การวิเคราะห์ว่า เหตุใด ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Fattah-1 ที่อิหร่านผลิต จึงมีความโดดเด่นเมื่อถูกใช้งาน การป้องกันภัยจากการรุกรานของฝั่งตะวันตก ทำให้เกิดพัฒนาการที่รุดหน้าและเข้ามาเปลี่ยนแปลงคลังอาวุธของกองทัพอิหร่านให้มีความทันสมัยมากกว่าเดิม ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ระบบป้องกันตัวเอง


ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Fattah-1 เป็นการพัฒนาศักยภาพทางทหารของอิหร่านครั้งสำคัญ ผสานความเร็ว ความคล่องตัว พิสัยการโจมตีระยะไกล เพื่อท้าทายระบบป้องกันขีปนาวุธ Fattah-1 ออกแบบโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ใช้ ความเร็วเหนือเสียง โดยมีความเร็วระหว่างมัค 5 ถึงมัค 15 หรือประมาณ 6,180 กม./ชม ไปจนถึง 18,540 กม./ชม. มีพิสัยการโจมตีประมาณ 1,400 กิโลเมตร แตกต่างจากขีปนาวุธแบบขีปนาวุธข้ามทวีปทั่วไปที่เคลื่อนที่ตามเส้นโค้งของโลกที่ระบบตรวจจับสามารถคาดเดาทิศทางได้ จรวด Fattah-1 สามารถปรับเส้นทางการบินได้อย่างฉับพลัน ซึ่งหมายความว่ามันสามารถร่อนและเปลี่ยนวิถีการบินภายในชั้นบรรยากาศ ทำให้ระบบป้องกันขีปนาวุธ เช่น Iron Dome และ Arrow ของอิสราเอล สกัดกั้นได้ยาก

ระบบขับเคลื่อนของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Fattah-1 ใช้เทคโนโลยีเชื้อเพลิงแข็ง ช่วยให้เร่งความเร็วได้อย่างฉับพลัน ทำความเร็วสูงตั้งแต่เริ่มการปล่อย เครื่องยนต์จรวดเชื้อเพลิงแข็ง ช่วยให้ขีปนาวุธมีความเร็วเหนือเสียงมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในอากาศ หลบเลี่ยงการสกัดกั้นเชิงป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีข้อบ่งชี้ว่า Fattah-1 ใช้มอเตอร์แบบ 2 ชั้น เพื่อให้เกิดความเร็วเป็นระยะๆ ในช่วงการบินเข้าสู่ดินแดนศัตรู ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งเส้นทางการบินและความเร็ว ทำให้การสกัดกั้นมีความซับซ้อนมากขึ้น ความคล่องตัว เมื่อรวมกับความเร็วเหนือเสียง ทำให้ Fattah-1 เป็นภัยคุกคามที่น่ากลัว สำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศขั้นสูงที่ไม่สามารถทำลายขณะที่พุ่งข้ามขอบฟ้าได้


อิหร่านยังไม่ได้เปิดเผยความจุสูงสุดของหัวรบนิวเคลียร์ใน Fattah-1 แต่การออกแบบแสดงให้เห็นถึงความอเนกประสงค์ ทำให้สามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกได้หลากหลาย ซึ่งรวมถึงหัวรบนิวเคลียร์แบบธรรมดา หรืออาจบรรจุอาวุธนิวเคลียร์ หากอิหร่านเลือกที่จะพัฒนาขีดความสามารถนี้ การประเมินอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า หัวรบนิวเคลียร์มีน้ำหนักระหว่าง 350 ถึง 450 กิโลกรัม ความยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มความคล่องตัวทางยุทธศาสตร์ของขีปนาวุธ เหมาะสำหรับการโจมตีทั้งเป้าหมายทางทหารและเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอิสราเอล แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ศักยภาพในการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ของ Fattah-1 บ่งชี้ว่าอิหร่านกำลังมุ่งเน้นที่จะเพิ่มระดับภัยคุกคามทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

ระบบนำวิถีของ Fattah-1 ใช้ความสามารถในการปรับเปลี่ยนเส้นทางของขีปนาวุธเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ บ่งชี้ถึงเทคโนโลยีนำวิถีที่ซับซ้อน ช่วบ กำหนดเป้าหมายของการโจมตีได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นสำหรับการโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญได้อย่างแม่นยำ การผสมผสานระหว่างความคล่องตัวความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อนเชื้อเพลิงแข็ง และระบบนำวิถีขั้นสูง ทำให้ Fattah-1 เป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อระบบป้องกันที่จะตอบโต้กลับ
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 16 มิถุนายน 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2864661