‘เซเลนสกี’ โวยรัสเซียจ้อง ‘ระเบิดเขื่อน’ เสี่ยงทำภาคใต้ยูเครนน้ำท่วมใหญ่ จี้ตะวันตกลงโทษเทียบเท่าใช้ ‘นิวเคลียร์-อาวุธเคมี’

Loading

  ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกช่วยยับยั้งรัสเซียไม่ให้ระเบิดทำลายเขื่อนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ภาคใต้ยูเครนต้องเผชิญ “น้ำท่วม” ครั้งใหญ่ ขณะที่กองกำลังเคียฟเตรียมรุกคืบขับไล่ทหารรัสเซียออกจากภูมิภาคเคียร์ซอน (Kherson)   เซเลนสกี แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์วานนี้ (20 ต.ค.) ว่า กองทัพรัสเซียได้วางทุ่นระเบิดเอาไว้ภายในเขื่อนโนวาคาคอฟกา (Nova Kakhovka ) ซึ่งกั้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีแผนที่จะระเบิดทำลายมันทิ้ง   “ตอนนี้ทุกคนทั่วโลกต้องร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียก่อการร้ายครั้งใหม่ เพราะการทำลายเขื่อนแห่งนี้ย่อมหมายถึงหายนะในวงกว้าง” ผู้นำยูเครนกล่าว   รัสเซียเคยออกมากล่าวหายูเครนว่ายิงจรวดโจมตี และวางแผนที่จะทำลายเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนชี้ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามอสโกกำลังคิดที่จะระเบิดเขื่อน และโยนความผิดให้เคียฟ   แม่น้ำดนีโปร (Dnipro) ซึ่งแบ่งยูเครนออกเป็น 2 ส่วนมีความกว้างหลายกิโลเมตร ในบางจุด และการระเบิดทำลายเขื่อนโนวาคาคอฟกาจะส่งผลให้มีมวลน้ำมหาศาลไหลหลากเข้าท่วมชุมชนที่อยู่เบื้องล่าง รวมถึงเมืองเคียร์ซอนซึ่งกองกำลังยูเครนตั้งเป้าว่าจะต้องยึดคืนจากรัสเซียให้ได้ นอกจากนี้ ยังจะส่งผลกระทบต่อระบบคลองชลประทานที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ภาคใต้ของยูเครน ตลอดจน “คาบสมุทรไครเมีย” ซึ่งรัสเซียใช้กำลังผนวกไปเมื่อปี 2014   เซเลนสกี เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกประกาศชัดเจนว่า การระเบิดทำลายเขื่อนมีค่าเท่ากับ “การใช้อาวุธทำลายล้างสูง” และจะต้องได้รับบทลงโทษเช่นเดียวกับในกรณีที่รัสเซียใช้ “ระเบิดนิวเคลียร์” หรือ “อาวุธเคมี”…

รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วยูเครน เคียฟหวั่นเกิดวิกฤติ

Loading

  ยูเครนยอมรับ ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียสร้างความเสียหายให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศแล้ว “ราว 1 ใน 3” เพิ่มความกังวลว่า อาจส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของประชาชน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ระลอกใหม่ของรัสเซีย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของยูเครน “ประมาณ 30%” และเตือนชาวยูเครนเพิ่มการตื่นตัวและเตรียมความพร้อมรับมือ กับภาวะขัดข้องด้านกระแสไฟฟ้า น้ำประปา และระบบทำความร้อน เนื่องจากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย “หนักหน่วงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”   Another kind of Russian terrorist attacks: targeting ?? energy & critical infrastructure. Since Oct 10, 30% of Ukraine’s power stations have been destroyed, causing massive…

รัสเซียลักพาตัว ผอ.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย IAEA เร่งประสาน หวั่นกระทบความปลอดภัย

Loading

REUTERS   รัสเซียลักพาตัว ผอ.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย IAEA เร่งประสาน หวั่นกระทบความปลอดภัย   Energoatom บริษัทที่ดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้ทำการลักพาตัวหัวหน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยการลักพาตัวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา   Energoatom ระบุว่า รัสเซียได้ลักพาตัวนายอิฮอร์ มูราชอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกองทหารรัสเซียได้หยุดรถของเขา ปิดตา ก่อนจะพาไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย   นายเปโตร โคดิน ประธานบริษัท Energoatom กล่าวว่า การกักขังผู้อำนวยการของโรงไฟฟ้าซาปอริซเซียโดยรัสเซีย เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของยูเครนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายมูราชอฟทันที   ด้านนายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แสดงความคาดหวังว่านายมูราชอฟจะสามารถกลับไปหาครอบครัวของเขาได้อย่างปลอดภัยและอย่างรวดเร็ว และจะสามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญของเขาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้   ทั้งนี้ มีรายงานว่าไอเออีเอได้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับการกักขังตัวนายมูราชอฟเป็นการชั่วคราว ซึ่งไอเออีเอมองว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อเจ้าตัว และต่อมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์       ——————————————————————————————————————————- ที่มา : …

ยูเครนแจกยาเม็ดไอโอดีนให้ชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หวั่นรังสีรั่วไหล

Loading

  ยูเครนแจกยาเม็ดโพแทสเซียมไอโอดีนป้องกันกัมมันตภาพรังสีให้ประชาชนรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย หวั่นเกิดภัยพิบัติ รังสีรั่วไหล วันที่ 27 สิงหาคม 2565 เอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า ทางการยูเครนเริ่มแจกจ่ายยาเม็ดไอโอดีนให้กับผู้ที่อยู่อาศัยใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าการสู้รบรอบโรงไฟฟ้าฯ อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของรังสี หรือนำไปสู่ภัยพิบัติที่อันตรายกว่า ความเคลื่อนดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจียถูกตัดการเชื่อมต่อจากโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนเป็นการชั่วคราว เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 40 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ในยูเครน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดกับโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล เมื่อปี 2529 “โวโลดิมีร์ มาร์ชุค” โฆษกสำนักบริหารภูมิภาคซาโปรีเจียของกองทัพยูเครน เผยว่า ยาเม็ดไอโอดีนถูกแจกจ่ายให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากโรงงานในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ (Enerhodar) “ผู้ได้รับยาชนิดนี้ได้รับคำสั่งไม่ให้ใช้ยาในลักษณะการป้องกัน เพราะยานี้จะใช้ในกรณีที่รังสีรั่วไหลในอนาคต ซึ่งในเวลานั้นรัฐบาลจะสั่งให้ประชาชนกินยาเม็ดนี้” อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุว่า มีการแจกจ่ายยามากน้อยแค่ไหน และใครบ้างที่ได้รับยา แต่เขาได้เผยทางเทเลแกรมว่า มีการส่งมอบยาเม็ดไอโอดีน 25,000 เม็ด ไปยังเมืองทางตอนใต้ พร้อมกับเน้นย้ำว่า ระดับรังสีที่โรงไฟฟ้าฯ และพื้นที่โดยรอบ ขณะนี้ยังเป็นปกติ ยาเม็ดโพแทสเซียมไอโอดีนมีคุณสมบัติในการบล็อกสารกัมมันตภาพรังสีชนิดหนึ่ง และถูกนำมาใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ เพื่อช่วยปกป้องต่อมไทรอยด์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทเอเนอร์โกอะตอม (Energoatom) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนระบุว่า โรงไฟฟ้าฯ แห่งนี้ได้รับพลังงานอย่างปลอดภัยผ่านสายไฟฟ้าที่ซ่อมแซมแล้วจากโครงข่ายไฟฟ้า หนึ่งวันหลังจากถูกตัดการเชื่อมต่อจากโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ…

นอร์เวย์-อังกฤษเตรียมบริจาค “ไมโครโดรน” ช่วยยูเครน

Loading

  นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรร่วมกันบริจาคโดรนขนาดเล็ก “แบล็กฮอร์เน็ต” ให้กับยูเครนจำนวน 850 ลำ   เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ ระบุว่า นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรจะร่วมกันบริจาคความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครน เป็นโดรนขนาดเล็ก “แบล็กฮอร์เน็ต (Black Hornet)” ที่ผลิตในนอร์เวย์   “นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรกำลังร่วมมือกันเพื่อซื้อแบล็กฮอร์เน็ต โดรนขนาดเล็กของนอร์เวย์ เพื่อบริจาคให้กับยูเครน โดยงบประมาณอยู่ที่ 90 ล้านโครนนอร์เวย์ (ราว 333 ล้านบาท)” คำแถลงระบุ     โดรนขนาดเล็กหรือไมโครโดรนแบล็กฮอร์เน็ตนี้ มีขนาดเพียง 6 นิ้ว (15 ซม.) หน้าตาจะคล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ของเล่น มีวัตถุประสงค์หลักคือการลาดตระเวนและการระบุเป้าหมาย นิยมใช้ในสงครามในเมือง และการสอดส่องพื้นที่ในอาคาร   ความช่วยเหลือร่วมของนอร์เวย์และสหราชอาณาจักรนี้ จะประกอบด้วย โดรนแบล็กฮอร์เน็ต 850 ลำ อะไหล่ชิ้นส่วน โดยนอร์เวย์บอกว่า ยูเครนเป็นผู้เรียกร้องขอยุทโธปกรณ์ประเภทนี้เพื่อใช้ในการสู้กับรัสเซีย นอกจากนี้ความช่วยเหลือจะรวมถึงบริการขนส่งและฝึกอบรมการใช้งานโดยสหรอาชอาณาจักรด้วย   บยอร์น อาริลด์ แกรม…

ยูเครนเร่งสืบสวนหาตัวคนทรยศต่อ หลังปลด จนท.ระดับสูง

Loading

  เข้าสู่วันที่ 146 ของสงครามในยูเครน ตอนนี้สถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนพอมีสัญญาณที่ดีออกมาให้เห็น เมื่อมีรายงานว่ายูเครนสามารถป้องกันบางพื้นที่ในแคว้นโดเนตสก์ได้ หลังจากที่ยูเครนประจำการอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งให้ในสนามรบ นอกจากศึกนอกแล้ว ยูเครนยังต้องรับมือกับศึกในประเทศด้วย หลังจากที่มีรายงานว่า ทางการยูเครนพบกบฏในหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐ จนทำให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีตัดสินใจปลดหัวหน้าหน่วยความมั่นคงและอัยการสูงสุดออกจากตำแหน่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในเรื่องการสอบสวนคดีดังกล่าวออกมา โดยผู้นำของยูเครนเปิดเผยว่า ตอนนี้ทางการยูเครนกำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน และกำลังพิจารณาปลดเจ้าหน้าจำนวน 28 ราย ซึ่งมาจากหลากหลายตำแหน่ง แต่ทุกคนมีพฤติกรรมเดียวกันคือ ประพฤติงานในทางไม่ชอบ     การพบกบฏในหน่วยงานที่เป็นแกนหลักอย่างหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุดของยูเครน ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลเพราะหน่วยงานความมั่นคงต้องดูแลเรื่องสงคราม ในขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดดูแลเรื่องคดีอาชญากรรมสงครามในเมืองบูชา ซึ่งทั้งสองเรื่องสำคัญมากท่ามสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ นอกจากนี้ อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นของทหาร ชาวยูเครน รวมถึงพันธมิตรที่ต้องแบ่งปันข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ให้แก่ยูเครนในสนามรบด้วย อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้สนับสนุนใหญ่ของยูเครนไม่ได้กังวลกับสิ่งเกิดขึ้น สหรัฐฯ ยืนยันว่าพร้อมที่จะทำงานกับหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนต่อไป อีกทั้งยังให้ความเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนใหม่ของยูเครนได้ นอกจากยูเครนต้องจัดการกับปัญหาภายในองค์กรที่เป็นแกนกลางของความมั่นคงระดับชาติแล้ว ยูเครนยังต้องจัดการกับรัสเซียในสนามรบด้วยเช่นกัน ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมารัสเซียโจมตีใส่ยูเครนอย่างหนักในหลายพื้นที่จนประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เริ่มต้นที่แคว้นคาร์คีฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า รัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีที่พักอาศัยของชาวยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้กระจกของอาคารแตกและอาคารบางส่วนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถัดลงมาที่แคว้นโดเนตสก์ซึ่งเป็นเป้าหมายของปฏิบัติการในเฟสสองนี้ เมื่อวาน หน่วยงานฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนรายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองเซียร์ชินสก์ ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของแคว้นโดเนตสก์ ผลจากโจมตีทำให้อาคารบางหลังเกิดเพลิงลุกไหม้และพังถล่มลงมา…