เดนมาร์กเพิ่มการควบคุมชายแดนติดต่อสวีเดน หลังมือระเบิดข้ามแดนเข้ามาก่อเหตุที่เมืองหลวง

Loading

นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน แห่งเดนมาร์ก ประกาศให้เพิ่มมาตรการควบคุมชายแดน หลังจากที่เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งในกรุงโคเปนเฮเกน และตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 คนซึ่งเป็นชาวสวีเดน อายุ 22 และ 23 ปี นายกรัฐมนตรีเฟรเดอริกเซน กล่าวว่า การปกป้องชายแดนต้องมีความรัดกุมมากกว่าเดิม และจะเน้นไปที่การตรวจสอบผู้มีประวัติอาชญากรรม เพราะชาวเดนมาร์กไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่คนร้ายสามารถเดินทางจากสวีเดนมายังเดนมาร์กแล้วลอบวางระเบิดไดนาไมต์ในพื้นที่เป้าหมายกลางเมืองหลวง สำหรับเหตุระเบิดที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ด้านหน้าของสำนักงานสรรพากร จากนั้นอีก 3 วันก็เป็นเหตุระเบิดที่ด้านหน้าสถานีตำรวจ สวีเดนและเดนมาร์กเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเออเรซุนด์ที่มีระยะทาง 16 กิโลเมตร ซึ่งจากการที่ทั้ง 2 ประเทศเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและเขตการเดินทางเชงเก้น ทำให้พลเมืองเดินทางข้ามแดนได้โดยที่ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางของเชงเก้น แต่จากวิกฤติผู้อพยพลี้ภัยในปี 2559 สวีเดนออกมาตรการควบคุมชายแดนด้วยการกำหนดให้ตรวจสอบหมายเลขประจำตัวตามบัตรประชาชนก่อน ขณะที่เดนมาร์กมีการใช้มาตรการเดียวกันทางฝั่งพรมแดนที่ติดต่อกับเยอรมนี —————————————————- ที่มา : จส.100 / 15 สิงหาคม 2562 Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/76055

อิหร่านทลายเครือข่ายทรยศชาติ สมคบCIAแทรกซึมในประเทศ

Loading

สำนักข่าว AFP รายงานว่า อิหร่านได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัย 17 คนและตัดสินประหารชีวิตคนเหล่านี้ไปบางส่วน หลังจากประสบความสำเร็จในการทลายเครือข่ายสายลับ CIA ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐซึ่งเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของอิหร่าน รวมถึงการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านกับอังกฤษ หลังจากอังกฤษยึดเรืออิหร่านที่ช่องแคบยิบรอลต้า ทำให้อิหร่านยึดเรือของอังกฤษที่ช่องแคบฮอร์มุซเป็นการตอบโต้ หน่วยงานความมั่นคงของอิหร่านประกาศว่า ประสบความสำเร็จในการทลายเครือข่ายสายลับ CIA ระหว่างเดือนมีนาคม 2018 – มีนาคม 2019 โดยหัวหน้าหน่วยต่อต้านข่าวกรองของกระทรวงสืบราชการลับอิหร่านยังประกาศว่า “คนที่ทรยศต่อประเทศอย่างจงใจ ถูกส่งตัวไปรับการพิจารณาคดีแล้ว … บางคนถูกตัดสินประหารชีวิตและรับโทษจำคุกหลายปี” หัวหน้าหน่วยต่อต้านข่าวกรองของอิหร่านเผยว่า จากการติดตามเบาะแสเกี่ยวกับหน่วยข่าวกรองอเมริกันเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า มีสมาชิกใหม่ที่สหรัฐทำการว่าจ้างเพื่อทำจารกรรมอิหร่าน จึงทำการทำลายเครือข่ายนี้โดยได้ดำเนินการร่วมกับ “พันธมิตรต่างประเทศ” แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นประเทศใด ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวอิหร่านและทำงานเป็นอิสระจากกัน โดยแฝงตัวอยู่ในหน่วยงานที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและระดับประเทศหน่วยงานต่างๆ รวมถึงภาคเอกชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกัน บางคนถูกว่าจ้างให้ทำงานให้สหรัฐ โดยใช้วีซ่าเข้าสหรัฐมาล่อ โดยบางคนถูกทาบทามเมื่อยื่นขอวีซ่าในขณะที่บางคนเคยมีวีซ่ามาก่อน แต่ถูกกดดันจาก CIA ให้ร่วมมือด้วย เพื่อที่จะต่ออายุวีซ่าได้ ภารกิจของจารชนเหล่านี้ คือการรวบรวมข้อมูลที่เป็นความลับและปฏิบัติการด้านเทคนิคและงานข่าวกรองที่หน่วยงานสำคัญของอิหร่านซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงซึ่งใช้อุปกรณ์ทันสมัย โดยสมาชิกเครือข่ายทั้งหมด 17 คนได้รับการฝึกการติดต่อสื่อสารเป็นการลับโดยเจ้าหน้าที่ของ CIA และสั่งให้จารชนเหล่านี้ทำลายเอกสารทั้งหมดหากถูกเปิดเผยความลับ และให้เดินทางไปยัง “ทางออกฉุกเฉิน” ตามเมืองชายแดนของอิหร่าน หากรู้สึกไม่ปลอดภัย ————————————————–…