal needs.
Additionally, the website utilizes an AI-based application that runs in the background and optimizes its accessibility level constantly. This application remediates the website’s HTML, adapts Its functionality and behavior for screen-readers used by the blind users, and for keyboard functions used by individuals with motor impairments.
If you’ve found a malfunction or have ideas for improvement, we’ll be happy to hear from you. You can reach out to the website’s operators by using the following email
Our website implements the ARIA attributes (Accessible Rich Internet Applications) technique, alongside various different behavioral changes, to ensure blind users visiting with screen-readers are able to read, comprehend, and enjoy the website’s functions. As soon as a user with a screen-reader enters your site, they immediately receive a prompt to enter the Screen-Reader Profile so they can browse and operate your site effectively. Here’s how our website covers some of the most important screen-reader requirements, alongside console screenshots of code examples:
Screen-reader optimization: we run a background process that learns the website’s components from top to bottom, to ensure ongoing compliance even when updating the website. In this process, we provide screen-readers with meaningful data using the ARIA set of attributes. For example, we provide accurate form labels; descriptions for actionable icons (social media icons, search icons, cart icons, etc.); validation guidance for form inputs; element roles such as buttons, menus, modal dialogues (popups), and others. Additionally, the background process scans all the website’s images and provides an accurate and meaningful image-object-recognition-based description as an ALT (alternate text) tag for images that are not described. It will also extract texts that are embedded within the image, using an OCR (optical character recognition) technology. To turn on screen-reader adjustments at any time, users need only to press the Alt+1 keyboard combination. Screen-reader users also get automatic announcements to turn the Screen-reader mode on as soon as they enter the website.
These adjustments are compatible with all popular screen readers, including JAWS and NVDA.
Keyboard navigation optimization: The background process also adjusts the website’s HTML, and adds various behaviors using JavaScript code to make the website operable by the keyboard. This includes the ability to navigate the website using the Tab and Shift+Tab keys, operate dropdowns with the arrow keys, close them with Esc, trigger buttons and links using the Enter key, navigate between radio and checkbox elements using the arrow keys, and fill them in with the Spacebar or Enter key.Additionally, keyboard users will find quick-navigation and content-skip menus, available at any time by clicking Alt+1, or as the first elements of the site while navigating with the keyboard. The background process also handles triggered popups by moving the keyboard focus towards them as soon as they appear, and not allow the focus drift outside it.
Users can also use shortcuts such as “M” (menus), “H” (headings), “F” (forms), “B” (buttons), and “G” (graphics) to jump to specific elements.
We aim to support the widest array of browsers and assistive technologies as possible, so our users can choose the best fitting tools for them, with as few limitations as possible. Therefore, we have worked very hard to be able to support all major systems that comprise over 95% of the user market share including Google Chrome, Mozilla Firefox, Apple Safari, Opera and Microsoft Edge, JAWS and NVDA (screen readers).
Despite our very best efforts to allow anybody to adjust the website to their needs. There may still be pages or sections that are not fully accessible, are in the process of becoming accessible, or are lacking an adequate technological solution to make them accessible. Still, we are continually improving our accessibility, adding, updating and improving its options and features, and developing and adopting new technologies. All this is meant to reach the optimal level of accessibility, following technological advancements. For any assistance, please reach out to