ผู้ก่อความไม่สงบซุ่มยิงทหารชุดปฏิบัติการจรยุทธ

Loading

เมื่อเวลา 13.30 น. วันอังคารที่ 17 มิ.ย.68 ตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ (ชป.จรยุทธ) กองร้อยทหารราบที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบที่ 1 ( ร้อย ร.ที่ 1 ฉก.พัน.ร.ที่ 1 ) ในพื้นที่บ้านวังหิน หมู่ 8 อ.บันนังสตา

ผลตรวจสอบโดรน ที่ถูกฝังไว้ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ถูกดัดแปลงเป็นโดรนโจมตี

Loading

ผลตรวจโดรนขนาดใหญ่ 2 ตัว ที่ถูกฝังดินที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา พบดัดแปลงเป็นโดรนโจมตี เจ้าหน้าที่มุ่ง 2 ประเด็น เตรียมการก่อเหตุ-ใช้ในการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน – คนร้าย ยิง อส. ชคต.ตลิ่งชัน บาดเจ็บ จี้ชิงรถกระบะชาวบ้าน หลบหนี ล่าสุดพบรถแล้ว ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ตลิ่งชัน

ทหารพรานถูกซุ่มยิงขณะตั้งจุดตรวจในพื้นที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส​ ขณะเดียวกัน สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ถูกยิง

Loading

กลุ่มป่วนใต้ไม่หวั่นเกรงเจ้าหน้าที่ เปิดฉากลอบยิงทหารพรานขณะตั้งจุดตรวจหน้าฐานปฏิบัติการ ในพื้นที่รือเสาะ นราธิวาส สุดท้ายยิงปะทะกันสนั่น เจ้าหน้าที่อยู่ที่โล่งแจ้ง โดนกระสุนบาดเจ็บ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 นาย ส่วนที่จะแนะ อส.ถูกซุ่มยิงอีกราย

กลุ่มก่อความไม่สงบ ยิง อส.ชุดคุ้มครองที่ยะลา

Loading

17 พ.ค. 68 – ศูนย์วิทยุ สภ.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุกลุ่มก่อความไม่สงบไม่ทราบกลุ่ม-จำนวน ใช้อาวุธปืน ลอบยิงเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.ลำใหม่ ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย เหตุเกิดบริเวณทางขึ้นเขานางแก้ว หมู่ที่ 4 บ้านลำใหม่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

ยะลาคุมเข้ม! หลังผู้ก่อไม่ความสงปรับแผน หวังก่อเหตุความรุนแรงป่วนใต้ระลอกใหม่.

Loading

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาเหตุการณ์การก่อความไม่สงบได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้มาตรการเชิงรุกจนสามารถจับกุมแกนนำ ตรวจยึดอาวุธ และส่วนประกอบวัตถุระเบิดได้เป็นจำนวนมากจนทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบได้พยายามตอบโต้ซึ่งจะเห็นได้ว่าขณะนี้กลุ่มคนร้ายได้พยายามเริ่มก่อเหตุอีกระลอกและได้พุ่งเป้าในการก่อเหตุมาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และมุ่งทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มข้น

เหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ ตอกย้ำรอยร้าวอินเดีย-ปากีสถาน

Loading

      อินเดียดำเนินมาตรการทางการทูตหลายประการต่อปากีสถาน หลังจากเกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ฝั่งที่อินเดียปกครอง โดยกล่าวหาว่าอิสลามาบัดให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แม้ปากีสถานจะปฏิเสธความเกี่ยวข้อง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยมีความกังวลว่าอินเดียอาจกำลังเริ่มเปิดฉากเคลื่อนไหวเชิงรุก ซึ่งอาจลุกลามไปถึงการปะทะทางทหาร หนึ่งในมาตรการตอบโต้ของอินเดียคือ การระงับสนธิสัญญาการแบ่งปันน้ำจากแม่น้ำสินธุที่ลงนามตั้งแต่ปี 1960 และการปิดด่านพรมแดนหลักระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเรียกเจ้าหน้าที่ทูตกลับและลดจำนวนเจ้าหน้าที่จากสถานทูตในอิสลามาบัด พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ของปากีสถานเดินทางออกจากอินเดียด้วย   เหตุการณ์โจมตีเมื่อวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน ซึ่งเป็นชาวอินเดียเกือบทั้งหมด ยกเว้น 1 คนที่เป็นชาวเนปาล นับเป็นการโจมตีพลเรือนครั้งรุนแรงที่สุดในพื้นที่แคชเมียร์ในรอบ 25 ปี ประชาชนทั่วอินเดียร่วมจัดพิธีศพและจุดเทียนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับรัฐบาลอินเดีย เนื่องจากผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าไปที่พลเรือนและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ในอดีตที่มักโจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอินเดีย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ให้คำมั่นว่าจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยประกาศว่าแผนการชั่วร้ายของพวกเขาจะไม่มีวันสำเร็จ ขณะที่ นายอิชาค ดาร์ รองนายกรัฐมนตรีของปากีสถาน กล่าวว่า อิสลามาบัดจะมีการตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน         ท่าทีของอินเดีย เหตุโจมตีเกิดขึ้นที่เมือง Pahalgam สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมกลางภูเขา โดยคนร้ายที่ซ่อนอยู่ในป่ากราดยิงนักท่องเที่ยวด้วยอาวุธปืนอัตโนมัติ…