Slick แอปวัยรุ่นอินเดียทำฐานข้อมูลผู้ใช้นับแสนรายหลุดบนโลกออนไลน์

Loading

    Slick แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียสัญชาติอินเดียที่ขณะนี้กำลังมาแรงทำฐานข้อมูลผู้ใช้งานหลุดสู่สาธารณะเป็นเวลาหลายเดือน ในจำนวนนี้มีข้อมูลเด็กนักเรียนด้วย   ฐานข้อมูลนี้หลุดออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม มีทั้งชื่อนามสกุล เบอร์โทร วันเกิด และรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้งานมากกว่า 153,000 คน   ผู้ที่เจอฐานข้อมูลที่หลุดออกมานี้คือ อนุรัก เซ็น (Anurag Sen) จาก CloudDefense.ai ซึ่งได้ขอให้เว็บไซต์ TechCrunch ช่วยแจ้งเตือนไปยัง Slick ซึ่งทาง Slick ก็ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว   เซ็นยังได้จากแจ้งไปยังหน่วยตอบโต้เหตุฉุกเฉินทางคอมพิวเตอร์อินเดีย (CERT-In) ให้ทราบด้วยแล้ว   TechCrunch พบว่าการหลุดรั่วของฐานข้อมูลในครั้งนี้เกิดจากการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ใครก็ตามที่รู้เลขไอพีของฐานข้อมูลก็จะสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้หมด   Slick เปิดให้ใช้งานครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ก่อตั้งโดย อาจิต นันดา (Archit Nanda) อดีตผู้บริหาร Unacademy โดย Slick เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักเรียนและนักศึกษามาพูดคุยกันได้แบบไม่เปิดเผยตัวตน ในปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดถึง 100,000 ครั้ง…

อื้ออึง!! ตอลิบานขาย “อาวุธเมดอินยูเอสเอ” โจ่งครึ่ม หลังอเมริกาทิ้งไว้ถึง 7.1 พันล้านดอลลาร์

Loading

    เอเจนซีส์ – คลิปโผล่ไปทั่วในอินเดียเดือนที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ถือปืนไรเฟิล M4 carbine อย่างหรูของสหรัฐฯ หลังตอลิบานครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกันมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์ หลังสหรัฐฯ และนาโต้ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานไปอย่างจ้าละหวั่นเมื่อสิงหาคม ปี 2021 เชื่อใช้โดรนลักลอบขนอาวุธอเมริกันข้ามพรมแดนเข้าแคชเมียร์ในเขตปกครองของอินเดีย   NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (31 ม.ค.) ว่า หลังกองทัพสหรัฐฯ และนาโต้ต่างถอนกำลังออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อสิงหาคมปี 2021 และเพนตากอนยอมรับว่ามียุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ อยู่ในอัฟกานิสถานหลังตอลิบานเข้าครอบครองมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์   กลายเป็นคำถามเกิดขึ้นมาหลังมีวิดีโอคลิปกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ และจัมมูใช้อาวุธเมดอินยูเอสเอ รวมถึงปืนไรเฟิล M4 carbine ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ M249 ปืนเชิงยุทธวิธี 509 ปืนพก M1911 ซึ่งอาวุธเหล่านี้ถูกใช้ภายในกองทัพสหรัฐฯ wionews ของอินเดียรายงาน ซึ่งปืนไรเฟิล M4 carbine ขึ้นชื่อว่าเป็นปืนที่ทหารอเมริกันใช้ในอัฟกานิสถาน   สื่ออินเดียชี้ว่า เชื่อว่าอาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนปืนจำนวนมากที่ทิ้งในอัฟกานิสถานถูกขายอย่างเปิดเผยโดยตอลิบาน และกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานซื้ออาวุธเหล่านี้…

อินเดียพิจารณาแบนเนื้อหาออนไลน์ ที่รัฐบาลถือเป็น “ข่าวปลอม”

Loading

    รัฐบาลอินเดียจะไม่อนุญาตให้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์แสดงข้อมูลใด ๆ ที่ถูกระบุว่าเป็น “ข้อมูลเท็จ” ตามข้อเสนอร่างกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ของประเทศ ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นมาตรการล่าสุดของรัฐบาลนิวเดลี ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี   ข้อมูลใด ๆ ที่ถูกระบุ “ปลอมหรือเท็จ” โดยสำนักประชาสัมพันธ์ (พีไอบี) หรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากรัฐบาล หรือจาก “หน่วยงานที่มีการทำธุรกรรมดังกล่าว” จะถูกห้ามเผยแพร่ภายใต้ร่างกฎหมายใหม่นี้   เมื่อข้อมูลถูกระบุว่าปลอมหรือเท็จ แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ หรือ “ตัวกลางทางออนไลน์อื่น ๆ” จะต้อง “ใช้ความพยายามตามสมควร” เพื่อทำให้มั่นใจว่า ผู้ใช้งานจะไม่จัด, แสดง, อัปโหลด, ดัดแปลง, เผยแพร่, ส่งต่อ, จัดเก็บ, อัปเดต หรือแชร์ข้อมูลนั้น ๆ   India…

“ปากีสถาน-อินเดีย” แลกเปลี่ยนข้อมูลนิวเคลียร์ประจำปี

Loading

  รัฐบาลปากีสถานและอินเดียแบ่งปันข้อมูลด้านนิวเคลียร์รายปี ซึ่งเกิดขึ้นทุกวันปีใหม่ และเป็นธรรมเนียมที่ทั้งสองประเทศปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศของปากีสถานออกแถลงการณ์ว่า ได้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับ “สถานที่ตั้งด้านนิวเคลียร์” และโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้แก่รัฐบาลนิวเดลี ผ่านสำนักงานข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำกรุงอิสลามาบัด หรือสถานเอกอัครราชทูต   ?: PR NO. 0️⃣1️⃣/2️⃣0️⃣2️⃣3️⃣ Annual Exchange of Lists of Nuclear Installations and Facilities between Pakistan and India ?⬇️https://t.co/avr8VeH3Vy pic.twitter.com/eFy7RwPVFs — Ministry of Foreign Affairs – Pakistan (@ForeignOfficePk) January 1, 2023   ด้านกระทรวงการต่างประเทศอินเดียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม…

ย้อนปมขัดแย้งจีน-อินเดีย ปัญหาพรมแดนปะทุ ปะทะเดือดครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

Loading

  กองทัพจีนและอินเดียปะทะกันบริเวณชายแดนพื้นที่พิพาทบนเทือกเขาหิมาลัย ครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังทั้งสองฝ่ายพยายามลดความตึงเครียด จากเหตุการณ์ปะทะครั้งใหญ่ จนคร่าชีวิตทหารไปอย่างน้อย 24 นาย เมื่อปี 2563   กองทัพอินเดียออกมาระบุเมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ว่า ทหารของตนได้ปะทะกับทหารกองทัพจีนในพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง   การปะทะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ธ.ค.) ในพื้นที่เมืองตาวัง รัฐอรุณาจัลประเทศ ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันออกสุดของอินเดีย   โดยกองทัพอินเดียระบุในแถลงการณ์ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ถอนกำลังออกนอกพื้นที่ในทันทีหลังเกิดการปะทะ ในขณะที่ผู้บัญชาการของทั้งสองได้จัดการเจรจาขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อรื้อฟื้นสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่   อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ทางการจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแหล่งข่าวจากกองทัพอินเดียที่เปิดเผยว่า มีทหารอินเดียได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปะทะครั้งนี้อย่างน้อย 6 นาย       เกิดอะไรขึ้นที่พรมแดนจีน-อินเดีย   จีนและอินเดียมีพรมแดนร่วมกันเป็นระยะทางยาว 4,056 กิโลเมตร แต่ในระยะทางดังกล่าวมีอยู่ราว 3,440 กิโลเมตร เป็นจุดที่ไม่สามารถกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นแนวแม่น้ำ ทะเลสาบ…

ปะทะรอบใหม่! ทหารอินเดีย-จีน เผชิญหน้าที่พรมแดนอรุณาจัลประเทศ

Loading

FILE – A signboard is seen from the Indian side of the Indo-China border at Bumla, in the northeastern Indian state of Arunachal Pradesh, Nov. 11, 2009.   ทางการอินเดียเปิดเผยว่า ทหารของตนได้พยายามสกัดกั้นทหารจีนกลุ่มหนึ่งไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนนำไปสู่การปะทะกันรอบใหม่บริเวณพรมแดนในเขตรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดีย   การปะทะกันครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการเผชิญหน้ากันอีกครั้งของสองประเทศมหาอำนาจในเอเชีย นับตั้งแต่เกิดการต่อสู้ระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายในอีกด้านหนึ่งของพรมแดนเทือกเขาหิมาลัยเมื่อปี ค.ศ. 2020 ซึ่งทำให้มีทหารอินเดียเสียชีวิต 20 คน และทหารจีนเสียชีวิต 4 คน   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินเดีย ราชนาธ ซิงห์ กล่าวต่อรัฐสภาอินเดียในวันอังคารว่า “เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ทหารจีนได้พยายามเปลี่ยนสถานะด้วยการรุกล้ำเข้ามาในเส้นแบ่งพรมแดนในเขตตาวัง พื้นที่แยงซี” และว่า “ทหารอินเดียได้เข้าสกัดกั้นอย่างกล้าหาญต่อการรุกล้ำของกองทัพจีนเข้ามาในพรมแดนอินเดีย และขับไล่ทหารเหล่านั้นจนถอนกำลังกลับไป”…