พิพิธภัณฑ์ในฟลอริดาใช้กล้อง AI ตรวจจับคนร้ายที่มาพร้อมอาวุธ

Loading

    พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฟรอสต์ในนครฟลอริดา รัฐไมอามี สหรัฐอเมริกา ใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่ควบคุมกล้องวงจรปิดในการระบุตัวคนร้ายที่มาพร้อมอาวุธ   BeMotion เป็นบริษัทที่พัฒนาระบบนี้ขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันที่มีชื่อว่า Law Enforcement Network (LEN) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตรวจจับอาวุธและการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย   หากกล้องตรวจพบผู้ที่ถือปืนก็จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ที่เดินเยี่ยมชมและเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ทั้งหมดรับรู้ พร้อมทั้งระบุพิกัดที่คนร้ายอยู่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังสามารถแยกแยะคนร้ายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ด้วย   ผู้บริหารของ BeMotion เชื่อว่าการให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานในการดูกล้องวงจรปิดจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้มนุษย์ โดยยกตัวอย่างของเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่เมื่อนำระบบไปลองใช้แล้วพบว่าสามารถระบุตัวคนร้ายได้ในทันทีที่เข้าสู่โรงเรียน   นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีการใช้ระบบกล้องปัญญาประดิษฐ์ในพื้นที่อื่น ๆ อย่างเขตการศึกษาเฮอร์นันโด เมืองบรูกส์วิลล์ ของรัฐฟลอริดาที่ใช้ระบบของ Zero Eyes ที่มุ่งแจ้งเตือนให้ตำรวจรู้ถึงการบุกรุกก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้น   BeMotion เผยว่าหากนำระบบของบริษัทไปใช้ในเขตการศึกษา ก็จะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นที่ราว 40 – 70 เหรียญ (ราว 1,500 – 2,500 บาท) ต่อนักเรียน 1 คนต่อปี   อย่างไรก็ดี องค์กรที่ใช้ระบบเหล่านี้เพื่อเสริมมาตรการความปลอดภัยที่มีอยู่แล้วเท่านั้น  …

สื่อนอกรายงาน “กล้องวงจรปิดสัญชาติจีน” บางยี่ห้อ ง่ายต่อการถูกแฮ็ก

Loading

    บีบีซีรายงาน “กล้องวงจรปิดที่ผลิตในจีนบางยี่ห้อ” มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่ทำให้มันสามารถถูกแฮ็กได้ง่าย   รายการพาโนรามา (Panorama) ของบีบีซี รายงานว่า “กล้องวงจรปิดที่ผลิตในจีนบางยี่ห้อ” มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่ทำให้มันสามารถถูกแฮ็กได้ง่าย และอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชน ไปจนถึงความมั่นคงระดับชาติ เพราะอย่างในสหราชอาณาจักรเอง ก็มีการใช้กล้องวงจรปิดจีนทั้งในอาคารสำนักงาน ตามท้องถนน และแม้แต่อาคารของรัฐ   บีบีซีได้ร่วมมือกับแฮ็กเกอร์จาก IPVM องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิดในสหรัฐฯ เพื่อทดลองว่า กล้องวงจรปิดยี่ห้อใดบ้าง ที่สามารถแฮ็กได้ง่าย โดยพบว่ามี 2 แบรนด์ชั้นนำที่มีข้อบกพร่อง     ในการทดลอง ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในสตูดิโอมืด ๆ ของบีบีซี พนักงานชายคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าแล็ปท็อปและป้อนรหัสผ่าน ปรากฏว่า ในอีกประเทศซึ่งห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร แฮ็กเกอร์กำลังเฝ้าดูทุกสิ่งที่เขาพิมพ์ได้   แฮ็กเกอร์ที่ร่วมในการทดลองบอกว่า พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยในกล้องวงจรปิดติดเพดานซึ่งผลิตโดยบริษัท Hikvision และ Dahua ของจีน   “ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของอุปกรณ์นั้นแล้ว ฉันจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ฉันปิดมันได้… หรือฉันสามารถใช้มันเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่ BBC ก็ได้” แฮ็กเกอร์กล่าว   ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า…

ฮือฮา! 3 ห้างดังในแดนผู้ดีรวม “เทสโก้” สั่งเลิกใช้กล้องทีวีวงจรปิดจีน อ้างภัยความมั่นคงอังกฤษ

Loading

  เอเจนซีส์ – มีห้างชื่อดังในอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3 ห้าง รวมเทสโก้ Morrisons และ M&S สั่งแบนกล้องทีวีวงจรปิดจากจีน ให้เหตุผลอ้างเป็นภัยทางความมั่นคงประเทศและวิตกความเป็นส่วนตัว เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่ตามสถานที่สำนักงานรัฐบาลอังกฤษมีการสั่งถอนกล้องทีวีวงจรปิดจีนเช่นกัน   หนังสือพิมพ์ยอร์กเชียร์อิฟนิงโพสต์รายงานวันนี้ (8 มิ.ย.) ว่า อังกฤษเริ่มความเข้มงวดในการใช้อุปกรณ์จากจีนมากขึ้น ล่าสุด พบได้ลามไปถึงภาคเอกชนแล้ว มีห้างชื่อดังมากสาขาในอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3 ห้าง รวมเทสโก้ Morrisons และ M&S ออกคำสั่งห้ามซื้อกล้องทีวีวงจรปิดจีนทั้งแบรนด์ Hikvision และแบรนด์ Dahua ตามการเปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟ พบว่า การตัดสินใจเกิดขึ้นจากความวิตกในด้านความเป็นส่วนบุคคล และวิตกว่าผลิตภัณฑ์อาจเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน เดลีเทเลกราฟกล่าวว่า พบว่าบรรดาห้างซูเปอร์มาร์เกตอังกฤษยักษ์ใหญ่ทั้งหลายออกคำสั่งถอดอุปกรณ์ของบริษัท Hikvision และ Dahua เนื่องมาจากมีความเกี่ยวข้องกับปัญหากดขี่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน   ด้านห้าง M&S หรือมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ (Marks & Spencer) เปิดเผยว่า ทางห้างไม่มีกล้องทีวีวงจรปิด Hikvision ที่สาขาใด ๆ พร้อมกับยืนยันว่า…

“อเมซอน” ต้องจ่าย 1,072 ล้านบาท ข้อหาสอดแนมลูกค้าผ่านกล้องวงจรปิดและลำโพง

Loading

    อเมซอน ตกลงจ่ายเงิน 30.8 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติข้อกล่าวหา ละเมิดความเป็นส่วนตัวลูกค้า ทั้งการสอดแนมผู้หญิงผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในห้องนอนและห้องน้ำหลายเเห่งเป็นเวลาหลายเดือน และบันทึกเสียงผู้ใช้งานลำโพงนานเกินความจำเป็น   สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า บริษัทเทคยักษ์ใหญ่อเมซอนตกลงจ่ายเงิน 5.8 ล้านดอลลาร์ หลังคณะกรรมาธิการว่าด้วยการค้าแห่งสหพันธรัฐ (เอฟทีซี) เผยว่า อดีตพนักงานอเมซอนสอดแนมลูกค้าผู้หญิงหลายคนเป็นเวลาหลายเดือน ในปี 2560 โดยใช้กล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย บริษัทริง ติดตั้งไว้ในห้องนอนและห้องน้ำ   อเมซอนยังตกลงจ่ายเงินอีก 25 ล้านดอลลาร์ สำหรับข้อกล่าวหาละเมิดความเป็นส่วนตัวเด็ก เนื่องจากไม่สามารถลบคลิปเสียงจากลำโพงสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะอเล็กซา เมื่อผู้ปกครองเด็ก ๆ ร้องขอให้ลบ และบริษัทยังเก็บบันทึกเสียงไว้นานเกินความจำเป็น   “ชามูแอล เลวีน” ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของเอฟทีซี กล่าวว่า “อเมซอนละเมิดความเป็นส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ การเพิกเฉยต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของบริษัทริงทำให้ผู้บริโภคถูกสอดแนมและล่วงละเมิด”   สำนักงานใหญ่อเมซอน กล่าวว่า “อุปกรณ์และบริการของบริษัท สร้างมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และให้ลูกค้าควบคุมประสบการณ์การใช้งานด้วยตนเอง”     สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ริง (Ring) บริษัทในเครืออเมซอน เผยว่า…

ฝรั่งเศสวางแผนเป็นประเทศแรกใช้ AI กับระบบกล้องวงจรปิดในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส!

Loading

    ณ ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การใช้เทคโนโลยี AI กำลังมาแรงอย่างมาก โดยล่าสุดฝรั่งเศสเองก็มีแผนจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับระบบกล้องวงจรปิดในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2024 ที่จะจัดขึ้นที่ปารีส   อ้างอิงจาก The Register พบว่าล่าสุดฝรั่งเศสได้ปรับใช้มาตรา 7 ของกฎหมายสำหรับกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2024 เพื่ออนุญาตให้ใช้การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับวิดีโอจากกล้องวงจรปิดและกล้องโดรน   ตัวระบบจะใช้ในการตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติในที่สาธารณะ เช่น พฤติกรรมที่ผิดแผกไป เหตุการณ์ที่เหมือนมีการวางแผนเอาไว้ หรือเหตุการณ์ที่จำนวนคนล้น เป็นต้น ซึ่งหากแผนการนี้ได้รับการอนุมัติก็จะทำให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าว   อย่างไรก็ตามก็มีผู้ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้เช่นกัน โดยมีองค์กรภาคประชาสังคม 38 องค์กรที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวและได้ส่งจดหมายเปิดผนึก มีเนื้อหาว่า มาตรการสอดแนมนั้นละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และยังเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างไม่อาจยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในความเป็นส่วนตัว, อิสระในการรวมกลุ่ม และสิทธิในการไม่เลือกปฏิบัติ   “หากจุดประสงค์ของอัลกอริทึม AI ของกล้องทำเพื่อตรวจจับเหตุการณ์น่าสงสัยในพื้นที่สาธารณะ พวกเขาก็จำเป็นที่จะบันทึกภาพและวิเคราะห์ลักษณะทางสรีรวิทยาและพฤติกรรมของบุคคลในพื้นที่เหล่านี้ เช่น ตำแหน่งร่างกาย, ท่าเดิน, การเคลื่อนไหว หรือรูปลักษณ์ภายใน” เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกระบุ       อ้างอิง Techspot  …

ผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์อินเดียพบช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ Hikvision ที่นำไปสู่การควบคุมระบบ CCTV ได้

Loading

  ซูวิก กันดาร์ (Souvik Kandar) และ อาร์โก ดาร์ (Arko Dhar) แห่ง Redinent Innovations บริษัทความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ CCTV และ IoT เผยช่องโหว่ร้ายแรงบนผลิตภัณฑ์ของ Hikvision   ช่องโหว่ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า CVE-2022-28173 เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีเข้าควบคุมอุปกรณ์ตัวปัญหาจากระยะไกลได้ โดยพบอยู่บนอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย (Wireless Bridge) ที่ใช้สำหรับลิฟต์และระบบกล้องวงจรปิด   ในขณะนี้มีการออกแพตช์เฟิร์มแวร์สำหรับผลิตภัณฑ์ DS-3WF0AC-2NT และ DS-3WF01C-2N/O แล้ว อีกทั้งยังมีการแจ้งไปยังผู้ขายผ่านทางศูนย์เผชิญเหตุทางคอมพิวเตอร์อินเดีย (CERT India) ด้วย นำไปสู่การออกแพตช์แก้ในต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา   ดาร์ชี้ว่าผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ช่องโหว่นี้ในการเข้าควบคุมอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่ไปสู่การแฮกระบบ CCTV ทั้งระบบ โดยผ่านการเชื่อมต่อจากระบบเครือข่ายภายในองค์กร หรือแม้แต่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายนอกได้ หากปล่อยให้เชื่อมต่อไป   โดยดาร์ได้ลองใช้ Shodan และ Censys ในการค้นหาอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่นี้บนอินเทอร์เน็ต ก็พบว่ามีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตภายนอกอยู่จริง ๆ และอาจเป็นเป้าได้ หากยังไม่ได้รับการแพตช์…