หลังจากต่อสู้คดีมายาวนานหลายปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฮอร์เฮ ซาโมรา-เกซาดา นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไขข้อและกระดูกวัย 68 ปีก็ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 10 ปี และคุมประพฤติ 3 ปี ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง ฉ้อโกงด้านการดูแลสุขภาพหลายกระทง รวมทั้งสมรู้ร่วมคิดในการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช สว.กก.4 บก.ป. และนายณภัทร เทอดไทย ผู้แทนของธนาคารเกียรตินาคิน ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.นุชรีย์ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่แผนกนักวิชาการเงินและบัญชี กองการคลังเทศบาลเมืองพิจิตร, น.ส.จุฬาพร อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่นักจัดการงานทั่วไป และ น.ส.อมรรัตน์ อายุ 51 ปี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2567 นาย สกอตต์ เจนกินส์ อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หรือนายอำเภอ ประจำเขตคัลเปเปอร์ เคาน์ตี ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ถูกคณะลูกขุนตัดสินให้เขามีความผิดจริงข้อหารับเงินสินบนมากกว่า 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.45 ล้านบาท)
เจแปน ทูเดย์ รายงานว่า ตำรวจใน จ.ชิบะ ได้จับกุมพยาบาลวัย 32 ปี ในข้อหาสงสัยว่าขโมยเงินของผู้หญิงวัย 60 ปี ซึ่งเธอให้บริการดูแลที่บ้านตำรวจ เปิดเผยว่า ฮิโรมิ ซาโตะ ถูกกล่าวหาว่าใช้บัตรเงินสดของหญิงคนดังกล่าว ไปขโมยเงิน 50,000 เยน และ 11,420 บาท จากบัญชีธนาคารของเธอ ตามการรายงานของ หนังสือพิมพ์ซันเคอิ ชิมบุนตำรวจ กล่าวว่า ซาโตะ ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในเมืองยาจิโย จ.ชิยะ เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ว่าคณะกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ( ดีพี ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลไต้หวัน ออกแถลงการณ์เรื่องการปลดสมาชิก 5 คนของพรรค “เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพรรค และความมั่นคงของชาติ”ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 5 คนมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการจารกรรม ซึ่งไม่เพียงเป็นการละเมิดกฎหมายของไต้หวัน แต่ยังเป็นการะละเมิดกฎระเบียบ และ “คุณค่าซึ่งเป็นแกนกลางของพรรค” อีกด้วย โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพรรคดีพี ที่มีการขับสมาชิกออกจากพรรค ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความมั่นคง
ผลการสอบสวนผู้พิพากษารายแรก มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ ไม่สำรวมกิริยามารยาท และเข้าไปก้าวก่ายแทรกแชง การพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น อันเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธธรรมของข้าราชการตลาการกรณีเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควร “ให้ออกจากราชการ”
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว