ข้อมูลลูกค้าบริษัทเช่ารถชื่อดังเกือบ 300,000 ราย รั่ว
เว็บไซต์ The Record รายงานว่า Avis บริษัทผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ยักษ์ใหญ่ออกมาเปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม ที่เหตุการโจมตีไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลละเอียดอ่อนของเกือบ 300,000 คนทั่วสหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์ The Record รายงานว่า Avis บริษัทผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ยักษ์ใหญ่ออกมาเปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม ที่เหตุการโจมตีไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลละเอียดอ่อนของเกือบ 300,000 คนทั่วสหรัฐอเมริกา
Toyota Motor จะระงับการดำเนินงานในสายแพ็กเกจจิงของชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อการส่งออก หลังมีเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อท่าเรือนาโกยา ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น บริษัทชี้ว่าจะตัดสินใจว่าจะกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง โดยดูจากความสามารถในการทำงานของท่าเรือฯ และชี้ว่ายังไม่เห็นว่าจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศ ท่าเรือนาโกยา อยู่ในภาคกลางของญี่ปุ่น เป็นที่ส่งออกรถยนต์ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น แต่ต้องเผชิญกับการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์จากรถบรรทุกได้ การโจมตีดังกล่าวยังก่อให้เกิดความบกพร่องในระบบและทำให้การขนส่งล่าช้าไปมากกว่า 2 วันแล้ว โดยสำนักงานการท่านาโกยาชี้ว่าระบบของท่าเรือได้กลับมาทำงานบางส่วนในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่กว่าจะทำงานได้ตามปกติก็ล่วงไปถึงเย็นแล้ว ซึ่งถือว่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ที่มา Deccan Herald —————————————————————————————————————————————— ที่มา : …
หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคม ท่าทีซึ่งสร้างความไม่พอใจกับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มองว่าไต้หวันเป็นของจีน และเคยประกาศว่าพร้อมที่จะใช้กำลังยึดไต้หวันเป็นของจีน สถานการณ์ซึ่งสร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ล่าสุดกระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า ในช่วงคืนวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง หลังนางเพโลซีเดินทางออกจากไต้หวันมุ่งหน้าไปยังประเทศเกาหลีใต้ มีเครื่องบินที่ไม่มีการแสดงตัวตนจำนวน 2 ลำที่คาดว่าจะเป็นโดรน บินเหนือเกาะจินเหมิน เกาะทางยุทธศาสตร์ของไต้หวัน ใกล้ชายฝั่งเมืองเซียเหมินของจีน โดยทางการไต้หวันต้องยิงพลุแฟลร์เพื่อผลักดันโดรนดังกล่าวออกจากพื้นที่ นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมยังระบุด้วยว่า เว็บไซต์ของกระทรวงถูกโจมตีไซเบอร์และต้องปิดลงเป็นการชั่วคราวในช่วงคืนวันเดียวกัน พร้อมทั้งระบุว่ากำลังทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดกับจีนที่มีมากขึ้น นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังเปิดเผยด้วยว่าจีนได้เริ่มการซ้อมรบโดยรอบเกาะไต้หวันตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม และการซ้อมรบบางจุดเกิดขึ้นในน่านน้ำและน่านฟ้าของไต้หวันที่มีระยะ 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งไต้หวัน ท่าทีซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่าเป็นการปิดล้อมไต้หวันทางทะเลและทางอากาศ ทั้งนี้นางเพโลซี นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของสหรัฐอเมริกาที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี โดยแสดงความชื่นชมการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยของไต้หวันและยืนยันว่าสหรัฐฯ จะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับไต้หวัน พร้อมทั้งระบุด้วยว่าความไม่พอใจของจีนนั้นไม่สามารถหยุดบรรดาผู้นำโลกที่จะเดินทางเยือนไต้หวันได้ ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 4 ส.ค.65 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3488699
รัฐบาลแคนาดาเผยเมื่อวันจันทร์ ระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงการต่างประเทศ ถูกโจมตีไซเบอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบบของบางหน่วยงานยังใช้การไม่ได้ แต่ปฏิเสธที่จะระบุผู้ต้องสงสัย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า การโจมตีไซเบอร์ถูกตรวจพบเมื่อวันพุธ (19 ม.ค.) หนึ่งวันก่อนที่สำนักงานข่าวกรองสัญญาณของแคานาดาจะออกแถลงว่า หน่วยปฏิบัติการเครือข่ายระบบสาธารณูปโภคสำคัญของแคนาดา ควรเพิ่มมาตรการป้องกัน ภัยคุกคามที่รัฐบาลรัสเซียหนุนหลัง แถลงการณ์ของคณะกรรมการบริหารการคลังแคนาดา (Treasury Board) ซึ่งรับผิดชอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมด เมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า ระบบอินเทอร์เน็ตของหลายหน่วยงานสำคัญอย่างยิ่ง ของกระทรวงการต่างประเทศ ยังทำงานได้ตามปกติ แต่บางหน่วยงานยังใช้การไม่ได้ และไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า กระทรวงอื่นๆ ได้รับผลกระทบ แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่แสดงท่าทีแข็งกร้าว ต่อการเสริมกำลังทหารรัสเซีย ตามแนวเขตแดนด้านติดกับยูเครน ออตตาวาแทบไม่เคยเปิดเผย การถูกโจมตีไซเบอร์ ในปี 2554 เจ้าหน้าที่แคนาดาเผยว่า “แฮกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีรัฐบาลจีนหนุนหลัง ทำการเจาะล้วงข้อมูลองค์กรวิจัยชั้นนำแห่งหนึ่งของแคนาดา” แต่ทางการปักกิ่งปฏิเสธ ในปี 2557 อดีตรัฐมนตรีแคนาดารายหนึ่งเผยว่า ทีมแฮกเกอร์ชาวจีนตกเป็นผู้ต้องสงสัย เจาะล้วงข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานคณะกรรมการบริหารการคลัง และกระทรวงการคลังแคนาดา ในปี 2554.…
Microsoft ระบุว่าคอมพิวเตอร์จำนวนมากในระบบโครงข่ายของรัฐบาลยูเครนติดมัลแวร์ทำลายล้างซึ่งอำพรางเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ หลังจากมีกรณีการแก้หน้าเว็บไซต์ (defacement) ของกระทรวงการต่างประเทศยูเครน และเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 70 เว็บไซต์ล่ม Microsoft ยังระบุด้วยว่า การโจมตีสร้างความเสียหายต่อหน่วยงานรัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไร และองค์กรไอทีจำนวนมาก “มัลแวร์ตัวนี้อำพรางตัวเองเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่เมื่อถูกเปิดใช้งานโดยผู้ทำการโจมตีก็จะสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์เป้าหมายจนใช้งานไม่ได้” Microsoft ระบุ โดยเสริมว่า มัลแวร์ตัวนี้จะทำงานต่อเมื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่นั้นถูกปิดลง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรด้านไซเบอร์ในภาคเอกชนอธิบายว่า เริ่มจากการมีผู้ไม่หวังดีเจาะเข้าไปยังผู้ให้บริการซอฟแวร์ร่วมในการโจมตีที่เรียกว่า Supply-Chain Attack เซอร์ฮีย์ เดเมดยัค (Serhiy Demedyuk) รองเลขาธิการสภาความมั่นคงและการป้องกันประเทศแห่งชาติยูเครนระบุว่า แฮกเกอร์ได้ใช้มัลแวร์คล้ายกับที่หน่วยข่าวกรองของรัสเซียเคยใช้ ซึ่งในการสืบสวนขั้นต้นโดยสำนักงานความมั่นคงยูเครน (SBU) เชื่อว่าผู้ก่อเหตุโจมตีมีความสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย แต่ทางรัสเซียได้ปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งนี้ เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ปะทุขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 ได้กลับมาร้อนระอุขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนให้หลังมานี้ และยังเป็นสมรภูมิการเมืองระหว่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรก้าวเข้ามามีบทบาทคุ้มครองยูเครน ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่าทางรัสเซียได้ระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายใกล้กับชายแดนยูเครน ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจเข้าบุกยูเครนอีกครั้งหนึ่ง และอาจจะผสมการรบแบบใช้กำลังทหารเข้ากับการโจมตีทางไซเบอร์ (Hybrid Warfare) เหมือนกับที่เคยทำกับจอร์เจียและยูเครนมาแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าโจมตีทางไซเบอร์ต่อยูเครน ตัวอย่างการโจมตีที่ผ่านมา อาทิ การเลือกตั้งระดับชาติยูเครนเกือบล่มเพราะการโจมตีทางไซเบอร์ในปี 2557 การโจมตีโรงไฟฟ้าจนไฟดับเป็นวงกว้างในช่วงปี…
เจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังสอบสวนการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ต่อระบบอินเทอร์เน็ตของหน่วยงานรัฐบาลประมาณ 70 แห่ง รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ คณะรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภากลาโหม แม้ยูเครนหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวหามอสโกโดยตรง แต่เป็นที่เข้าใจได้ชัดว่า รัสเซียคือผู้ต้องสงสัย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า ข้อความที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลยูเครนที่ถูกโจมตีไซเบอร์ เขียนเป็นภาษายูเครน รัสเซีย และโปแลนด์ อ่านว่า “ชาวยูเครนทั้งหลาย! ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของพวกแก ถูกอัพโหลดเข้าเครือข่ายสาธารณะแล้ว ข้อมูลทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ถูกทำลายและจะไม่มีทางกอบกู้กลับคืนได้” และ “ข้อมูลเกี่ยวกับพวกแกทั้งหมด ได้กลายเป็นสาธารณะ จงกลัวและรอรับมือสิ่งเลวร้ายที่สุด นี่คือสิ่งตอบแทนสำหรับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของพวกแก” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีคล้ายกันนี้ในอดีต รัฐบาลยูเครนเผยเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถกู้เว็บไซต์ที่ถูกโจมตีได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว และข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกขโมย เว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐจำนวนมาก ถูกสั่งระงับใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตีแพร่กระจาย นายโจเซฟ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง กล่าวประณามการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ และว่าคณะกรรมาธิการการเมืองและความมั่นคง และสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหภาพยุโรป เตรียมนัดประชุมหารือกัน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือยูเครน…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
องค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน
We firmly believe that the internet should be available and accessible to anyone, and are committed to providing a website that is accessible to the widest possible audience, regardless of circumstance and ability.
To fulfill this, we aim to adhere as strictly as possible to the World Wide Web Consortium’s (W3C) Web Content Accessibility Guidelines 2.1 (WCAG 2.1) at the AA level. These guidelines explain how to make web content accessible to people with a wide array of disabilities. Complying with those guidelines helps us ensure that the website is accessible to all people: blind people, people with motor impairments, visual impairment, cognitive disabilities, and more.
This website utilizes various technologies that are meant to make it as accessible as possible at all times. We utilize an accessibility interface that allows persons with specific disabilities to adjust the website’s UI (user interface) and design it to their personal needs.
Additionally, the website utilizes an AI-based application that runs in the background and optimizes its accessibility level constantly. This application remediates the website’s HTML, adapts Its functionality and behavior for screen-readers used by the blind users, and for keyboard functions used by individuals with motor impairments.
If you’ve found a malfunction or have ideas for improvement, we’ll be happy to hear from you. You can reach out to the website’s operators by using the following email
Our website implements the ARIA attributes (Accessible Rich Internet Applications) technique, alongside various different behavioral changes, to ensure blind users visiting with screen-readers are able to read, comprehend, and enjoy the website’s functions. As soon as a user with a screen-reader enters your site, they immediately receive a prompt to enter the Screen-Reader Profile so they can browse and operate your site effectively. Here’s how our website covers some of the most important screen-reader requirements, alongside console screenshots of code examples:
Screen-reader optimization: we run a background process that learns the website’s components from top to bottom, to ensure ongoing compliance even when updating the website. In this process, we provide screen-readers with meaningful data using the ARIA set of attributes. For example, we provide accurate form labels; descriptions for actionable icons (social media icons, search icons, cart icons, etc.); validation guidance for form inputs; element roles such as buttons, menus, modal dialogues (popups), and others. Additionally, the background process scans all the website’s images and provides an accurate and meaningful image-object-recognition-based description as an ALT (alternate text) tag for images that are not described. It will also extract texts that are embedded within the image, using an OCR (optical character recognition) technology. To turn on screen-reader adjustments at any time, users need only to press the Alt+1 keyboard combination. Screen-reader users also get automatic announcements to turn the Screen-reader mode on as soon as they enter the website.
These adjustments are compatible with all popular screen readers, including JAWS and NVDA.
Keyboard navigation optimization: The background process also adjusts the website’s HTML, and adds various behaviors using JavaScript code to make the website operable by the keyboard. This includes the ability to navigate the website using the Tab and Shift+Tab keys, operate dropdowns with the arrow keys, close them with Esc, trigger buttons and links using the Enter key, navigate between radio and checkbox elements using the arrow keys, and fill them in with the Spacebar or Enter key.Additionally, keyboard users will find quick-navigation and content-skip menus, available at any time by clicking Alt+1, or as the first elements of the site while navigating with the keyboard. The background process also handles triggered popups by moving the keyboard focus towards them as soon as they appear, and not allow the focus drift outside it.
Users can also use shortcuts such as “M” (menus), “H” (headings), “F” (forms), “B” (buttons), and “G” (graphics) to jump to specific elements.
We aim to support the widest array of browsers and assistive technologies as possible, so our users can choose the best fitting tools for them, with as few limitations as possible. Therefore, we have worked very hard to be able to support all major systems that comprise over 95% of the user market share including Google Chrome, Mozilla Firefox, Apple Safari, Opera and Microsoft Edge, JAWS and NVDA (screen readers).
Despite our very best efforts to allow anybody to adjust the website to their needs. There may still be pages or sections that are not fully accessible, are in the process of becoming accessible, or are lacking an adequate technological solution to make them accessible. Still, we are continually improving our accessibility, adding, updating and improving its options and features, and developing and adopting new technologies. All this is meant to reach the optimal level of accessibility, following technological advancements. For any assistance, please reach out to