ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด ปี 2025 จะเป็นปีที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องลงทุนในเอไอเพื่อ “ก้าวให้ทัน” มิฉะนั้นอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
มองย้อนไปในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่โดดเด่นอย่างยิ่งสำหรับเอไอ ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ในการทบทวนและคาดการณ์อนาคตจากจุดยืนของเราในฐานะศูนย์กลางของเอไอในภาคธุรกิจ โดยเรามองว่า 5 เทรนด์ต่อไปนี้ คือเทรนด์เอไอที่ภาคส่วนธุรกิจต้องจับตามองในปี 2025
1. การสร้างผลตอบแทนเชิงบวกด้วยเอไอ ผลตอบแทนจากการลงทุน ถือเป็นหัวข้อสำคัญเมื่อพูดถึงการนำเอไอมาใช้ แต่ด้วยต้นทุนที่สูง ความเสี่ยงในการเริ่มโครงการ ค่าใช้จ่ายจากผู้ให้บริการ ระบบเก่าที่ต้องปรับปรุงให้รองรับการใช้งาน
รวมไปถึงโครงสร้างข้อมูลที่ยังไม่พร้อม และข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้หลายโครงการเอไอถูกมองว่าน่าสนใจแต่ยังไม่จำเป็น และมีความเสี่ยงสูง สุดท้ายเอไอจึงถูกลดบทบาทเป็นเพียงพื้นที่สำหรับทดลอง และถูกมองว่าเป็นการเตรียมตัวสำหรับอนาคตที่ทุกคนเชื่อว่าจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ในปี 2024 การลดต้นทุนของระบบคลาวด์ การพัฒนาของเทคโนโลยี Generative AI การพัฒนาผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปในอุตสาหกรรม ล้วนช่วยพลิกโฉมการสร้างผลตอบแทนจากการใช้งานเอไอ ให้กลับมาน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
2. Agentic AI Agentic AI เป็นการทำงานแบบบูรณาการที่เอไอสามารถดำเนินงานต่างๆ ด้วยตนเองได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้สามารถร่วมมือกับพนักงานในการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้ในทุกมิติ
โดย Agentic AI มีศักยภาพที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า และสนับสนุนการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านผลตอบแทนและต้นทุนการลงทุน
นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของโครงการ ด้วยการประเมินผลกระทบต่อกระบวนการทำงานอย่างแม่นยำและเชื่อถือได้ รวมถึงการผสานเอไอเข้ากับกระบวนการทำงานที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยที่เข้าใจและจัดการได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ โมเดล Agentic AI ที่มีขนาดเล็กลงและออกแบบมาเพื่องานที่เฉพาะทางมากขึ้นกำลังก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่ทรงพลังแทนที่โมเดลภาษา (Large Language Model) แบบสาธารณะ
3. แนวทางการพัฒนาแบบ Unified AI Frameworks ในการผลักดันความก้าวหน้าในด้านเอไอ ได้เห็นตัวอย่างจากหลายๆ โครงการที่ขาดการวางแผนอย่างเหมาะสม ซึ่งในปีที่ผ่านมาเซอร์ทิสได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหา
ในโครงการที่ล้มเหลวอย่างน้อย 2 โครงการ การมีแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจนและรวมศูนย์แบบ Unified AI Framework
โดยเฉพาะองค์กรที่มีโครงการเอไอหลายๆ โครงการคือสิ่งที่จำเป็นมาก โดย Unified AI Framework คือการประเมินอย่างชัดเจนและครอบคลุมตั้งแต่ว่าเราควรทำอะไร ภายใต้เงื่อนไขใด
ขอบเขตงานและผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร และเราทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างไรเพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ
ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยให้แนวทางที่ชัดเจนในการตัดสินใจ รวมถึงลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อกำหนด ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ปัญหาทางกฎหมาย ทรัพย์สินทางปัญญา
และที่สำคัญคือการทำให้โครงการเอไอต่างๆ ภายในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสในการที่โครงการจะล้มเหลว
4. การออกแบบเอไอให้มีความเข้าอกเข้าใจ (Empathetic AI Design) แนวทางการพัฒนาเอไอที่เน้นความต้องการของมนุษย์ ช่วยเปลี่ยนบทบาทของเอไอจากเครื่องมือที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเดียว
ไปสู่การเพิ่มประสบการณ์และศักยภาพของมนุษย์ได้ โดยแนวทางนี้ช่วยให้องค์กรสามารถสนับสนุนพนักงานได้ดีขึ้น
อย่างการเปลี่ยนการทำงานที่ซ้ำซากให้เป็นอัตโนมัติ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างสะดวกสบายทั้งในเชิงอารมณ์และความคิดมากขึ้น
และเมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับการออกแบบเอไอที่มีความเข้าอกเข้าใจ องค์กรก็จะสามารถสร้างทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง ลดความเครียดและปัญหาภาวะหมดไฟ
สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้าหรือแม้กระทั่งเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การปรับขนาดโมเดลเอไอให้เหมาะสมขึ้น การปรับขนาดโมเดลให้เหมาะสมนี้จะเน้นการปรับปรุงระบบเดิมที่ล้าสมัย การทำความสะอาดข้อมูลให้สมบูรณ์ในครั้งเดียว
และสนับสนุนพนักงานด้วยเครื่องมือที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ ซึ่งความสำเร็จของการปรับขนาดโมเดลเอไอให้เหมาะสมจะทำให้การใช้เอไอถูกหลอมรวมเข้าไปอยู่ในกระบวนการทำงานได้ตามความเหมาะสม
แทนที่จะใช้งานเกินความจำเป็นหรือเลือกวิธีที่ไม่เหมาะสมกับเป้าหมายขององค์กรซึ่งทำให้การปรับใช้เอไอมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้
เทรนด์ทั้ง 5 ข้อนี้จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในโครงการใหม่ในภาคธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่ ภาคค้าปลีก ภาคการธนาคารและบริการทางการเงิน รวมถึงประกันภัย ภาคการผลิต ภาคสาธารณสุข และภาคการศึกษา
ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด ปี 2025 จะเป็นปีที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องลงทุนในเอไอเพื่อ “ก้าวให้ทัน” มิฉะนั้นอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การเปิดตัวโครงการเอไอที่ประสบความสำเร็จก่อนใคร
ในภาคธุรกิจหรือกลุ่มตลาดจะช่วยให้องค์กรมีต้นทุนที่ยั่งยืนและสร้างรายได้ที่เหนือกว่าได้
เนื่องจากวัฏจักรการเติบโตและการล่มสลายของธุรกิจในช่วง 500 ปีที่ผ่านมากำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยอิทธิพลของเทคโนโลยี
เพียงปีเดียวก็อาจสร้างความแตกต่างมหาศาลต่อความสามารถในการแข่งขันและความอยู่รอดในตลาดได้เตรียมตัวให้พร้อม
โดย : แรนดี้ แมคกรอว์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้า บริษัท เซอร์ทิส จำกัด
————————————————————————————————–
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 10 เมษายน 2568
Link : https://www.bangkokbiznews.com/blogs/tech/gadget/1175409