จบกัน จีนดันกม.ความมั่นคงกำราบฮ่องกง ขณะฝ่ายปชต.ปลุกม็อบนับล้านต้าน

Loading

นักเคลื่อนไหวและ ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกงแถลงข่าวตอบโต้การเสนอกฎหมายความมั่นคงเข้าสภาของจีนเมื่อวันศุกร์ ไม่รอสภาฮ่องกงแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนเสนอกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเข้าสภาตรายางของจีนในวันศุกร์ กำราบพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนปลุกปั่นโค่นล้มระบอบในฮ่องกง ฝ่ายประชาธิปไตยพิโรธ ระบุเป็นอวสานของฮ่องกง ประกาศระดมคนหลายล้านประท้วงต่อต้านสุดสัปดาห์นี้ ร่างกฎหมายความมั่นคงที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) ในวันเปิดประชุมประจำปีเช้าวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม เป็นผลต่อเนื่องจากคำเตือนซ้ำหลายครั้งของบรรดาผู้นำในพรรคว่าจีนจะไม่ทนอดกลั้นกับการต่อต้านขัดขืนในฮ่องกงอีกต่อไป หลังจากเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ของฝ่ายประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อยาวนาน 7 เดือนเมื่อปีที่แล้ว เอเอฟพีรายงานว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นการบังคับใช้มาตรา 23 ของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง ที่ห้าม “การก่อกบฏ, การแบ่งแยกดินแดน, การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง และการบ่อนทำลาย” รัฐบาลจีน ซึ่งไม่เคยถูกนำมาบังคับใช้เนื่องจากการต่อต้านของชาวฮ่องกงที่เห็นว่าเป็นกฎหมายที่ทำลายสิทธิพลเมืองของพวกเขา ภายใต้รูปแบบกึ่งปกครองตนเองตามหลักหนึ่งประเทศ สองระบบ ที่จีนให้คำมั่นไว้ภายหลังรับมอบเกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้คืนจากอังกฤษเมื่อปี 2550 เมื่อปี 2556 สภานิติบัญญัติของฮ่องกงเคยพยายามผ่านมาตรานี้ แต่ก็ต้องยกเลิกเนื่องจากชาวฮ่องกงราว 500,000 คนออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้าน ความพยายามผลักดันกฎหมายนี้อีกครั้งเมื่อปีที่แล้วกลับเผชิญการต่อต้านหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า หวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมการประจำของเอ็นพีซี กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันศุกร์ว่า ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อกำราบขบวนการประชาธิปไตยของฮ่องกง “เราต้องใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกัน, หยุดยั้ง และลงโทษพวกเขาตามกฎหมาย” หวังกล่าวถึงขบวนการต่อต้านจีนในฮ่องกง การดำเนินการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะข้ามกระบวนการทางนิติบัญญัติของฮ่องกงโดยถือเป็นการผ่านกฎหมายจากสภาแห่งชาติ หวังกล่าวว่าความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของฮ่องกงบังคับให้ผู้นำจีนต้องดำเนินการเอง “เป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้วนับแต่รับมอบฮ่องกงคืนมา ที่กฎหมายเหล่านี้ยังไม่ได้บังคับใช้เพราะการลอบทำลายและขัดขวางโดยพวกที่พยายามหว่านปัญหาในฮ่องกงและจีน…

FBI พบ “ทหารซาอุฯ” กราดยิงฐานทัพเรือรัฐฟลอริดาปีที่แล้ว เกี่ยวข้อง “อัลกออิดะห์” จากหลักฐานในไอโฟน

Loading

เอเจนซีส์ – FBI ปลดล็อกโทรศัพท์มือถือไอโฟนทหารอากาศกองทัพซาอุฯ โมฮัมเหม็ด ซาอิด อัลชามรานี ที่ก่อเหตุกราดยิงภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา ปีที่แล้ว พบเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และมีความสัมพันธ์ย้อนไปไกลถึงปี 2015 ด้านแอปเปิลถูกวิจารณ์ที่ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ FBI ทำการปลดล็อก เอบีซีนิวส์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (19 พ.ค.) ว่า รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ และผู้อำนวยการสำนักงาน FBI สหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) แถลงในวันจันทร์ (18) ว่า ผู้ต้องสงสัยกราดยิงฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โมฮัมเหม็ด ซาอิด อัลชามรานี นั้น มีการติดต่อโดยตรงกับมือปฏิบัติการกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งบาร์และเรย์ ชี้ว่า การโจมตีมีการวางแผนมานานหลายปีในข้อมูลใหม่นี้ได้จากหลักฐานที่ถูกพบในโทรศัพท์มือถือไอโฟนของทหารอากาศซาอุดีอาระเบียนายนี้ บาร์เปิดเผยว่า อัลชามรานีพยายามทำลายโทรศัพท์ของตัวเอง และพบว่าได้ยิงกระสุนหนึ่งนัดใส่โทรศัพท์หนึ่งเครื่องจากจำนวนทั้งหมด ในแถลงการณ์เขากล่าวว่า “โทรศัพท์เหล่านี้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนต่อทางเรานั้นได้ทำให้สามารถแสดงความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างอัลชามรานีต่อเครือข่ายอัลกออิดะห์ในกลุ่มคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ที่ไม่ใช่แค่ก่อนการโจมตีแต่ก่อนที่เขาจะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในเวลานี้เรามีความเข้าใจมากถึงความเกี่ยวข้องของอัลชามรานีและความเคลื่อนไหวนานนับปี นับเดือน…

“โดรนไฮเทค” ของสหรัฐทำภารกิจส่งดาวเทียม

Loading

ยาน “เอ็กซ์-37บี” ของกองทัพอากาศสหรัฐ ปฏิบัติภารกิจครั้งที่ 6 ในรอบ 10 ปี เป็นการส่งดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อการวิจัย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่าจรวดแอตลาส ไฟฟ์ (Atlas V) ของบริษัทยูไนเต็ด ลอนช์ อัลไลแอนซ์ ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวดภายในศูนย์อวกาศเคนเนดี บนแหลมคานาเวอรัล ริมชายฝั่งรัฐฟลอริดา เมื่อเวลา 09.14 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ที่ผ่าน (20.14 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ภายในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ยาน “เอ็กซ์-37บี” ( X-37B ) ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งเป็นพาหนะทดสอบวงโคจรและไร้คนขับ ผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง ทำหน้าที่ปล่อย “ฟอลคอนแซต-เอต” ( FalconSat-8 ) ดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อการวิจัย เข้าสู่วงโคจรโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจ “ที่ละเอียดมากขึ้นกว่าภารกิจในอดีต” โดยในเบื้องต้นมีการเปิดเผยเพียงว่า ภารกิจของดาวเทียมฟอลคอนแซต-เอต “มีหลายอย่าง” รวมถึงการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของกัมมันตรังสีที่มีต่อเมล็ดพันธุ์ และการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นคลื่นไมโครเวฟ อนึ่ง ภารกิจครั้งนี้ของยานฟอลคอนแซต-เอต…

กลาโหมญี่ปุ่นตั้งหน่วยพิทักษ์อวกาศ

Loading

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้ก่อตั้งหน่วยงานใหม่ “ฝูงบินปฏิบัติการอวกาศ” ทำหน้าที่พิทักษ์เฝ้าระวังภัยคุกคามจากนอกโลก เจแปนไทมส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายทาโร่ โคโนะ รมว.กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้จัดตั้งหน่วยงานสังกัดใหม่ที่มีชื่อว่า “ฝูงบินปฏิบัติการอวกาศ” (The Space Operations Squadron) เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวังและป้องกันภัยคุกคามจากอวกาศ โดยเฉพาะระบบเครือข่ายดาวเทียมของญี่ปุ่น หน่วยงานใหม่นี้จะสังกัดภายใต้กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่น ด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานชุดแรก 20 นาย และคาดว่าจะเปิดรับสมัครคัดเลือกเพิ่มอีก 100 นาย เพื่อขยายการปฏิบัติภารกิจในอนาคต ภารกิจหลักของหน่วยนี้จะมุ่งเน้นที่ความร่วมมือในการฝึกอบรบบุคลากรกับหน่วยงานด้านอวกาศของสหรัฐ และหน่วยงานการสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ก่อนจะขยายไปยังการสร้างระบบเฝ้าระวังและตรวจสอบอวกาศเพื่อปกป้องเครือข่ายดาวเทียมของญี่ปุ่น จากการโจมตีของศัตรูหรือจากขยะอวกาศที่ลอยอยู่นอกโลก ทั้งยังทำหน้าที่ชี้จุดพิกัดสำหรับกองกำลังหน่วยอื่นๆในภาคพื้น ตั้งเป้าปฏิบัติงานเต็มรูปแบบภายในปี 2023 ในพิธีการสถาปนาหน่วย รัฐมนตรีโคโนะได้เป็นประธานทำหน้าที่มอบธงประจำหน่วยให้กับ พันโท โทชิฮิเดะ อะจิกิ ผู้ซึ่งรับหน้าที่ผู้บังคับบัญชาหน่วยคนแรก ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีชิ้นโซะ อาเบะ ได้กล่างแสดงจุดยืนหลายครั้งถึงการยกระดับบทบาทและขีดความสามารถทางการทหารให้เทียบเท่านานาชาติ เพื่อรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากประเทศอื่นๆอย่างจีนและเกาหลีเหนือที่ต่างขยายขีดความสามารถทางการทหารที่มากขึ้น Photo : Ministry of Defense (MoD) / KYODO ———————————————————————- ที่มา : โพสต์ทูเดย์…

สงครามอัฟกานิสถาน : สันติภาพที่สั่นคลอน หลังเหตุโจมตีงานศพ-แผนกทำคลอดในโรงพยาบาล

Loading

เหตุการณ์ที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีแผนกทำคลอดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย ทั้งแม่ ทารกแรกเกิด และพยาบาล ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถานแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุซึ่งเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลดาชต์-อี-บาร์ชี ในกรุงคาบูล กลุ่มตาลีบันเองก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอส ออกมาบอกว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่งานศพนายตำรวจ ชั้นผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งทางตะวันตกของประเทศ เหตุรุนแรงสองเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันคือเมื่อวันที่ 12 พ.ค. สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการเจรจาสันติภาพช่างเปราะบางแค่ไหน และความหวังว่าสงครามที่ดำเนินมาหลายทศวรรษจะสิ้นสุดก็ยิ่งริบหรี่เข้าไปใหญ่ ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ได้สั่งให้กองทัพหันไปเริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มตาลีบัน และกลุ่มติดอาวุธ อื่น ๆ อีกครั้ง เขากล่าวหาว่ากลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ไม่ได้สนใจคำขอร้องให้ลดละการก่อเหตุลงเลย นสพ.นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวันที่ 12 พ.ค. วันเดียว ราว 100 คน เกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาล ราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 ระลอก ส่วนแพทย์คนหนึ่งที่หนีออกมาจากโรงพยาบาลดาชต์-อี-บาร์ชี ในกรุงคาบูล บอกบีบีซีว่า มือปืนลงมือก่อเหตุขณะที่มีคนอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 140 คน…

ซาอุดีอาระเบีย : เมื่อเศรษฐีน้ำมันเผชิญปัญหารุมเร้าทั้งเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ

Loading

จากเคยเป็นประเทศปลอดภาษี ตอนนี้ซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสามเท่าจาก 5% เป็น 15% และยกเลิกเงินช่วยเหลือประชาชนรายเดือนตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป นโยบายนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงจนต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของราคาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้รายได้ของรัฐบาลหดหายไป 22% และโครงการใหญ่ ๆ ทั้งหลายต้องหยุดชะงัก ซาอุดิ อรัมโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียมีผลกำไรลดลง 25% ในไตรมาสแรกของปี สาเหตุหลักก็คือราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลง “มาตรการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการคุมค่าใช้จ่ายและพยายามให้ราคาน้ำมันคงที่” ไมเคิล สตีเฟนส์ นักวิเคราะห์ด้านอ่าวอาหรับกล่าว เขาบอกด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศกำลังย่ำแย่และต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมาเป็นปกติ โรคโควิด-19 กำลังสร้างความปั่นป่วนให้เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพึ่งพาแรงงานทักษะต่ำหลายล้านคนจากเอเชีย โดยมากแรงงานเหล่านี้อาศัยในสถานที่แออัดและสกปรก ขณะเดียวกัน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งยังได้รับความนิยมในประเทศอย่างมาก ก็ยังถูกชาติตะวันตกตีตัวออกห่างหลังมีข้อสงสัยว่าพระองค์พัวพันกับคดีสังหารจามาล คาชูจกิ นักข่าวซาอุฯ ในปี 2018 นับจากนั้นมาความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติก็ลดถอยลง และยังไม่ฟื้นตัวจนถึงบัดนี้ นอกจากนี้ สงครามกับเยเมนที่ยืดเยื้อมากว่า 5 ปี ก็ทำให้ซาอุฯ แทบหมดหน้าตักโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร และยังมีวิกฤตการทูตกับกาตาร์ที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 6 ประเทศในกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอาหรับสั่นคลอน ปัญหารอบด้านแบบนี้ ซาอุฯ กำลังเจอวิกฤตหนักหรือไม่ พลังฟื้นตัวจากภายใน หากมองภาพรวม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกพังไปตาม…