ทำความรู้จัก “เสมิร์ฟ (SMuRF)” กองทัพหุ่นยนต์รื้อถอนโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์

Loading

  นักวิทยาศาสตร์จากสหราชอาณาจักร พัฒนาหุ่นยนต์สเมิร์ฟ (SMuRF) กองทัพหุ่นยนต์ที่แต่ละตัวมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อปฏิบัติงานที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์   นักวิทยาศาสตร์กำลังเสนอให้ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติที่มีชื่อว่าระบบสเมิร์ฟ (SMuRFs หรือ Symbiotic Multi-Robot Fleet) เพื่อช่วยในการรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต   สเมิร์ฟพัฒนาโดยทีมวิศวกรจากมหาวิทยาลัยกลาสโกลว (สก็อตแลนด์) มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (อังกฤษ) ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์บริสตอล (สหราชอาณาจักร) และมหาวิทยาลัยเฮเรียต-วัตต์ (สก็อตแลนด์)   แดเนียล มิทเชล (Daniel Mitchell) หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยกล่าวว่าสเมิร์ฟตัวต้นแบบแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติและข้อจำกัดที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงมีระบบปฏิบัติการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย บางตัวสามารถบินได้ บางตัววิ่ง บางตัวก็วิ่งเหยาะ ๆ แต่ทุกตัวสามารถทำงานร่วมกันได้เพื่อทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์   ระบบที่ทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานร่วมกันได้คือระบบไซเบอร์กายภาพ (Cyber-Physical System หรือ CPS) ซึ่งเป็นระบบที่มีความซับซ้อนพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยทีมนักวิจัย ซึ่งระบบนี้ทำให้หุ่นยนต์สามารถสื่อสารกันแบบเรียลไทม์ได้ด้วยหุ่นยนต์และเซ็นเซอร์รวมกันมากกว่า 1,600 ชิ้น หุ่นยนต์แต่ละตัวจะแบ่งปันข้อมูลเซ็นเซอร์ และรวมความสามารถกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์งานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าทำตัวเดียว นอกจากนี้ การควบคุมการทำงาน ยังสามารถทำได้โดยมนุษย์เพียงคนเดียว   ทั้งนี้ทีมวิจัยได้นำหุ่นยนต์ไปสาธิตภาคปฏิบัติที่โรงงาน Robotics…

หุ่นยนต์ลุยไฟ สำรวจพื้นที่ไฟไหม้แทนคน ทนความร้อนได้ถึง 650 องศา

Loading

การดับเพลิงคือสิ่งที่อันตรายเสมอ เจอทุกครั้งเสี่ยงทุกครั้ง แม้จะเป็นตัวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเองก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองจึงมีทั้งบริษัทและทีมนักวิทยาศาสตร์ ต่างช่วยกันพัฒนาหุ่นยนต์ ที่สามารถเข้าไปสำรวจในพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ ก่อนจะส่งเจ้าหน้าที่ตามเข้าไปเพื่อความปลอดภัย

ต้นแบบหุ่นยนต์สายลับ ? เมื่อจบภารกิจ ก็สลายหายไปเองได้

Loading

นักวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้พัฒนาหุ่นยนต์ผิวนุ่ม ซึ่งสามารถละลายกลายเป็นแอ่งสารเหนียวได้ด้วยตัวเอง เมื่อได้รับการกระตุ้นจากแสงอัลตราไวโอเลต ก็จะละลายเหลือทิ้งไว้เพียงแอ่งของเหลวบาง ๆ

หุ่นยนต์สุนัข Spot ถูกส่งไปสำรวจศูนย์ทดสอบอาวุธช่วงสงครามเย็น

Loading

หุ่นยนต์สุนัข Spot ของบริษัทบอสตันไดนามิกส์ ถูกส่งไปสำรวจศูนย์ทดสอบอาวุธช่วงสงครามเย็น 2 แห่ง เพื่อเก็บภาพขนาดและลักษณะทางเรขาคณิตของตึก เนื่องจากภารกิจนี้หากเป็นมนุษย์เข้าไปสำรวจอาจเกิดอันตรายได้

สตาร์ตอัปสวิตเซอร์แลนด์ พัฒนาหุ่นยนต์ดำน้ำ เพื่อช่วยค้นหาและกู้ภัยในสถานที่อันตราย

Loading

  Tethys Robotics บริษัทสตาร์ตอัปในสวิตเซอร์แลนด์ พัฒนาโดรนหุ่นยนต์ใต้น้ำเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทีมประดาน้ำและกู้ภัย ที่ต้องเข้าไปทำงานในสถานที่ที่อาจเป็นอันตรายเกินไปสำหรับมนุษย์   โดยหุ่นยนต์ดำน้ำตัวนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้สามารถทำงานได้อย่างอิสระ แม้สภาพแวดล้อมโดยรอบจะไม่เอื้ออำนวย เช่น ในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวหรือจุดที่มีคลื่นสูง   โจนาส วุสต์ (Jonas Wüst) ซีอีโอของ Tethys Robotics เล่าว่า เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับเงื่อนไขที่ท้าทายนี้ จึงเตรียมพัฒนาโดรนใต้น้ำรุ่นต่อไปให้มีความกะทัดรัดมากขึ้น โดยหุ่นยนต์ของ Tethys ยังติดอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายภาพและเซนเซอร์ตรวจจับเสียง เพื่อให้สามารถค้นหาในพื้นที่ใต้น้ำขนาดใหญ่ ด้วยการทำงานอย่างอิสระผ่านการควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล     ตัวหุ่นยนต์ของ Tethys ยังสามารถแบกวัตถุที่หนักถึง 40 กิโลกรัม กลับขึ้นมาบนผิวน้ำได้ด้วย โดยทีมงานได้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาปรับให้เข้ากับซอฟต์แวร์จดจำ เพื่อการทำงานใต้น้ำ พร้อมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับเสียง เพื่อลดปัญหาข้อจำกัดในการมองเห็นใต้น้ำ ซึ่งมีการทดลองใช้จริง โดยหน่วยงานราชการท้องถิ่นในสวิตเซอร์แลนด์ได้ใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยหลายครั้งแล้ว   ที่มา : tucson       ————————————————————————————————————————- ที่มา…

หุ่นยนต์รปภ. วิบาก ไปทุกที่ พร้อมทุกทาง

Loading

  บริษัท แอสเซนโตผลิตหุ่นยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสุดเจ๋ง เพื่อมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทต่าง ๆ   แอสเซนโต (Ascento) บริษัทสตาร์ตอัปด้านหุ่นยนต์จากเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยขับเคลื่อนอัตโนมัติตัวนี้ออกมา โดยบริษัทได้เปิดตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ในปี 2021 และมีการอัปเกรดโฉมใหม่มาเรื่อย ๆ เพื่อมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทต่าง ๆ   สำหรับหน้าตาของหุ่นยนต์แอสเซนโต เป็นหุ่นยนต์แบบสองล้อ ซึ่งส่วนที่ใช้ขับเคลื่อนจะเป็นการผสมผสานระหว่างขาและล้อที่ยืดหดได้เข้าด้วยกัน ขณะที่ส่วนสมองกลจะติดตั้งคอมพิวเตอร์, แบตเตอรี่และเซนเซอร์ รวมถึงผสานเทคโนโลยีใหม่เช่นระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ากับระบบคลาวด์เอาไว้เพื่อตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในพื้นที่ ขณะที่ส่วนล้อสามารถเปลี่ยนเป็นทั้งล้อแบบเรียบ และล้อหนาม ทำให้สามารถเดินทางไปในพื้นที่ขรุขระ เผชิญกับการกระแทกได้ และแม้แต่ขึ้นลงบันไดก็ไม่เป็นปัญหา     บริเวณส่วนหน้าของหุ่นยนต์แอสเซนโต ยังมีกล้องตรวจจับความร้อนติดไฟ LED เพื่อตรวจจับบุคคลและยานพาหนะ ในขณะที่กล้อง 360 องศาจับภาพรอบ ๆ ตัวไปพร้อมกัน พร้อมกับไมโครโฟนและลำโพงเพื่อการสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานผ่านระบบเชื่อมต่อสัญญาณ   ด้าน อเลสซานโดร โมรา (Alessandro Morra) CEO และผู้ก่อตั้งแอสเซนโตเปิดเผยว่า หุ่นยนต์ลาดตระเวนแอสเซนโต สามารถร่วมมือกับมนุษย์ ทำงานในพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่…