จีนเรียก 3 ยักษ์เทคโนโลยี คุมการใช้ deepfake บนแพลตฟอร์ม

Loading

    รอยเตอร์ส รายงาน (18 มี.ค.) – หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้มีคำสั่งเรียกบริษัท เทคโนโลยีในประเทศ 11 ราย รวมถึง อาลีบาบากรุ๊ป, เทนเซนต์และไบต์แดนซ์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี ‘deepfake’ บนแพลตฟอร์มของตน ผู้ดูแลระบบไซเบอร์สเปซของจีนกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี(18 มี.ค.) ว่ากระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้พูดคุยกับบริษัทต่าง ๆ เกี่ยวกับ“ การประเมินความปลอดภัย” และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับแอปโซเชียลปลอมภาพและเสียง ซึ่ง Kuaishou (ไคว่โส่ว) ของบริษัท Beijing Kuaishou Technology และ เสี่ยวหมี่ คอร์ป เข้าร่วมการประชุมด้วยเช่นกัน รายงานข่าวกล่าวว่า บริษัททั้งหมด ยังไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นใด ๆ Deepfakes คือการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สร้างวิดีโอหรือไฟล์เสียงที่สมจริงเกินจริง แต่เป็นของปลอม โดยทำเหมือนบุคคลเป็นผู้พูดหรือทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำ จีนได้เพิ่มการตรวจสอบยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมผูกขาดและการละเมิดสิทธิผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้น หน่วยงานกำกับดูแลยังแจ้งให้ บริษัทต่างๆ“ ดำเนินการประเมินความปลอดภัยด้วยตนเอง” และส่งรายงานไปยังรัฐบาลเมื่อพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่หรือบริการข้อมูลใหม่ที่ “มีความสามารถในการขับเคลื่อนสังคม” ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ของจีน ได้ลอกเลียนแบบแอปเสียง Clubhouse…

กองทัพเมียนมาแก้ประมวลกฎหมายอาญาความมั่นคง

Loading

การปลุกระดมให้เกิดการล้มล้างรัฐบาลและรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นกบฏ” เนื่องจากเป็นลักษณะความผิดที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารเมียนมายังกำหนดลักษณะความผิดอาญาด้านความมั่นคงอีกหลายรูปแบบ     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่าคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับการแก้ไขบางมาตราของประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วย “พฤติการณ์เข้าข่ายก่อสงครามต่อสหภาพเมียนมา” ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงภายในประเทศ ให้ครอบคลุมถึงการปลุกระดม การสนับสนุนหรือสมคบคิดกับกลุ่มบุคคลใด โดยมีเป้าประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาลและอำนาจตามรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นความผิดร้ายแรง ฐานเป็นกบฏต่อแผ่นดิน” Anti-coup protesters rally outside National League for Democracy party (#NLD) offices in #Yangon#Myanmar pic.twitter.com/Eba1b11VJ4 — Ruptly (@Ruptly) February 15, 2021 Protesters in Myanmar continued to demand for the release of ousted civilian leader…

พกปืนมาด้วย?! สนามบินสหรัฐฯ ยึดปืนจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อปีก่อน

Loading

  สำนักงานดูแลความปลอดภัยด้านการคมนาคมของสหรัฐฯ หรือ TSA เผยหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่สนามบินทั่วอเมริกา ยึดอาวุธปืนจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทำสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของ Associated Press หน่วยงาน TSA เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เมื่อปี 2020 เพียงปีเดียว เจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจที่สนามบินทั่วประเทศ ยึดอาวุธปืนจากผู้โดยสารเที่ยวบินต่างๆ หรือจากกระเป๋าสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบินของผู้โดยสารได้ราว 3,257 กระบอก หรือเท่ากับว่าผู้โดยสาร 1 ล้านคน จะมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วยราว 10 คน ขณะที่อาวุธปืนราว 83% อยู่ในสัมภาระที่เก็บใต้ท้องเครื่อง ที่น่าสนใจคือ การยึดอาวุธปืนที่สนามบินต่างๆ ในอเมริกาเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2019 จากที่ผู้โดยสารเครื่องบินเฉลี่ย 5 คน จากทุกๆ 1 ล้านคน จะพกพาอาวุธปืนมาที่สนามบิน แต่ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเครื่องบินในปี 2019 มากกว่าในปี 2020 ถึง 500 ล้านคน จากวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินลดฮวบ ทาง TSA ยังพบว่า 5 สนามบินในอเมริกาที่พบการพกพาอาวุธปืนของผู้โดยสารมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว…

กองทัพเมียนมาบล็อก’เฟซบุ๊ก’ ด้วยเหตุผล’ความมั่นคง’

Loading

  “เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงภายใน” รัฐบาลทหารเมียนมาสั่งปิดกั้นการเข้าถึงเฟซบุ๊ก และบริการในเครือทั้งหมด จนถึงวันอาทิตย์นี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ว่ากระทรวงการสื่อสารของเมียนมาออกแถลงการณ์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ว่าบริการเฟซบุ๊กในประเทศจะไม่สามารถใช้งานได้ จนถึงวันที่ 7 ก.พ.นี้ “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” เนื่องจากตรวจสอบพบว่า “บุคคลบางกลุ่ม” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพด้านความมั่นคงภายในเมียนมา ด้วยการเผยแพร่ข่าวเท็จ และข้อมูลอันบิดเบือน ขณะที่ เน็ตบล็อกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระสังเกตการณ์ด้านการใช้อินเทอร์เน็ต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เอ็มพีที ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของเมียนมา ไม่ได้เพียงปิดกั้้นการเข้าถึงเฟซบุ๊ก แต่ยังรวมถึงอินสตาแกรม เมสเซนเจอร์ เซอร์วิส และวอตต์สแอปป์ ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊กด้วย The move comes amid growing expressions of outrage over the coup by Myanmar citizens, who have turned to social media to express…

ดูเต็มอิ่ม! ประมวลภาพทหารอเมริกันติดอาวุธทั่วรัฐสภาสหรัฐ คุ้มกันพิธีสาบานตน

Loading

14 มกราคม 64 ภาพทหารอเมริกันติดอาวุธจากกองกำลังพิทักษ์ชาติสหรัฐ หรือกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ กว่า 10,000 นาย ที่ถูกไปคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและนอกอาคารรัฐสภาสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อดูแลความปลอดภัยในช่วงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากเกิดเหตุจลาจลเมื่อกลุ่มผู้ชมนุมที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าไปในรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และสร้างความเสียหายให้กับอาคารสถานที่และทรัพย์สินจำนวนมาก ว่ากันว่ากองกำลังติดอาวุธจำนวนมากนี้มีจำนวนมากกว่าจำนวนทหารสหรัฐในอิรักและอัฟกานิสถานเสียอีก หลังจากสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) มีจดหมายเวียนเป็นการภายใน ให้เจ้าหน้าที่ยกระดับมาตรการจับตา การเตรียมการของกลุ่มขวาจัดติดอาวุธ ซึ่งมีแนวโน้มจะจัดการชุมนุมในทั้ง 50 รัฐ และกรุงวอชิงตันตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องไปจนถึงวันสาบานตนของไบเดน                                      …

สหรัฐคุมเข้มวีซ่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน จาก 10 ปี เหลือ 1 เดือน

Loading

แม้จะมีเวลาเพียงไม่มากที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพ้นจากตำแหน่ง แต่ความพยายามในการเล่นงานจีน ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ออกกฎควบคุมการเดินทางมายังสหรัฐของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนรวมถึงครอบครัว โดยมีการลดระยะเวลาการออกวีซ่าสำหรับนักธุรกิจนักท่องเที่ยวประเภท B1/B2 จาก 10 ปีลงเหลือเพียง 1 เดือนเท่านั้น แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสหรัฐจากอิทธิพลอันเป็นภัย พร้อมกับระบุว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามที่จะสร้างอิทธิพลในสหรัฐผ่านการโฆษณาชวนเชื่อ การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ และการดำเนินกิจกรรมอันชั่วร้าย กระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังระบุด้วยว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 90 ล้านคนยังได้ส่งเจ้าหน้าที่รัฐมายังสหรัฐ เพื่อทำการเฝ้าจับตา ข่มขู่คุกคาม รวมถึงรายงานการดำเนินการของคนจีน และกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายจีนอย่างปราศจากความละอาย ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนก็ประณามการดำเนินการของสหรัฐทันทีว่า เป็นที่ชัดเจนว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะขยายการเล่นงานจีนโดยกลุ่มต่อต้านจีนสุดโต่งในสหรัฐ ซึ่งดำเนินการทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานอคติทางความคิดและทัศนคติแบบช่วงสงครามเย็นที่ฝังรากลึก —————————————————- ที่มา : มติชนออนไลน์ / 4 ธันวาคม 2563 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2471383